กกท. เฮ! จ่อชง ครม. เคาะต่อสัญญา "MotoGP" ไทย 5 ปี

กกท. เฮ! จ่อชง ครม. เคาะต่อสัญญา "MotoGP" ไทย 5 ปี
การกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันบรรลุข้อตกลงต่อสัญญา MotoGP ไทย กับ Dorna Sports อีก 5 ปี (ปี 2027-2031) เตรียมนำเสนอเข้าครม. 4 พ.ย.นี้ "ดร.ก้องศักด" ย้ำความคุ้มค่า ค่าลิขสิทธิ์ไม่สูง พร้อมดึงเอกชนร่วมจัดเมกะอีเวนต์ระดับโลก

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยืนยันการเจรจาต่อสัญญาจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก MotoGP กับ Dorna Sports ได้ข้อสรุปแล้ว เดินหน้านำแผนต่อสัญญาระยะยาวอีก 5 ปี (ปี 2027 - 2031) เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดสามารถเข้าสู่วาระในนัดถัดไปคือ วันที่ 4 พ.ย.นี้ "ดร.ก้องศักด" ย้ำจุดยืนที่แข็งแกร่งของ ThaiGP เป็นแต้มต่อมหาศาล รวมถึงสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท แม้จะมีค่าลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นแต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ถือว่าราคาไม่สูงและคุ้มค่าที่สุด หาก ครม.เห็นชอบ  กกท.จะเร่งดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมจัดงานอย่างเป็นรูปธรรมทันที หลังการลงนามในสัญญา เพื่อให้ MotoGP ไทยเป็นเมกะอีเวนต์ที่สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยความคืบหน้าการเจรจาต่อสัญญาโมโตจีพี สนามประเทศไทย ว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงรัฐบาล ทราบดีว่า การต่อสัญญาการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” สนามประเทศไทย ถูกจับตาจากสื่อมวลชนทั้งต่างชาติ สื่อไทย รวมถึงแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก ต่างรอคอยให้ความสนใจอย่างมากต่อสถานะของ ThaiGP หลังปี 2026 ขอยืนยันว่า ขณะนี้การเจรจาระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทยในฐานะคู่สัญญากับ Dorna Sports เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศให้มากที่สุดและเตรียมเดินหน้าเข้าสู่การอนุมัติขั้นสุดท้าย

ทั้งนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อสัญญาการเป็นเจ้าภาพ MotoGP เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก MotoGP ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับการยอมรับในระดับโลก ทั้งด้านมาตรฐานสนามและการบริหารจัดการแข่งขัน ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของประเทศ โดยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและจัดทำข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ฉบับใหม่ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐบาลให้พิจารณา

ดร. ก้องศักด ย้ำถึงความคุ้มค่าของการต่อสัญญาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า "การดำเนินการต่อสัญญา พิจารณาจากผลงานที่ผ่านมา เรามีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่า ThaiGP สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล และเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการพัฒนามิติต่างๆมากมาย อาทิ มิติในการพัฒนาด้านกีฬา, เป็น Soft Power และ Global Brand Positioning ของประเทศไทย ตลอด 6 ปี สร้างรายได้ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมสูงถึง 2.4 หมื่นล้านบาท จากการท่องเที่ยว การจ้างงาน การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น  ถือเป็นผลสำเร็จของนโยบาย Sport Tourism ของไทยอย่างแท้จริง"

โดยที่ผานมา ThaiGP มีจุดแข็งทั้งเสน่ห์วิถีไทย ที่สร้างชื่อและความประทับใจให้ประเทศไทยเป็นที่จับตามองและจารึกชื่อในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตโลกต่อเนื่องมาถึง 6 ปี รวมถึงล่าสุดกับ 2 ปีซ้อนที่ ที่เราได้เป็น “สนามเปิดศักราชของฤดูกาล” ไม่ใช่แค่สนามแข่งในปฏิทิน ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการตลาดที่ทรงพลัง และแต้มต่อที่เหนือกว่า’  22 สนามใน 18 ประเทศ

การต่อสัญญาในครั้งนี้ จะต่อสัญญาออกไป 5 ปี ระหว่างปี 2027 - 2031 (พ.ศ. 2570 - 2574) สำหรับการนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาและอนุมัติงบประมาณนั้น กำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดย คาดว่าจะสามารถนำเข้าวาระการประชุมนัดต่อไปคือ วันที่ 4 พ.ย.นี้

ผู้ว่าการ กกท. ยอมรับว่าในการต่อสัญญาครั้งนี้ มีการเพิ่มค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันขึ้นเล็กน้อย แต่ยืนยันว่าราคาของประเทศไทย "ไม่สูง" เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญคือจุดแข็งที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยเราพยายามต่อรองให้ได้เงื่อนไขที่คุ้มค่าที่สุด

โดยในแผนการจัดการแข่งขันในสัญญาฉบับใหม่ มุ่งเน้นการยกระดับการจัดการแข่งขันให้สอดคล้องกับเทรนด์โลก สร้างคุณค่า สร้างภาพลักษณ์เชิงกลยุทธ์ และผลประโยชน์สูงสุดที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพระยะยาว ซึ่งมีความชัดเจนและแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ผมมั่นใจว่าด้วยจุดแข็งที่เรามีและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เราจะสามารถนำข่าวดีมาสู่แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยและทั่วโลกได้ในเร็วๆนี้

ซึ่งหลังจากนี้หากว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอ ยังมีขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ดำเนินการจัดสรรงบประมาณทั้งงบประมาณประจำปีและงบจากกองทุนการพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF)

ดังนั้นหลังจากดำเนินการลงนามในสัญญา การกีฬาแห่งประเทศไทย มีแนวนโยบายที่จะให้ภาคเอกชน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น จะมีการเชิญภาคเอกชนเข้ามาเจรจาและร่วมในการจัดงานอย่างเป็นรูปธรรมและทันที  เนื่องจากการต่อสัญญาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับการจัดงานปีสุดท้ายของสัญญาเก่า (2026) ซึ่งถือว่าล่าช้า ทำให้ต้องมีการเร่งรัดการดำเนินงาน เร่งบูรณาการความร่วมมือด้านต่างๆของภาครัฐและเอกชนร่วมกันให้มากที่สุด เพื่อให้ MotoGP ไทยเป็นเมกะอีเวนต์ที่สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของการจัดโมโตจีพี สนามประเทศไทย ประจำปี 2026 ภายใต้ชื่อรายการ "PT Grand Prix of Thailand 2026" (พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์)  เตรียมจัดงานแถลงข่าวพร้อมเปิดจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการ วันอังคารที่ 11 พ.ย. 2568

ส่วน MotoGP ฤดูกาล 2026 นี้ ดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ "โมโตจีพี" มีแผนที่จะจัดงานเปิดตัว MotoGP ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 6-7 ก.พ. จากนั้นต่อด้วย Pre-Season Test หรือการทดสอบก่อนเปิดสนาม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศไทย ในวันที่ 21-22 ก.พ. และระเบิดศึกในประเทศไทย เป็นสนามที่ 1 เปิดฤดูกาล ระหว่างวันที่ 27 ก.พ.-1 มี.ค.2569 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

สำหรับช่องทางการเปิดจำหน่ายบัตรโมโตจีพี 2026 ได้แก่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.allticket.com เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ วันอังคาร 11 พ.ย. 2568 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจ Chang Circuit Buriram



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport