อินเดียนโอเพ่นหวนคืนสู่ปฏิทินสอยคิวโลกซีซั่นหน้า

ในระหว่างที่แฟนสนุกเกอร์กำลังลุ้นและเชียร์ศึกแชมป์เหนือแชมป์ หรือรายการแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยนส์ 2022 กันอยู่ ณ เวลานี้ มีข่าวสารออกมาจากประเทศอินเดียว่า ศึกสอยคิวอินเดียนโอเพ่น ที่เคยอยู่ในสารบบการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกมา 5 ปี จะหวนคืนสู่ปฏิทินของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) อีกครั้งในฤดูกาลหน้า (2023-2024) หลังจากหายไปนานกว่า 3 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

เรื่องนี้ สื่อจากแดนภารตะหลายสำนัก ต่างรายงานตรงกันว่า สหพันธ์บิลเลียดและสนุกเกอร์แห่งอินเดีย(BSFI) พร้อมที่จะจัดการแข่งขันอินเดียนโอเพ่นในฤดูกาลหน้า แต่ยังไม่ชัวร์ว่าจะจัดในช่วงใด

ด้าน เอส. บาลาซูบรามาเนียม ประธานสหพันธ์บิลเลียดและสนุกเกอร์แห่งอินเดีย(BSFI) ได้กล่าวกับ "เดอะฮินดู" สื่อดังแห่งแดนโรตีว่า อินเดียพร้อมแล้ว ที่จะจัดการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกอีกครั้ง หลังห่างหายไปนานกว่า 3 ปี แต่ยังต้องหารือกับเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) อีกครั้ง ว่าจะบรรจุลงปฏิทินแข่งขันในช่วงไหน ถึงจะเหมาะสมที่สุด โดยอาจจะเป็นอีก 12 เดือน หรือ 18 เดือนข้างหน้า

ถ้าเป็นอีก 12 เดือนข้างหน้า ก็จะใช้ชื่อการแข่งขันว่า “อินเดียนโอเพ่น 2023” แต่หากจัดในอีก 18 เดือนถัดไปก็จะต้องใช้ชื่อทัวร์นาเมนต์ว่า "อินเดียนโอเพ่น 2024"

ปัจจุบัน หิมานชู จาอิน เป็นนักสอยคิวอินเดียเพียงหนึ่งเดียว ที่แข่งขันอยู่ในทัวร์สนุกเกอร์อาชีพโลก หลังได้สิทธิ์จากการ์ดทัวร์ในศึกคิวสกูลเอเชีย-โอเชียเนีย 2022 สนาม 2 จากการเอาชนะ "นุ้ก สงขลา" กฤษณัส เลิศสัตยาทร ในรอบชิงตั๋วไปได้อย่างฉิวเฉียด 4-3 เฟรม ที่ราชกรีฑาสโมสร ประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

ประธานสอยคิวอินเดียได้ยืนยันว่า หิมานชู จะได้ลงแข่งขันต่อหน้าแฟนสนุกเกอร์อินเดีย ที่จะเข้ามาให้กำลังใจอย่างล้นหลามแน่นอน อีกทั้งยังจะให้สิทธิ์ไวลด์การ์ดนักสอยคิวอินเดียระดับสมัครเล่นอีกราวๆ 20 คน ให้ลงแข่งขันรายการนี้อีกด้วย

ดังนั้น แฟนสนุกเกอร์มีโอกาสได้เห็นนักสอยคิวระดับแนวหน้าของอินเดียหลายคน ที่เคยมีประสบการณ์ลงแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกมาแล้ว อาทิ ปันกาจ แอดวานี่ อดีตแชมป์สมัครเล่นโลก 3 สมัย หรือ อดิตยา เมห์ทา อดีตแชมป์เอเชีย 2012 เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ ศึกสอยคิวอินเดียนโอเพ่น เคยจัดมาแล้ว 5 ครั้ง ได้แก่ปี 2013, 2015, 2016, 2017 และ 2019 โดยแชมป์ในแต่ละครั้งไม่ซ้ำหน้ากันเลย ประกอบด้วย ติง จุ้น ฮุย (แชมป์อินเดียนโอเพ่น 2013), ไมเคิล ไวท์ (แชมป์อินเดียนโอเพ่น 2015), แอนโธนี่ แม็คกิลล์ (แชมป์อินเดียนโอเพ่น 2016), จอห์น ฮิกกินส์ (แชมป์อินเดียนโอเพ่น 2017) และ แมทธิว เซลต์ (แชมป์อินเดียนโอเพ่น 2019)

อย่างไรก็ตาม ด้วยเงินรางวัลที่ไม่มากเท่าไหร่เมื่อเทียบกับรายการอื่น โดยแชมป์รับทรัพย์เพียง 50,000 ปอนด์เท่านั้น หากคิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ  2.1 ล้านบาท จึงทำให้นักสอยคิวมืออันดับต้นๆของโลก เลือกที่จะเมินมาแข่งขันอินเดียนโอเพ่นอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมือพระกาฬเหล่านี้ ต่างมองว่าเงินรางวัลไม่คุ้มค่าต่อการเดินทางมาร่วมดวลคิว ไหนจะต้องเสียทั้งค่าที่พักและค่าเดินทางอีก

โดยเฉพาะ "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ที่เป็นสเมือนซูเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของวงการ ไม่เคยไปแข่งขันที่อินเดียเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วน นีล โรเบิร์ตสัน มือ 2 ของโลกจากออสเตรเลีย, จัดด์ ทรัมป์ มือ 3 ของโลกจากอังกฤษ และ มาร์ค เซลบี้ มือ 4 ของโลกจากอังกฤษ ต่างมีประสบการณ์ไปแข่งอินเดียนโอเพ่นแค่หนเดียวเท่านั้น

มาร์ค อัลเลน มือ 9 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ เคยไปแทงรายการนี้มา 2 ครั้ง ส่วน มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 6 ของโลกจากเวลส์ เคยไปดวลคิว ณ แดนภารตะ 3 หน 

ในบรรดามือพระกาฬ ที่ไปแข่งขันอินเดียนโอเพ่นบ่อยหน่อย เห็นจะเป็น จอห์น ฮิกกินส์ มือ 5 ของโลกจากสกอตแลนด์ ที่ไปดวลคิว ณ แดนโรตีถึง 4 ครั้งจากทั้งหมด 5 ครั้ง แถมได้แชมป์มา 1 หนด้วยในปี 2017 

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อดีตแชมป์โลก 4 สมัยผู้นี้ แกติดใจอะไรที่อินเดียหรือไม่ ถึงได้เดินทางไปแข่งขันที่นั่นแทบทุกครั้ง ซึ่งแตกต่างจากมือท็อปของโลกคนอื่นอย่างสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้ น่าติดตามว่า เมื่ออินเดียนโอเพ่นหวนมาจัดอีกครั้ง เงินรางวัลจะเยอะขึ้นหรือไม่ 

ถ้าต้องการให้นักสอยคิวระดับบิ๊กเนมมาแข่งขันเยอะๆ เงินรางวัลสำหรับแชมป์ก็ควรจะสูงกว่า 100,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.2 ล้านบาท) ขึ้นไป เหมือนดั่งที่จีนหรือฮ่องกงจัด แต่หากเงินรางวัลสำหรับแชมป์ยัง 50,000 ปอนด์เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อย มือดังๆก็คงเซย์โน ไม่ไปแข่งขันเหมือนเช่นเคย

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport