ผลงานดังกล่าวของจอมคิววัย 28 ปี นับเป็นวีรกรรมที่เซอร์ไพรส์แบบมโหฬาร เพราะไม่มีผู้สันทัดกรณีคนใดกล้าคิดมาก่อน ว่าเขาจะไปได้ไกลถึงตำแหน่งแชมเปี้ยน ด้วยสถิติที่ผ่านๆมามันฟ้องได้อย่างชัดเจนว่า จอมคิวจากเบลเยียมผู้นี้ มักจะมีผลงานไม่ดีเอาเสียเลย ในศึกชิงแชมป์โลก

ก่อนหน้านี้ ลูก้า เบรเซล คว้าสิทธิ์เข้ามาดวลคิวในศึกชิงแชมป์โลกรอบเมนดรอว์(รอบ 32 คน)ได้ถึง 5 ครั้ง(ปี 2012,2017,2018,2019 และ 2022) แต่ก็ปราชัยตั้งแต่รอบแรกทั้ง 5 หน เรียกได้ว่าไม่เคยคว้าชัยในสังเวียนครซิเบิลเธียร์เตอร์ได้เลยแม้แต่แมตช์เดียว เสมือนเจ้าตัวไม่ถนัดกับการแข่งขันในจำนวนเฟรมที่ยาวนานอย่างศึกชิงแชมป์โลก แม้อันดับโลกของเขา จะอยู่ในท็อป 16 ของโลกมานานแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ ในศึกชิงแชมป์โลก 2023 เส้นทางยังมีโอกาสโคจรมาปะทะกับแชมป์เก่าและแชมป์โลก 7 สมัยอย่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ที่เป็นกระดูกชิ้นโต  รอขวางทางอยู่ในรอบก่อนรองชนะเลิศอีกต่างหาก

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้บรรดากูรูแห่งวงการคิวโลกทั้งหลาย ต่างทำนายแบบมั่นใจอย่างเต็มประดาว่า ลูก้า เบรเซล จะไปได้ไกลที่สุดเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้น จึงวางให้เขาเป็นถึงเต็ง 13 ที่จะคว้าแชมป์ ก่อนที่ศึกชิงแชมป์โลก 2023 จะเริ่มบรรเลงเพลงคิว แต่สุดท้ายท่านกูรูทั้งหลายเหล่านี้ ก็ต้องหน้าแหกไปตามๆกัน

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะคว้าแชมป์โลกสมัยแรกมาครอง ลูก้า เบรเซล ต้องฝ่าฟันคว้าชัยเหนือคู่แข่งแบบสุดระทึกทุกรอบ เริ่มตั้งแต่รอบแรก(รอบ 32 คน) สยบ ริคกี้ วัลเด่น มือ 24 ของโลกจากอังกฤษ ในเฟรมตัดสิน ด้วยสกอร์ฉิวเฉียด 10-9 เฟรม ตามด้วยรอบ 16 คนที่โค่นอดีตแชมป์โลก 3 สมัยอย่าง มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 8 ของโลกจากเวลส์ไปอย่างดุเดือด 13-11 เฟรม

จากนั้นรอบก่อนรองชนะเลิศ พลิกสถานการณ์จากตามหลัง 6-10 เฟรม ไล่กดทีเดียว 7 เฟรมรวด จนกลับมาคว้าชัยเหนือ รอนนี่ โอซัลลิแวน อย่างเหลือเชื่อ 13-10 เฟรม

ส่วนรอบรองชนะเลิศ หลายคนคิดว่าน่าจะม่องเท่งไปแล้ว จากการโดน ซื่อ เจี้ย ฮุย มือ 80 ของโลกจากจีน ผู้เป็นม้ามืดของรายการ นำห่างถึง 5-14 เฟรม ก่อนที่ เบรเซล จะมากดทีเดียว 11 เฟรมรวด พร้อมกับพลิกกลับมาคว้าชัยไปราวปาฏิหาริย์ 17-15 เฟรม ก่อนที่รอบชิงชนะเลิศ จะหักปากกาเซียนอีกครั้งด้วยการสยบ มาร์ค เซลบี้ ผู้มีความช่ำชองในการแทงที่โรงละครครูซิเบิลมากกว่า ด้วยสกอร์ 18-15 เฟรม 

