"มิ้งค์ สระบุรี" สร้างประวัติศาสตร์ คิวสาวไทยคนแรกซิวแชมป์สนุกเกอร์ทัวร์ใหญ่

หลังล่าสุด นักสอยคิวมืออันดับ 3 โลกของฝ่ายหญิงรายนี้ ควงคู่ “จิงโจ้มหาประลัย” นีล โรเบิร์ตสัน มือ 4 โลกของฝั่งชายจากออสเตรเลีย เจ้าของแชมป์โลกเมื่อปี 2010 ผงาดคว้าแชมป์คู่ผสมชิงแชมป์โลก หรือเวิลด์มิกซ์ดับเบิล แชมเปี้ยนชิพ 2022 มาครองได้อย่างสุดยอดและยิ่งใหญ่ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา 

ด้วยการเอาชนะคู่ของ “ฉลามหิน” มาร์ค เซลบี้ มือ 3 ของโลกจากอังกฤษ ที่จับคู่กับ รีเบคก้า เคนนา มือ 4 ของโลกหญิงจากชาติเดียวกันไปได้ ในรอบชิงชนะเลิศ 4-2 เฟรม ณ สังเวียนมาร์แชลอารีน่า เมืองมิลตันคีนส์ ประเทศอังกฤษ

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทั้งคู่ จะฝ่าฟันอุปสรรค จนคว้าโทรฟี่แชมป์รายการที่เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) นำมาปัดฝุ่นจัดการแข่งขันอีกครั้งในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ มิใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย 

เพราะหากใครได้ติดตามการแข่งขันใน 2 แมตช์แรก ที่ดวลคิวกันไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน ซึ่งเป็นวันแรกของการดวลคิว ก็จะพบว่า ทั้งสาวมิงค์และเฮียนีล ออกสตาร์ทด้วยความปราชัยทั้ง 2 นัด เริ่มจากพ่ายคู่ของ เซลบี้ - เคนน่า 1-3 เฟรม และแพ้คู่เต็งแชมป์อย่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน(มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ) กับ เรียนน์ อีแวนส์(มือ 1 ของโลกหญิงจากอังกฤษ) ไปด้วยสกอร์ 1-3 เฟรมเช่นกัน

ทำให้สถานการณ์หลังผ่านไป 2 แมตช์แรก คู่ของนักสอยคิวสาวไทยเข้าขั้นวิกฤติโคม่า รั้งตำแหน่งบ๊วยของกลุ่ม ด้วยการมีเพียง 2 คะแนนเท่านั้น มีโอกาสตกรอบสูงเลยทีเดียว แถมฟอร์มของ ณัชชารัตน์ ยังไม่เข้าฝักอีกต่างหาก เนื่องจากมีอาการตื่นสนามอย่างเห็นได้ชัดจนแทงไม่ออก

แต่ใครจะไปคิดว่า พอถึงวันรุ่งขึ้น(25 กันยายน) นักสอยคิวสาวแห่งแดนกะหรี่ปั๊บผู้นี้ ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกหญิงมาครองเมื่อ 7 เดือนก่อน จะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ทันเวลา จนมีส่วนสำคัญ กับการพาทีมเอาชนะคู่ของ จัดด์ ทรัมป์(มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ) กับ อึ้ง ออน ยี(มือ 2 ของโลกหญิงจากฮ่องกง) ไปอย่างขาดลอย 4-0 เฟรม

ในเฟรมที่ 3 ของแมตช์นี้ สาวมิงค์สำแดงเพลงคิวได้อย่างเอกอุ จากการเข้าเบรก 74 แต้ม กวาดไม้เดียวหมดโต๊ะ จนสร้างความประทับใจให้แฟนสนุกเกอร์ที่อยู่ในฮอลแข่งขัน รวมไปถึงผู้ที่ชมจากจอทีวีอีกหลายล้านคนได้อย่างล้นหลามอีกด้วย

