มาร์ค อัลเลน ดวล โจ ยู่ หลง ลุ้นแชมป์สอยคิวอิงลิชโอเพ่น 2025 วันที่ 21 ก.ย. ที่อังกฤษ โดยทั้งคู่ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้มาก่อน
ศึกสอยคิวอิงลิชโอเพ่น 2025 ณ เบรนท์วูดเซ็นเตอร์ เมืองเบรนท์วูด ประเทศอังกฤษ กำลังจะมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากสองจอมคิวที่ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศ อันประกอบด้วย "ปืนพก" มาร์ค อัลเลน มือ 10 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ กับ "มังกรทะยาน" โจ ยู่ หลง มือ 32 ของโลกจากจีน ยังไม่เคยชูถ้วย "สตีฟเดวิสโทรฟี่" มาก่อน
นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังไม่เคยผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศรายการนี้อีกด้วย เท่ากับว่า การแบทเทิ่ลเพลงคิวในแมตช์ชี้ชะตาวัดแชมป์ในวันที่ 21 ก.ย.68(เซสชั่นแรก 19.00 น.,เซสชั่น 2 เวลาตี 1) จะเป็นหนแรกที่ทั้งคู่ได้วาดลวดลาย ในศึกอิงลิชโอเพ่น 2025 รอบชิงชนะเลิศ
ก่อนจะดวลกันในแมตช์ไฟนั่ลราวด์ ไปดูเส้นทางของทั้งคู่กันก่อน โดยจะเริ่มจาก โจ ยู่ หลง ผู้ที่มาจากสายบน กล่าวได้ว่า นักแม่นรูวัย 27 ปีจากเมืองเฉิงตู เข้าชิงแบบเหนือความคาดหมาย เพราะนอกจากอันดับโลก จะไม่ได้อยู่ในท็อป 16 ของโลกแล้ว เส้นทางก่อนเข้าชิง เต็มไปด้วยมือพระกาฬทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้เส้นทางจะมีอุปสรรคเพียงใด แต่จอมคิวจากแดนมังกร ก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรค จนสามารถผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
พร้อมกับโค่นคู่แข่งที่เคยคว้าแชมป์โลกถึง 3 คน อันประกอบด้วยการเอาชนะ มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 5 ของโลกจากเวลส์(แชมป์โลก 3 สมัย), เฉือน ลูก้า เบรเซล มือ 41 ของโลกจากเบลเยียม(แชมป์โลกปี 2023) ไปอย่างระทึก 5-4 เฟรมในรอบก่อนรองชนะเลิศ ทั้งๆที่ตามหลัง 2-4 เฟรม และล่าสุดในรอบตัดเชือก จัดการปราบอดีตแชมป์โลก 4 สมัยอย่าง มาร์ค เซลบี้ มือ 9 ของโลกจากอังกฤษ 6-3 เฟรม
ที่ผ่านมา โจ ยู่ หลง ถือเป็นนักสอยคิวที่อาภัพและน่าเห็นใจคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเขายังไม่เคยคว้าแชมป์รายการอาชีพได้เลยแม้แต่หนเดียว นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2014 เป็นต้นมา มีโอกาสเข้าชิง 3 ครั้งแต่ก็ผิดหวังได้แค่รองแชมป์ทั้งหมด
น่าติดตามว่า เขาจะสามารถปลดล็อกคว้าถ้วยแชมป์อาชีพใบแรก จากการเข้าชิงครั้งที่ 4 มาประดับบารมีได้หรือไม่
กระนั้นก็ตาม คู่แข่งของ โจ ยู่ หลง ในแมตช์รอบชิงชนะเลิศอย่าง มาร์ค อัลเลน นับว่าเป็นกระดูกชิ้นโต ที่ถูกมองว่าเหนือกว่าหลายขุม
นอกจากจะมีอันดับโลกที่ดีกว่าแล้ว ตลอดการพบกัน 3 ครั้งที่ผ่านมา อัลเลน ก็เหนือกว่า จากการเอาชนะไปได้ 2แมตช์ ซึ่งแมตช์ล่าสุดคือการเอาชนะในศึกนอร์เทิร์นไอร์แลนด์โอเพ่น 2022 รอบชิงชนะเลิศเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยสกอร์ 9-4 เฟรม ส่วน โจ ยู่ หลง เอาชนะไปแมตช์เดียวเท่านั้น
ที่สำคัญ บนเส้นทางสายล่างของจอมคิววัย 39 ปีจากไอร์แลนด์เหนือ เขาเอาชนะคู่แข่งในเฟรมตัดสินถึง 4 แมตช์หลังสุด โดย 3 นัดหลังสุด คือการโกงความตาย โดนคู่แข่งขึ้นแท่นแล้วพลิกกลับมาชนะอย่างเหลือเชื่อ
ไล่ตั้งแต่รอบ 16 คนโดน ติง จุ้น ฮุย มือ 7 ของโลกจากจีนนำ 3-0 เฟรม แต่แซงกลับมาชนะ 4-3 เฟรม, ต่อด้วยรอบก่อนรองชนะเลิศ ตามหลัง เอลเลียต สเลซเซอร์ มือ 23 ของโลกจากอังกฤษ 0-4 เฟรม แต่ฮึดพลิกนรกกลับมาคว้าชัยราวปาฏิหาริย์ 5-4 เฟรม และล่าสุดในรอบรองชนะเลิศโดน แจ๊ค โจนส์ มือ 22 ของโลกจากเวลส์ขึ้นแท่นนำ 5-3 เฟรม แต่พลิกแซงอย่างเหลิอเชื่อ 6-5 เฟรม
การเอาชนะคู่แข่งในเฟรมตัดสินมาถึง 4 แมตช์ติด พร้อมกับโกงความตายด้วยการพลิกชะตากลับมาคว้าชัยทั้งๆที่ถูกขึ้นแท่นก่อนถึง 3 นัดหลังสุด ได้สร้างพลังอันฮึกเหิมและความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้นให้กับ มาร์ค อัลเลน ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกจากนี้ จากการที่เขาเคยคว้าแชมป์รายการอาชีพมาแล้ว 16 ครั้ง(รายการเวิลด์แรงค์กิ้ง 11 แชมป์, รายการ non-ranking อีก 5 แชมป์) จึงทำให้นักแม่นรูจากไอร์แลนด์เหนือ จะลงเล่นในบรรยากาศรอบชิงชนะเลิศที่กดดันน้อยกว่า โจ ยู่ หลง ที่อกหักในรอบชิงมาแล้วถึง 3 ครั้งจนยังไปไม่ถึงตำแหน่งแชมป์สักที
ด้วยเหตุดังกล่าวที่กล่าวมา จึงทำให้ มาร์ค อัลเลน ถูกมองว่าเป็นต่อหลายขุม และมีโอกาสมากกว่าที่จะคว้าแชมป์อิงลิชโอเพ่นมาครองเป็นสมัยแรก