แอลพีจีเอ ทัวร์ เผยปฏิทินปี 2026 ฉลองครบรอบ 75 ปี จัดเต็ม 33 ทัวร์นาเมนต์ ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 4,224 ล้านบาท ปักหมุด ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ดวลวงสวิง 19-22 ก.พ. นี้
แอลพีจีเอ ทัวร์ (LPGA Tour) ประกาศโปรแกรมการแข่งขันประจำฤดูกาล 2026 อย่างเป็นทางการ เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปีของการก่อตั้ง โดยในปีนี้จะมีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 33 รายการ เดินทางไปจัดชิงชัยใน 13 ประเทศทั่วโลก รวมถึง 13 รัฐในสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวมพุ่งสูงถึง 132 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,224 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าเงินรางวัลที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง
เคร็ก เคสส์เลอร์ ประธานกรรมการบริหาร แอลพีจีเอ กล่าวว่า "เรารู้สึกภูมิใจกับการเติบโตที่เกิดขึ้น โปรแกรมการแข่งขันในปี 2026 นี้แสดงให้เห็นถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่งหลังผ่านวาระครบรอบ 75 ปี และจะเป็นย่างก้าวสำคัญในการพัฒนาไปสู่ปี 2027 และปีต่อๆ ไป"
สำหรับไฮไลต์ของฤดูกาลจะเริ่มต้นด้วยรายการ ฮิลตัน แกรนด์ วาเคชั่นส์ ทัวร์นาเม้นท์ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ จากนั้นจะเข้าสู่ช่วง เอเชียน สวิง (Asian Swing) โดยมีรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ (Honda LPGA Thailand 2026) เป็นสนามแรกของซีรีส์เอเชีย ณ สนาม สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา ระหว่างวันที่ 19-22 กุมภาพันธ์ ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันที่ สิงคโปร์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามลำดับ
ในส่วนของรายการระดับ เมเจอร์ (Major) ทั้ง 5 รายการในปี 2026 มีกำหนดการดังนี้:
1.เชฟรอน แชมเปี้ยนชิพ (เมษายน) ณ เมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส
2.ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น ครั้งที่ 81 (4-7 มิถุนายน) ณ สนาม รีเวอร่า คันทรี คลับ รัฐแคลิฟอร์เนีย
3.เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ (25-28 มิถุนายน) ณ สนาม ฮาเซลไทม์ เนชั่นเนล กอล์ฟ คลับ รัฐมินเนสโซต้า
4. ดิ อามุนดี้ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ (9-12 กรกฎาคม) ณ ประเทศฝรั่งเศส
5. เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น (30 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม) ณ สนาม รอยัล ไลแธม แอนด์ เซนต์ แอนน์ กอล์ฟ คลับ ประเทศอังกฤษ
นอกจากนี้ แฟนกอล์ฟทั่วโลกยังจะได้ร่วมลุ้นศึกแห่งศักดิ์ศรี โซลไฮม์ คัพ (Solheim Cup) ครั้งที่ 20 การดวลกันระหว่าง ทีมยุโรป และ ทีมสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนาม เบอร์นาร์ดุส กอล์ฟ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2026 สำหรับการแข่งขันในปีนี้ ยังมีการเพิ่มเพิร์สเงินรางวัลในรายการที่ไม่ใช่เมเจอร์รวมกันกว่า 82 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,624 ล้านบาท) โดยเฉพาะรายการใหญ่อย่าง เอฟเอ็ม แชมเปี้ยนชิพ และ อารามโก้ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งของโปรกอล์ฟหญิงระดับโลกตลอดทั้งปี
