มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพี 2025 : การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี

จากเด็กชายเมืองเซร์เบร่า สู่แชมป์โลก 9 สมัย

มาร์ค มาร์เกซ นักบิดหมายเลข 93 จากเมืองเซร์เบร่า ประเทศสเปน เริ่มต้นเส้นทางอาชีพด้วยการคว้าแชมป์โลก 125cc ปี 2010 และ Moto2 ปี 2012 ก่อนจะเปิดตัวในรุ่นใหญ่กับ เรปโซล ฮอนด้า ปี 2013 พร้อมสร้างปรากฏการณ์ทันทีด้วยการเป็น รุกกี้คนแรกในรอบ 35 ปีที่คว้าแชมป์โลกโมโตจีพี ได้สำเร็จ

ด้วยสไตล์ “ศอกติดพื้น” อันเป็นเอกลักษณ์ มาร์เกซยกระดับการแข่งขันสู่ยุคใหม่ พร้อมครองความยิ่งใหญ่ในปี 2014, 2016, 2017, 2018 และ 2019 ที่เขาคว้าชัย 12 สนามจาก 19 และขึ้นโพเดียม 18 สนาม เก็บได้ถึง 420 คะแนน

จุดเปลี่ยน: ฝันร้ายปี 2020 และการผ่าตัด 4 ครั้ง

ปี 2020 กลายเป็นฝันร้ายเมื่อเขาล้มหนักที่สนาม เฆเรซ และบาดเจ็บแขนขวาหัก ต้องผ่าตัดถึง 3 ครั้งในปีเดียว แถมแผ่นเหล็กยังแตกจนต้องผ่าซ้ำและติดเชื้อ ส่งผลให้ ฟอร์มตกต่อเนื่องนานถึง 4 ปี ต้องพักการแข่งขันบ่อยครั้ง และยังเจอ อาการภาพซ้อน ตามมาซ้ำเติม

ในปี 2022 เขาตัดสินใจ ผ่าตัดแขนครั้งที่ 4 ที่ Mayo Clinic สหรัฐอเมริกา ด้วยการ หักและหมุนแขน 30 องศา พร้อมยึดใหม่ทั้งหมด นี่คือการเดิมพันครั้งสุดท้ายในอาชีพ

ตัดสินใจออกจากฮอนด้า: เปลี่ยนทีมเพื่อชีวิตใหม่

มาร์เกซเริ่มเสียความมั่นใจในตัวรถของ ฮอนด้า ที่ไม่สามารถพาเขากลับสู่ระดับท็อปได้อีก เขาจึงตัดสินใจ ฉีกสัญญาหลายสิบล้านยูโร เพื่อย้ายซบทีมเล็ก เกรซินี่ ดูคาติ แบบไร้ค่าตัวในปี 2024

แม้ช่วงแรกฟอร์มไม่เปรี้ยง แต่หลังพัก ซัมเมอร์เบรก เขาระเบิดฟอร์มเก่าเก็บ 3 แชมป์ 7 โพเดียม จบฤดูกาลอันดับ 3 ทำให้ ดูคาติทีมโรงงาน ยื่นข้อเสนอให้ในปี 2025 และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

ฤดูกาล 2025: การกลับสู่บัลลังก์ในสีแดง

ปี 2025 มาร์เกซฟื้นคืนสภาพดั่งฟีนิกซ์ ได้ลงสนามในรถโรงงานของดูคาติ คว้าชัยชนะอย่างสม่ำเสมอจนกระทั่งจบอันดับ 2 ที่โมเตกิ และคว้าแชมป์โลก โมโตจีพี สมัยที่ 7 ในรุ่นใหญ่ และนับรวม สมัยที่ 9 ในทุกรุ่นของเขา

ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากห่างจากแชมป์ครั้งล่าสุดถึง 2,184 วัน และต้องผ่านการผ่าตัดถึง 4 ครั้ง, เปลี่ยนทีม 3 ครั้ง และต่อสู้กับอาการบาดเจ็บสุดสาหัสที่เกือบทำให้ต้องแขวนหมวก

การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ต

เรื่องราวของ มาร์ค มาร์เกซ ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายสำนักว่าเป็น การกลับมาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ของวงการกีฬา ไม่ใช่แค่เพราะเขาชนะ แต่เพราะเขา ไม่ยอมแพ้

ในยุคที่เต็มไปด้วยดาวรุ่งเลือดใหม่ มาร์เกซในวัย 32 ปียังพิสูจน์ว่า “ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เขากลับมา เป็นตำนานอีกครั้ง ด้วยฝีมือ ความกล้า และจิตใจที่แข็งแกร่งเกินมนุษย์ธรรมดา