"รอนนี่" แรงปลายแซง "จัดด์" ผงาดแชมป์สนุกเกอร์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2024

ในรอบชิงชนะเลิศ "รอนนี่" จัดการปราบพยศนักสอยคิวรุ่นน้องร่วมชาติอย่าง "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 2 ของโลกไป 10-7 เฟรม ทั้งๆที่ในเซสชั่นแรก "เดอะร็อกเก็ต" ออกสตาร์ทไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อตามหลัง 0-4 เฟรม  อย่างไรก็ตาม พอเครื่องเริ่มร้อน โดยเฉพาะในเซสชั่นที่ 2 จอมคิววัย 48 ย่าง 49 ก็เร่งเครื่องจนแซงเอาชนะไปในที่สุด ผงาดแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซไปครองเป็นสมัยที่ 3 ต่อจากปี 2018 และ 2021 คว้าเงินรางวัลไปครอง 100,000 ปอนด์(ราวๆ 4.5 ล้านบาท)

นอกจากนี้ มหาเทพแห่งวงการสอยคิวยังได้รับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 100,000 แต้ม ครองบัลลังก์อันดับ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่น โดยทิ้งห่างอันดับ 2 ของโลกอย่าง ทรัมป์  173,500 คะแนน โดยจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ รอนนี่ ขยายสถิติการเป็นนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง (รายการที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก) มากที่สุดในโลกออกไปอีก ด้วยผลงาน 41 รายการ

ด้วยผลงานที่กำลังร้อนแรง เชื่อว่าแชมป์เวิลด์แรงค์กิ้งทัวร์นาเมนต์ของเขา จะมีถ้วยใบที่ 42 ในอีกไม่ช้าอย่างแน่นอน และเชื่อว่าแฟนสนุกเกอร์ ที่ดูฟอร์มของ "เดอะร็อกเก็ต" ตั้งแต่ศึกมาสเตอร์ส 2024 เมื่อสัปดาห์ก่อน ต่อเนื่องมาจนถึงเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2024 ที่เพิ่งปิดฉากลงไป คงจะเห็นเหมือนกันว่า จอมคิวดีกรีแชมป์โลก 7 สมัยผู้นี้ ได้กลับมามีฟอร์มการแทงที่อยู่ในช่วงพีคอีกครั้ง ทั้งฝีไม้ลายมือแทบไม่ต่างจากช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่นเลย มีการเข้าเบรกที่ยอดเยี่ยม, ลูกสั้นลูกยาวยังมีความแม่นยำ แถมแท็คติกการแทงป้องกันก็ไม่เป็นสองรองใคร เรียกได้ว่าแทงดีครบเครื่องทุกด้าน ทั้งๆที่อีกปีเศษ เขาก็จะเข้าสู่วัยที่มีเลข 5 นำหน้าแล้ว นับเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและมหัศจรรย์ยิ่งนัก

ทั้งนี้หาก รอนนี่ ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นให้อยู่ในช่วงพีคไปจนถึงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เชื่อว่าสาวกกีฬาแม่นรู้ทั้งหลาย มีโอกาสไม่น้อยที่จะเห็นเขาคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 มาครอง 

ด้าน จัดด์ ทรัมป์ ที่เคยคว้าแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 3 สมัย (2015,2019,2020) ต้องอกหักกับการคว้ารองแชมป์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน หลังเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2023 เมื่อปีก่อน เขาได้รองแชมป์อย่างน่าเจ็บใจ จากการปราชัยต่อ มาร์ค อัลเลน ในรอบชิงชนะเลิศ ไปแบบฉิวเฉียดเท่านั้น 9-10 เฟรม

ส่วนการรับบทพระรองในปีนี้ แม้จะไม่ได้แพ้ในรอบชิงให้กับ รอนนี่ แบบฉิวเฉียด แต่มันก็น่าชอกช้ำระกำทรวงเช่นกัน เพราะมีหลายเฟรมที่เขาควรจะได้ โดยเฉพาะในเฟรมที่ 14 (ตบดำลูกสุดท้ายพลาด) และเฟรมที่ 15 (ตบน้ำตาลหลุมเขียวไม่ลง) จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เขาพ่ายต่อ รอนนี่ ในครั้งนี้ ซึ่งการคว้ารองแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2024 ทำให้ ทรัมป์ คว้าเงิน 40,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท)เป็นรางวัลปลอบใจ พร้อมกับได้คะแนนสะสมอีก 40,000 คะแนน ยังคงรั้งอันดับ 2 ของโลกเหมือนเดิม