ทุบสถิติเหนือชั้น! เบื้องหลังการคว้าแชมป์โลก 2 สมัยติดต่อกันของ แมคลาเรนในฟอร์มูล่า วัน

แมคลาเรน ได้ตอกย้ำสิ่งที่หลายคนคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล 2025 ด้วยการคว้าแชมป์ประเภททีมผู้สร้างในรายการ สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์  ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นที่สุดของสนามในปีนี้ หลังจากฝุ่นควันจากการแข่งขันที่ มาริน่า เบย์ ได้จางลง แต่มีสถิติสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันน่าทึ่งของพวกเขา

10: จำนวนแชมป์ทีมผู้สร้างรวม

นับตั้งแต่เข้าร่วม F1 ในช่วงกลางทศวรรษ 1960 แมคลาเรน ได้คว้าแชมป์ประเภททีมผู้สร้างไปแล้ว 10 สมัย

1974: เอเมอร์สัน ฟิตตี้พาลดี้ และ เดนนี ฮูล์ม รวมพลังกันนำแชมป์แรกมาสู่ทีม

1980s-1990s: ตามมาด้วยความสำเร็จของคู่หูในตำนาน เช่น นิก้ เลาด้า และ อแลง โพรสต์ อาแล็ง พร็อสต์ , อาแล็ง พร็อสต์ และ ไอร์ตัน เซนน่า ,ไอร์ตัน เซนน่า  และ เจอร์ฮาร์ด เบอร์เกอร์ , รวมถึง มิก้า แฮกคิเน่น และ เดวิด คูลธาร์ด

2024 และ 2025: ออสการ์ ปิอัสตรี และ แลนโด้ นอร์ริส ได้จารึกบทใหม่ของความสำเร็จให้กับ แมคลาเรน ด้วยผลงานที่น่าประทับใจในปี 2024 และที่ดียิ่งขึ้นไปอีกในปี 2025

2: ขึ้นเป็นรองแชมป์ตลอดกาล

ชัยชนะครั้งล่าสุดของ แมคลาเรน ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของทำเนียบทีมที่คว้าแชมป์ประเภททีมผู้สร้างได้มากที่สุดตลอดกาล แซงหน้าคู่แข่งอย่าง Williams ที่มี 9 สมัย ส่วนอันดับ 1 ยังคงเป็นของ Ferrari ที่ครองสถิติสูงสุดด้วยการคว้าไปถึง 16 สมัย

6: คว้าแชมป์เร็วที่สุด

แมคลาเรน ปิดดีลการคว้าแชมป์ได้ในขณะที่ยังเหลือการแข่งขันกรังด์ปรีซ์ อีกถึง 6 สนาม (และ สปรินต์เรซ อีก 3 สนาม) ทำให้พวกเขาทาบสถิติของ เรด บูล เรซซิ่ง ในปี 2023 สำหรับการคว้าแชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ฟอร์มูล่า วัน 

34: แชมป์สมัยที่สองติดต่อกัน

แมคลาเรน สร้างประวัติศาสตร์เมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วยการคว้าแชมป์ทีมผู้สร้างครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 และในปี 2025 พวกเขาก็ได้เพิ่มความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1990

ครั้งล่าสุดที่ แมคลาเรน คว้าแชมป์ติดต่อกันเกิดขึ้นในช่วงยุครุ่งเรืองของเครื่องยนต์ ฮอนด้า โดย  อาแล็ง พร็อสต์ และ ไอร์ตัน เซนน่า นำแชมป์มาสู่ทีมในปี 1989 ตามมาด้วย ไอร์ตัน เซนน่า  และ เจอร์ฮาร์ด เบอร์เกอร์ในปี 1990 และ 1991

12: จำนวนชัยชนะสูงสุดในรอบ 37 ปี

รถแข่ง แมคลาเรน MCL39 ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ได้ช่วยให้ ออสการ์ ปิอัสตรี และ แลนโด้ นอร์ริส คว้าชัยชนะรวมกันได้ถึง 12 ครั้งในฤดูกาลนี้ แบ่งเป็นปิอัสตรี ชนะ 7 ครั้ง และ นอร์ริส ชนะ 5 ครั้ง

ตัวเลขนี้ทำให้ McLaren มีจำนวนชัยชนะต่อฤดูกาลสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1988 ซึ่งเป็นปีที่พวกเขาคว้าชัยชนะได้ถึง 15 จาก 16 สนาม โดยมี พร็อสต์ และ เซนน่า

7: ตำแหน่ง 1-2 สูงสุดตั้งแต่ปี 1988

จนถึงตอนนี้ จากการแข่งขัน 18 รายการ ปิอัสตรี และ นอร์ริส สามารถจบอันดับ 1-2 ได้ถึง 7 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของทีมต่อฤดูกาลนับตั้งแต่ฤดูกาลที่โดดเด่นอย่างมากในปี 1988

9: ตำแหน่ง โพล โพซิชั่น (Pole Position) ครึ่งหนึ่งของฤดูกาล

ความเหนือกว่าของรถแข่งยังส่งผลให้ ปิอัสตรี และ นอร์ริส คว้าตำแหน่งโพลโพซิชั่นได้ถึง 9 ครั้ง หรือคิดเป็น ครึ่งหนึ่ง ของการแข่งขัน ที่จัดขึ้นแล้ว โดย ออสการ์ ปิอัสตรี ทำได้ดีกว่าเล็กน้อยที่ 5 โพล ส่วน แลนโด้ นอร์ริส ทำได้ 4 โพล

28: สถิติขึ้นโพเดียม

สถิติหนึ่งที่ ปิอัสตรี และ นอร์ริส ไม่สามารถแยกจากกันได้คือผลการขึ้นโพเดียม โดยทั้งคู่ทำผลงานขึ้นโพเดียมรวมกันได้ 28 ครั้ง (คนละ 14 ครั้ง) ตั้งแต่สนามแรกที่ออสเตรเลียจนถึงสิงคโปร์

650: คะแนนที่ทิ้งห่างคู่แข่ง

ด้วยความโดดเด่นของ แมคลาเรน ในฤดูกาล 2025 พร้อมกับคะแนนรวมถึง 650 คะแนน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ เป็น 2 เท่า ของคะแนนที่คู่แข่งที่ใกล้ที่สุดอย่าง เมอร์เซเดส เอเอ็มจี  ทำได้จนถึงขณะนี้