เจาะลึกศึกสนุกเกอร์ “ซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส 2025” ดวลคิว 8-16 ส.ค. นี้ ที่เจดดาห์ แชมป์รับ 500,000 ปอนด์ (ราว 22 ล้านบาท) เงินรางวัลรวมทะลุ 99 ล้าน เทียบเท่าชิงแชมป์โลก ดึง 5 นักสนุกเกอร์ไทยร่วมชิงชัยครบหน้า
แม้จะไม่ใช่รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ทัวร์นาเมนต์ เหมือนดั่งศึกชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ และมาสเตอร์ส ทว่าศึกซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส ต่างเป็นที่หมายปองของนักสนุกเกอร์แต่ละคน เพราะตำแหน่งแชมป์ ได้เงินเทียบเท่ากับการคว้าแชมป์โลกเลยทีเดียว ด้วยมูลค่า 500,000 ปอนด์(ราวๆ 22 ล้านบาท) จากเงินรางวัลรวมทั้งหมด 2,302,000 ปอนด์(ราวๆ 99 ล้านบาท)
นับเป็นเงินรางวัลสำหรับแชมป์ ที่มากกว่าแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพถึง 2 เท่า และมากกว่าการคว้าแชมป์มาสเตอร์สถึง 150,000 ปอนด์เลยทีเดียว
ผู้ที่คว้าแชมป์ ได้รับทรัพย์ก้อนโต 500,000 ปอนด์ เทียบกับศึกชิงแชมป์โลกก็จริง ทว่าไม่ต้องทรมานกายและทรมานใจ ลงแข่งขันมาราธอนยาวนานเท่ากับศึกชิงแชมป์โลก ที่ต้องดวลคิวถึง 17 วัน ด้วยจำนวนเฟรมที่ยาวนาน(ถ้าใครมาจากรอบคัดเลือก ก็บวกเพิ่มไปอีก 10 วัน)
โดยศึกสอยคิวซาอุฯมาสเตอร์ส บรรเลงเพลงคิวกันแค่ 9 วันเท่านั้น แถมจำนวนเฟรมน้อยกว่าครึ่งต่อครึ่งด้วย
ยกตัวอย่างแค่รอบชิง ซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส แข่งขันแค่ระบบ 10 ใน 19 เฟรม ตรงข้ามกับชิงแชมป์โลกที่จะแบทเทิ่ลเพลงคิวกันอย่างทรหดถึง 4 เซสชั่น ด้วยระบบ 18 ใน 35 เฟรมเลยทีเดียว
เรียกได้ว่า การได้แชมป์รายการนี้บนผืนแผ่นดินเศรษฐีน้ำมัน มันได้ 500,000 ปอนด์ด้วยการใช้พลังงานที่น้อยกว่าการคว้าแชมป์โลกนั่นเอง
นอกจากนี้ ศึกซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส ยังไม่เหมือนกับรายการอื่น เนื่องจากเป็นเพียงรายการเดียว ที่ให้เงินรางวัลกับนักสนุกเกอร์ทุกคนในทัวร์ ไม่เว้นแม้แต่ผู้เล่นที่ตกรอบคัดเลือกรอบแรก โดยได้รับ 2,000 ปอนด์(ราว 8.6 หมื่นบาท) ซึ่งจะตรงข้ามกับรายการอื่น ที่ใครก็ตามที่ตกรอบคัดเลือกรอบแรก จะไม่ได้เงินรางวัลแม้แต่สลึงเดียว
ด้วยเหตุผลที่เอ่ยมา จึงทำให้ตำแหน่งแชมเปี้ยนในศึกซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส 2025 ต่างเป็นที่หมายปองของบรรดานักแม่นรูแต่ละคน เพราะผู้ที่ได้แชมป์ จะพลิกชะตากลายเป็นเศรษฐีขนาดย่อมเลยทีเดียว
ด้านความเป็นมาของรายการนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 5-6 ปีก่อน ในยุคที่ “พ่อมดแห่งวงการสอยคิว” แบร์รี่ เฮิร์น ยังดำรงตำแหน่งประธานเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST)อยู่
ณ เวลานั้น แบร์รี่ เฮิร์น มองการณ์ไกล ด้วยการใช้เทคนิคการเจรจาทางธุรกิจ นำเอาสนุกเกอร์อาชีพมาแข่งขันที่ซาอุดีอาระเบียจนได้ โดยได้มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ พร้อมจะระเบิดศึกครั้งแรกในปี 2020
ทว่าเมื่อถึงเวลาแข่งขัน ทั่วโลกต้องเจอกับโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้รายการนี้ ต้องเลื่อนออกมาเรื่อย กว่าจะได้ฤกษ์เปิดฉาก ก็ต้องรอถึง 4 ปี นั่นก็คือปี 2024 หรือปีที่แล้วนั่นเอง โดย “เพชรฆาตปืนกล” จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมคิวคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง หลังรอบชิงเฉือน มาร์ค เจ วิลเลียมส์ จากเวลส์ไปอย่างระทึก 10-9 เฟรม
ส่วนนักสนุกเกอร์ไทยอย่าง “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นคนแรก ที่แทงแม็กซิมั่มเบรก(ตบไม้เดียว 147 แต้ม) ในรายการนี้ได้อีกด้วย ในระหว่างแมตช์ที่เอาชนะ อาเมียร์ ซาร์โคช จากอิหร่าน 4-1 เฟรม ในรอบ 80 คนสุดท้าย
นับว่าน่าเสียดาย ที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน ไม่ได้มีเงินรางวัลสำหรับผู้ที่แทง 147 ให้ มีเพียงรางวัลเบรกสูงสุดเท่านั้น แต่ก็ถือว่าไม่น้อยเช่นกัน มูลค่า 50,000 ปอนด์(ราว 2.1 ล้านบาท)
สำหรับศึกซาอุดีอาระเบียมาสเตอร์ส 2025 บรรดานักกีฬาในทัวร์ ต่างตบเท่าเข้าร่วมแข่งขันกันถ้วนหน้า รวมถึง 5 จอมคิวชาวไทยด้วย ได้แก่ “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ มือ 33 ของโลก, “เอฟวัน” เทพไชยา อุ่นหนู มือ 46 ของโลก, “ซันนี่ อาร์แบค” อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ มือ 70 ของโลก, “มิ้งค์ สระบุรี” ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 96 ของโลก และ “ติม กาญจน์” ชัชพงศ์ นาสา มือ 96 ของโลก