การคว้าแชมป์โลกในครั้งนี้ ส่งผลให้ ลูก้า เบรเซล คว้าเงินรางวัลไปครอง 500,000 ปอนด์(ประมาณ 21 ล้านบาท) คว้าคะแนนสะสมเพิ่มอีก 485,000 แต้ม จนอันดับโลกทะยานขึ้นถึง 8 ขั้น จากอันดับ 10 ขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของโลกแล้ว เป็นรอง รอนนี่ โอซัลลิแวน แค่คนเดียว ที่ยังครองมือ 1 ของโลกเหมือนเดิม และจากการขึ้นไปครองมือ 2 ของโลกดังกล่าว ยังเป็นอันดับโลกที่ดีที่สุดของ เบรเซล อีกด้วย นับตั้งแต่เทิร์นโปรเล่นอาชีพเมื่อปี 2011 เป็นต้นมา

เหนือสิ่งอื่นใด ลูก้า เบรเซล ยังกลายเป็นนักสอยคิวคนแรกจากเบลเยียม และชาวยุโรปแผ่นดินใหญ่คนแรกอีกต่างหาก ที่คว้าแชมป์สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกมาครอง

เชื่อว่าวีรกรรมของเขาในครั้งนี้ จะช่วยจุดประกายให้สนุกเกอร์ เป็นกีฬายอดนิยมในเบลเยียม ดินแดนบ้านเกิดของเขา และอีกหลายประเทศข้างเคียงในยุโรปแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) ใฝ่ฝันมาโดยตลอด ที่จะให้ประชากรในภูมิภาคยุโรปแผ่นดินใหญ่หลายชาติ นิยมเล่นสนุกเกอร์มากยิ่งขึ้น

ด้าน มาร์ค เซลบี้ รองแชมป์โลกในคราวนี้ ต้องพลาดคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดาย ในรอบชิงชนะเลิศ เขาพยายามใช้ความเหนียวแน่นตามสไตล์มาแก้ทางแล้ว แต่ต้านทานความแม่นยำชนิดเห็นรูไม่ได้ของ ลูก้า เบรเซล ไม่อยู่จริงๆ จากการคว้ารองแชมป์โลกหนนี้ ทำให้จอมคิวจากเมืองเลสเตอร์ คว้าเงินรางวัลไปครอง 200,000 ปอนด์ (ราว 8.5 ล้านบาท)

และจากวีรกรรมแทงแม็กซิมั่มเบรกครั้งประวัติศาสตร์ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ เซลบี้ รับโบนัสไปอีก 27,500 ปอนด์(ประมาณ 1.8 ล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่แบ่งกับ ไคเรน วิลสัน มือ 7 ของโลกจากชาติเดียวกันหลัง ไคเรน แทง 147 ได้เช่นกันในรอบแรกที่เอาชนะ ไรอัน เดย์ มือ 16 ของโลกจากเวลส์ 10-5 เฟรม

อย่างไรก็ตาม แม้จะจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์โลก ทว่า มาร์ค เซลบี้ ต้องโดนหักคะแนนสะสมถึง 300,000 แต้ม ตามเงื่อนไขของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ที่จะนำจำนวนเงินนักสนุกเกอร์แต่ละคนที่ได้จากศึกชิงแชมป์โลก 2023 มาหักลบกับจำนวนเงินที่ได้จากศึกชิงแชมป์โลก 2021 เมื่อ 2 ปีก่อน

ในศึกชิงแชมป์โลก 2021 มาร์ค เซลบี้ คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 4 มาครอง จนได้เงินรางวัล 500,000 ปอนด์ ส่วนชิงแชมป์โลก 2023 ที่เพิ่งจบลงไป เขาได้รองแชมป์ รับเงินรางวัล 200,000 ปอนด์

เมื่อจำนวนเงินรางวัลที่ได้จากการคว้ารองแชมป์ศึกชิงแชมป์โลก 2023 (200,000 ปอนด์) มาลบกับเงินที่เคยได้รับจากการคว้าแชมป์โลก 2021 (500,000 ปอนด์) จึงโดนหักอย่างบานตะไทถึง 300,000 แต้มนั่นเอง (200,000 – 500,000 = -300,000) ส่งผลให้ มาร์ค เซลบี้ มีอันดับโลกร่วง 3 ขั้น จากอันดับ 2 ลงมาอยู่อันดับ 5 ของโลกแล้ว

หลังศึกชิงแชมป์โลก 2023 ได้จบลง เท่ากับว่าสนุกเกอร์อาชีพโลกฤดูกาล 2022-2023 ได้ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อย โดยจะพักฤดูกาลประมาณเกือบๆ 2 เดือน ส่วนฤดูกาลใหม่อย่างซีซั่น 2023-2024 จะเปิดฉากในช่วงปลายเดือนมิถุนายน โดยรายการแรกก็คือศึกแชมเปี้ยนชิพลีก 2023 ที่มอนิ่งไซด์อารีน่า เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งจะเริ่มดวลคิวในวันที่ 26 มิถุนายนนี้

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง