เบซเซคคี่ คว้าชัยสปรินต์ MotoGP อินโดนีเซีย-ก้อง สมเกียรติ พลาดล้มแต่พร้อมสู้ต่อ

เบซเซคคี่ คว้าชัยสปรินต์ MotoGP อินโดนีเซีย-ก้อง สมเกียรติ พลาดล้มแต่พร้อมสู้ต่อ
มาร์โก้ เบซเซคคี่ สุดแกร่ง พลิกสถานการณ์จากร่วงอันดับ 8 ขึ้นแซงคว้าแชมป์ สปรินต์เรซ โมโต จีพี สนามที่ 18 อินโดนีเซีย กรังด์ปรีซ์ ด้าน มาร์ค มาร์เกซ โชว์ฟอร์มโหดไล่จากท้ายจบที่ 6 ส่วน "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา โชคร้ายล้มในรอบที่ 2 รอแก้ตัวรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์นี้

การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโต จีพี 2025 สนามที่ 18 กรังด์ปรีซ์ ออฟ อินโดนีเซีย ณ มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2568 เป็นการดวลความเร็วในรอบ สปรินต์เรซ 13 รอบสนาม ซึ่งเต็มไปด้วยความดุเดือดตั้งแต่ต้นจนจบ

ในช่วงเริ่มต้น มาร์โก้ เบซเซคคี่ นักบิดชาวอิตาลีจากทีม อาพริเลีย เรซซิ่ง ผู้ได้ออกสตาร์ตจากตำแหน่งผู้นำ (Pole Position) ออกตัวได้ไม่ดีนัก ทำให้ร่วงลงไปอยู่ถึงอันดับที่ 8 ขณะที่ เฟอร์มิน อัลเดเกร์ จากทีม เกรซินี่ เรซซิ่ง ทะยานขึ้นนำ ตามมาด้วย ราอูล เฟอร์นันเดซ และ เปโดร อคอสต้า ในอันดับ 2 และ 3 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม เบซเซคคี่ ได้อาศัยความเก๋าและประสบการณ์ เร่งเครื่องบิดแซงคู่แข่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถขึ้นมาลุ้นตำแหน่งผู้นำ และในช่วงโค้งสุดท้ายของ รอบสุดท้าย (รอบที่ 13) เจ้าตัวก็สามารถแซงหน้า อัลเดเกร์ เข้าเส้นชัยเป็นคันแรกได้อย่างระห่ำ ด้วยเวลา 19 นาที 37.047 วินาที เก็บเพิ่ม 12 คะแนนเต็ม โดยเอาชนะ เฟอร์มิน อัลเดเกร์ นักบิดชาวสเปนจากทีม เกรซินี่ เรซซิ่ง ไปเพียง 0.157 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ราอูล เฟอร์นานเดซ นักบิดชาวสเปนจากทีม แทร็คเฮาส์ ตามหลัง 4.062 วินาที

ด้าน มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกคนล่าสุดจากทีม ดูคาติ เลโนโว ซึ่งได้รับโทษจนต้องออกตัวในกริดที่ต่ำลง และร่วงไปถึงอันดับ 13 ในช่วงต้น ก็ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ไล่แซงคู่แข่งขึ้นมาจนจบในอันดับที่ 6 เก็บเพิ่ม 4 คะแนน

ส่วน "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดชาวไทยหนึ่งเดียวในรุ่นนี้จากทีม ฮอนด้า แอลซีอาร์ ซึ่งออกสตาร์ตในอันดับที่ 19 โชคร้ายไม่สามารถเก็บแต้มในรอบนี้ได้ หลังจากประสบอุบัติเหตุล้มในรอบที่ 2 ของการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ (Main Race) จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 นี้ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต สามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง SPOTV 2 (690) และ True4U (24)





ที่มาของภาพ : Reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport