กกท.เดินหน้าลุย! จ่อต่อสัญญา "โมโต จีพี" ลุ้นเจ้าภาพยูธโอลิมปิก 2030

กกท. ชูไทยศูนย์กลาง "สปอร์ตทัวริซึม" โปรแกรมแน่นถึงปี 2569 เร่งต่อสัญญา โมโต จีพี ประเทศไทย เตรียมตอกย้ำภาพลักษณ์ศูนย์กลางการจัดกีฬาระดับโลก หรือ เวิลด์คลาสอีเวนต์ และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (สปอร์ตทัวริซึม) โดยมีโปรแกรมการแข่งขันระดับนานาชาติที่อัดแน่นตั้งแต่ปลายปี 2568 ข้ามไปจนถึงปี 2569 ขณะที่การเจรจาต่อสัญญาการแข่งขันระดับจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโต จีพี ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความหวังในการเป็นเจ้าภาพมหกรรม ยูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2030

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า นอกเหนือจากการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาใหญ่แห่งอาเซียนอย่าง ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (9-20 ธันวาคม 2568) และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (20-26 มกราคม 2569) แล้ว ประเทศไทย ยังมีกำหนดการจัดรายการระดับโลกอีกหลายรายการ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ

โปรแกรมเด่นปลายปี 2568 : ขี่ม้าชิงแชมป์เอเชีย: รายการ "FEI Asian Championships 2025" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคม 2568 ณ สนาม ขี่ม้าไทยโปโล แอนด์ อีเควสเตรียน คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี

วิ่งมาราธอนระดับโลก : การแข่งขัน "Amazing Thailand Marathon Bangkok" ซึ่งปีนี้ได้รับการยกระดับเป็น เวิลด์แคปปิตอล มาราธอน ซีรีส์ เป็นครั้งแรก จะจัดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 โดยจะมี เอเลียด คิปโชเก นักวิ่งมาราธอนชื่อดังระดับโลกชาว เคนยา เข้าร่วม

วิ่งเทรลระดับโลก : งาน UTMB เชียงใหม่ 2025 จัดระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคม 2568 โดยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงแรก (29-30 พ.ย. 68) ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และช่วงที่สอง (4-7 ธ.ค. 68) ที่ สวนสาธารณะ อบจ.เชียงใหม่

ดร.ก้องศักด กล่าวถึงรายการในปี 2569 ว่า การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโต จีพี 2026 ยังคงมีกำหนดให้ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามเปิดฤดูกาลอีกครั้ง ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2569

"สำหรับเรื่องการต่อสัญญานั้นยังอยู่ในช่วงเจรจา โดย กกท. ได้เสนอไปยังรัฐบาลแล้วว่า ควรมองถึงการต่อสัญญาออกไป เนื่องจากอีเวนต์ระดับโลกรายการนี้สร้างประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวมอย่างมหาศาล" ดร.ก้องศักด กล่าว

ในส่วนของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาในอนาคต ผู้ว่าการ กกท. ยืนยันว่า ประเทศไทย ยังคงเดินหน้าทำงานต่อไปเพื่อเสนอตัวจัด ยูธโอลิมปิกเกมส์ ปี 2030 โดยเน้นย้ำถึงแผนการเปิดโอกาสให้เยาวชนจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เข้ามาร่วมทำกิจกรรมในการแข่งขัน ซีเกมส์ และ อาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งจะถูกบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในรายงานการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพต่อ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)

"หากการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียนประสบความสำเร็จทั้ง 2 รายการ และเราสามารถจัดแข่งขันได้ตามมาตรฐานสากล เชื่อว่าจะทำให้เราได้เปรียบ และเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะได้รับความไว้วางใจจาก ไอโอซี พิจารณาให้เป็นเจ้าภาพ ยูธโอลิมปิกเกมส์ 2030 ต่อไป" ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย