มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ฟอร์มดุ ถล่ม เมอร์ฟี่ 10-3 ผงาดแชมป์สนุกเกอร์ซีอานกรังด์ปรีซ์ 2025

“จรวดทางเรียบ” มาร์ค เจ วิลเลียมส์ นักสนุกเกอร์มือ 5 ของโลกจากเวลส์ โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง ไล่ต้อน “พ่อมดน้อย” ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 12 ของโลกจากอังกฤษไปแบบขาดลอย 10-3 เฟรม ในรอบชิงชนะเลิศศึก สนุกเกอร์ซีอานกรังด์ปรีซ์ 2025 ที่จัดขึ้น ณ ฉีเจียงสปอร์ตคอมเพล็กซ์ เมืองซีอาน มณฑลซานซี ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568

ชัยชนะดังกล่าวทำให้ วิลเลียมส์ ผงาดคว้าแชมป์ซีอานกรังด์ปรีซ์สมัยแรกในอาชีพ พร้อมรับเงินรางวัล 177,000 ปอนด์ (ประมาณ 7.7 ล้านบาท) และนับเป็นแชมป์ระดับ เวิลด์แรงค์กิ้ง รายการที่ 27 ของเจ้าตัว นับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 1992

นอกจากนี้ เขายังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักสอยคิวอายุมากที่สุดที่คว้าแชมป์รายการเวิลด์แรงค์กิ้ง ด้วยวัย 50 ปี 206 วัน ทำลายสถิติเดิมของ เรย์ เรียร์ดอน ตำนานชาวเวลส์ที่เคยคว้าแชมป์ เพลเยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 1982 ด้วยวัย 50 ปี 14 วัน

ถือเป็นเรื่องน่าทึ่ง เพราะเมื่อ 7 ปีก่อน วิลเลียมส์เคยคิดจะอำลาวงการ เนื่องจากอันดับโลกร่วงจากท็อป 16 และเริ่มหมดไฟกับกีฬาที่สร้างชื่อให้เขา แต่กลับหักปากกาเซียนเมื่อสามารถคว้าแชมป์โลกปี 2018 พร้อมกลับมาสานต่อเส้นทางอาชีพอีกครั้ง

จากความสำเร็จครั้งนี้ วิลเลียมส์ได้รับคะแนนสะสมเพิ่มถึง 169,500 คะแนน ส่งผลให้อันดับโลกขยับขึ้นจากที่ 5 มาอยู่ที่ อันดับ 4 ของโลก แซงหน้า รอนนี่ โอซัลลิแวน ที่หล่นมาอยู่อันดับ 5 ขณะที่อันดับ 1-3 ของโลกยังคงเป็น จัดด์ ทรัมป์, ไคเรน วิลสัน และ นีล โรเบิร์ตสัน ตามลำดับ

ด้านนักสอยคิวไทย “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ รั้งอันดับ 35 โลกเหมือนเดิม, “เอฟวัน” เทพไชยา อุ่นหนู ขยับขึ้นจากอันดับ 44 มาอยู่ที่ 42, “ซันนี่ อาร์แบค” อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ ขึ้นจาก 72 เป็น 70 ส่วน “มิ้งค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ร่วงจาก 109 ไปอยู่ 114 และ “ติม กาญจน์” ชัชพงศ์ นาสา หล่นจาก 111 ไปอยู่อันดับ 115 ของโลก

ขณะที่ ฌอน เมอร์ฟี่ รองแชมป์ศึกนี้ ต้องพ่ายไปอย่างขาดลอย แม้เพิ่งคว้าแชมป์ บริติชโอเพ่น 2025 เมื่อเดือนก่อน และทำผลงานยอดเยี่ยมตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยทำ เซ็นจูรี่เบรก ได้ถึง 8 ครั้ง เป็นอันดับ 2 รองจาก แกรี่ วิลสัน ที่ทำได้ 10 ครั้ง

ในรอบชิงชนะเลิศ ความเก๋าของวิลเลียมส์ทำให้เมอร์ฟี่ออกคิวไม่ถนัด ตั้งแต่เซสชั่นแรกที่ตามหลังถึง 1-7 ก่อนจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ 3-10 เฟรม

เมอร์ฟี่รับเงินรางวัลรองแชมป์ 76,000 ปอนด์ (ราว 3.3 ล้านบาท) พร้อมเก็บคะแนนสะสมเพิ่มอีก 68,500 คะแนน ขยับอันดับโลกจากที่ 12 ขึ้นมารั้ง อันดับ 9 ของโลก