ชัยชนะ 4-0 เฟรมในแมตช์ดังกล่าว นับมีความหมายอย่างมาก เพราะช่วยให้เธอกับ นีล พลิกสถานการณ์เข้ารอบชิงราวปาฏิหาริย์ ในฐานะอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ด้วยผลงาน 6 คะแนน ซึ่งมีแต้มเหนือกว่าคู่ของ รอนนี่-อีแวนส์ กับ ทรัมป์-ออน ยี ที่มี 5 และ 4 คะแนนตามลำดับ

จากนั้น ในรอบชิงชนะเลิศ สาวมิ้งค์และเฮียนีล ยังถูกมองว่าเป็นรองคู่ของ เซลบี้-เคนนา เนื่องจากคู่นี้ ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้ดีแบบไร้ที่ติ จากการเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 3-1 เฟรมครบทั้ง 3 แมตช์ เรียกได้ว่าเคมีของทั้งคู่ ลงตัวกันมาก จนวางแท็คติกเล่นร่วมกันได้ดีและเข้าขารู้ใจ แม้ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม จะถูกมองว่าเป็นเต็งแชมป์อันดับสุดท้ายก็ตาม

อย่างไรก็ดี เกมในรอบชิงชนะเลิศ กลับเป็นคู่ของสาวไทยและ นีล โรเบิร์ตสัน ที่ทำได้ดีกว่า จนเอาชนะไปได้ 4-2 เฟรม ซึ่ง มิงค์ สระบุรี โชว์ผลงานในรอบชิงได้ดีหลายช็อต โดยเฉพาะการแทงกันจนบีบเกมให้คู่แข่งแทงพลาดได้หลายหน จนกลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ที่ทำให้เธอกับเฮียนีล ผงาดแชมป์คู่ผสมโลกในคราวนี้ 

ความสำเร็จดังกล่าว นอกจากจะทำให้ทั้ง มิ้งค์-นีล รับเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์ไปคนละ 30,000 ปอนด์(ราว 1.2 ล้านบาท)แล้ว

ยังทำให้ ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการกีฬาแม่นรูบ้านเราอีกครั้ง ด้วยการเป็นนักสอยคิวหญิงไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์รายการของทัวร์ใหญ่ ที่จัดโดยเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST)อีกด้วย

ด้านคู่รองแชมป์อย่าง มาร์ค เซลบี้ กับ รีเบคก้า เคนน่า ที่ต้องการคว้าแชมป์รายการนี้ เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง ต้องพบกับความผิดหวังในท้ายที่สุด ทั้งๆที่รอบแรกคว้าชัยเหนือคู่แข่งครบทั้ง 3 นัดรวด 

ทาง มาร์ค เซลบี้ ต้องการแชมป์รายการนี้ เพื่อปลดล็อกให้กับตัวเอง หลังไร้โทรฟี่แห่งความสำเร็จมานานแล้ว นับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2021 หรือเมื่อ 16 เดือนก่อน

ขณะที่ รีเบคก้า เคนน่า เธอยังต้องรอคอยถ้วยแชมป์ใบแรกในเวทีอาชีพโลกต่อไป หลังก่อนหน้านี้ เธอมีโอกาสเข้าชิงในทัวร์สนุกเกอร์อาชีพหญิง(WWS)มาแล้วถึง 4 หน แต่ก็พลาดท่าได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์มาครองทั้งหมด 

ความผิดหวังกับตำแหน่งพระรอง-นางรอง ในศึกคู่ผสมโลกหนนี้ ทำให้ เซลบี้ กับ เคนน่า  รับเงินคนละ 20,000 ปอนด์(ราว 810,000 บาท)เป็นรางวัลปลอบใจ ขณะที่อันดับ 3 อย่าง รอนนี่-อีแวนส์ ได้รางวัลคนละ 10,000 ปอนด์(ประมาณ 405,000 บาท)

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง