"แม็กซ์ เวอร์สแต๊พเพ่น" ฟอร์มดุผงาดแชมป์ "ยูเอส กรังด์ปรีซ์" ที่ออสติน พร้อมทำแต้มไล่จี้ "ออสการ์ ปิอัสตรี" ผู้นำตารางคะแนนเหลือเพียง 40 คะแนน จุดชนวนลุ้นแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน 5 สนามสุดท้ายดุเดือด
การลุ้นแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน ฤดูกาลนี้กลับมาดุเดือดเข้มข้นอีกครั้ง หลัง แม็กซ์ เวอร์สแต๊พเพ่น นักขับจากทีมเรด บูล เรซซิ่ง ผงาดคว้าแชมป์ในศึก ยูเอส กรังด์ปรีซ์ ที่ สนามเซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกา รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ช่องว่างคะแนนตามหลังผู้นำอย่าง ออสการ์ ปิอัสตรี ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ฟอร์มร้อนแรงของ 'เวอร์สแต๊พเพ่น' จุดชนวนการลุ้นแชมป์ แชมป์โลก 4 สมัยชาวดัตช์เดินทางมาถึงออสตินด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม และทำผลงานเกือบไร้ที่ติในสุดสัปดาห์นี้ เขาคว้าตำแหน่งโพลในรอบ สปรินต์ ควอลิฟาย (Sprint Qualifying) ก่อนจะเก็บชัยชนะใน สปรินต์เรซ ได้สำเร็จ โดยได้ประโยชน์จากการชนกันของรถแมคลาเรนทั้งสองคันตั้งแต่รอบแรก
จากนั้น เวอร์สแต๊พเพ่น ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ใน เมนเรซ วันอาทิตย์ เขาคว้าตำแหน่งโพลซิชั่น ออกตัวได้อย่างสะอาด และทิ้งห่างคู่แข่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ทิ้งห่าง แลนโด้ นอร์ริส ถึง 7.959 วินาที ด้วยผลงานนี้และการจบอันดับ 5 ของ ปิอัสตรี ทำให้ แม็กซ์ เวอร์สแต๊พเพ่น ลดช่องว่างคะแนนในตารางประเภทนักขับเหลือเพียง 40 คะแนน โดยเหลือการแข่งขันอีกเพียง 5 สนาม
หลังจบการแข่งขัน เวอร์สแต๊พเพ่น เปิดใจว่า "โอกาสมันมีอยู่นะ" สำหรับการคว้าแชมป์โลกสมัยที่ห้าติดต่อกัน และยืนยันว่าจะ "พยายามทุกวิถีทาง" ทำให้การต่อสู้แย่งชิงแชมป์ปี 2025 เข้าสู่ช่วงที่ดุเดือดอย่างแท้จริง
แต่ในทางกลับกัน สองนักขับจากทีมแมคลาเรน อย่าง แลนโด้ นอร์ริส และ ออสการ์ ปิอัสตรี กลับทำผลงานได้ไม่เข้าเป้าเมื่อเทียบกับมาตรฐานสูงของทีม
สปรินต์เรซ: ทั้งคู่ประสบอุบัติเหตุชนกันเองในโค้งที่ 1 ของรอบเปิดตัว ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าตกใจ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายสำหรับทีม
เมนเรซ: แลนโด้ นอร์ริส ต้องต่อสู้อย่างหนักกับ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ของเฟอร์รารี่ ก่อนจะจบในอันดับที่ 2 ขณะที่ ออสการ์ ปิอัสตรี ดิ้นรนทำระยะและเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 นักขับชาวออสเตรเลียยอมรับว่าทีมต้องทำความเข้าใจว่าทำไมความเร็วถึงขาดหายไป แต่ยืนยันว่า "ทัศนคติของเขาไม่เปลี่ยน" ก่อนการแข่งขัน 5 สนามสุดท้าย
แต่สุดสัปดาห์ของทีมเฟอร์รารี่ (Ferrari) เริ่มต้นด้วยจุดต่ำสุดเมื่อ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ มีปัญหาเกียร์ในรอบฝึกซ้อม และทั้งเขาและ เซอร์ ลูอิส แฮมิลตัน ต่างผิดหวังในรอบ Sprint Qualifying
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับดีขึ้นในวันอาทิตย์ เลอแคลร์ ซึ่งเริ่มต้นด้วยยาง Soft เพียงคนเดียวใน 15 อันดับแรก สามารถแซง นอร์ริส ในช่วงออกตัวและเข้าสู่การต่อสู้แย่งชิงตำแหน่ง ก่อนจะจบในอันดับที่ 2 คว้าโพเดียมมาครอง
ส่วน ลูอิส แฮมิลตัน ก็ทำผลงานได้ดีตามหลังรุ่นน้อง เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 3 ทำให้ "ม้าลำพอง" เก็บได้ถึง 27 คะแนนในรอบเมนเรซ และขยับเข้าใกล้ เมอร์เซเดส เอเอ็มจี (Mercedes-AMG) ในตารางคะแนนประเภททีมเหลือเพียง 7 คะแนนเท่านั้น แฮมิลตันเองก็รู้สึกดีขึ้นว่า "ในที่สุดก็เริ่มคุ้นเคยกับรถเฟอร์รารี่มากขึ้น"
การแข่งขันที่ออสตินครั้งนี้ ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่า การลุ้นแชมป์โลกในโค้งสุดท้ายของฤดูกาลจะดุเดือดถึงขีดสุดอย่างแน่นอน