ถึงแม้ซิ่งรถสองล้อคู่ใจผ่านเส้นชัยเป็นอันดับสอง ในการแข่งขันสนามล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดชาวสแปนิชของทีม Ducati การันตีตำแหน่งแชมป์ MotoGP ประจำฤดูกาล 2025 เรียบร้อย และนี่คือสถิติตัวเลขที่น่าสนใจของหนุ่มยอดนักซิ่งวัย 32 ปี หลังจากที่สามารถกลับคืนสู่จุดสูงสุดได้อีกครั้ง
7 - นี่คือแชมป์ MotoGP สมัยที่ 7 ของ มาร์เกซ ต่อจากปี 2013, 2014, 2016, 2017, 2018 และ 2019 ซึ่งมากสุดอันดับสองร่วมกับ วาเลนติโน รอสซี่ และเป็นรองแค่ จาโคโม อกอสตินี่ ที่ได้ 8 สมัย
9 - หากนับรวมแชมป์โลกระดับ 125 ซีซี ในปี 2010 และแชมป์ Moto2 ในปี 2012 ด้วยแล้ว นี่คือแชมป์โลกสมัยที่ 9 ของ มาร์เกซ
2,184 - คือจำนวนวัน ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างวันที่ มาร์เกซ ได้แชมป์ MotoGP ปีนี้ กับแชมป์ MotoGP หนก่อนเมื่อปี 2019
6 - มาร์เกซ รอคอยการกลับมาคว้าแชมป์โลกยาวนานสุดในหน้าประวัติศาสตร์ MotoGP (6 ปี) แซงหน้าสถิติเดิมของ เคซีย์ สโตนเนอร์ ที่เคยเว้นระยะ 4 ปี ระหว่างแชมป์ปี 2007 (Ducati) กับ ปี 2011 (Honda)
3 - แชมป์ MotoGP ปีนี้ของ มาร์เกซ ถือเป็นปีมีการการันตีแชมป์เร็วสุดเป็นอันดับสามในหน้าประวัติศาสตร์ MotoGP สมัยใหม่ (การแข่งขันที่ ญี่ปุ่น เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นสนามที่ 17 จากทั้งหมด 22 สนามของปีนี้)
5 - มาร์เกซ ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่แขนและไหล่ขวาถึง 5 ครั้ง นับตั้งแต่ตอนได้แชมป์ MotoGP 2019
30 - และในช่วงที่ต้องพักษาตัวจากการผ่าตัดทั้ง 5 หน มาร์เกซ พลาดการแข่งขันรวมมากถึง 30 เรซ
108 - มาร์เกซ ประสบอุบัติเหตุล้มมากถึง 108 ครั้ง นับตั้งแต่ปีที่ได้แชมป์ MotoGP 2019
73 - ตอนนี้ มาร์เกซ ชนะเลิศการแข่งขัน MotoGP มาแล้วถึง 73 สนาม ซึ่งมากสุดอันดับสองในหน้าประวัติศาสตร์ ต่อจาก วาเลนติโน รอสซี่ (89)
541 - คือคะแนนรวม ณ ปัจจุบัน ของ มาร์เกซ ในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติคะแนนสูงสุด นับตั้งแต่มีการแข่งขันสปรินต์ (เริ่มปี 2023) ทั้งที่ฤดูกาลนี้ยังเหลือการแข่งขันอีก 5 สนาม
10- นอกจากนี้ มาร์เกซ ยังครองสถิติทำ "ดับเบิ้ล" (ชนะทั้งสปรินต์และเรซหลัก) มากที่สุดในฤดูกาลเดียวที่ 10 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมของ ฟรานเชสโก บันญาย่า ที่ทำไว้ 5 ครั้งในปี 2024
ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของ มาร์ค มาร์เกซ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคการบาดเจ็บและอุบัติเหตุ ตลอดเส้นทางกว่า 6 ปี กว่าที่เขาจะกลับมาครองบัลลังก์ MotoGP ได้อีกครั้ง
Subinho