รฐนน จบที่ 3 ร่วม เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น อาซาจิ เฉือนเพลย์ออฟคว้าแชมป์

รฐนน จบที่ 3 ร่วม เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น อาซาจิ เฉือนเพลย์ออฟคว้าแชมป์
รฐนน วรรณศรีจันทร์ ทำ 6 อันเดอร์รอบสุดท้าย จบ 18 อันเดอร์พาร์ รั้งอันดับ 3 ร่วม เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น ขณะที่โยสุเกะ อาซาจิ เฉือนชนะเพลย์ออฟคว้าแชมป์

การแข่งขัน กอล์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการที่ 8 ของฤดูกาล 2025 “เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น” ที่สนาม สิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,295 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ปิดฉากด้วยความเข้มข้นของนักกอล์ฟไทยและต่างชาติ

รฐนน วรรณศรีจันทร์ ทำผลงานรอบสุดท้าย 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 จบอันดับ 3 ร่วมกับ ซูมิน ลี จากเกาหลีใต้ พลาดโอกาสเพลย์ออฟเพียงสโตรคเดียว รับเงินรางวัล 113,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) โปรฟลุ้คเผยว่า การทำ 6 เบอร์ดี้ติดเป็นจุดเปลี่ยนของรอบ แต่โบกี้ที่หลุม 17 มาจากความยากของตำแหน่งที่ลูกตกใกล้ต้นไม้ อย่างไรก็ดี เบอร์ดี้ในหลุม 18 ช่วยให้จบรอบด้วยความพึงพอใจ

ตำแหน่งแชมป์ต้องตัดสินด้วยเพลย์ออฟระหว่าง โยสุเกะ อาซาจิ จากญี่ปุ่น และ จุงฮยุน วัง จากเกาหลีใต้ หลังทั้งคู่จบสกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 269 เพลย์ออฟที่หลุม 18 พาร์ 5 เป็นอาซาจิพัตต์เบอร์ดี้ชนะ ขณะที่วังช็อตสองตกน้ำ จบรองแชมป์ รับเงินรางวัล 220,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 6.8 ล้านบาท)

อาซาจิ วัย 32 ปี เผยหลังคว้าแชมป์และเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 11 ล้านบาท) พร้อมขยับขึ้นอันดับสองตารางคะแนนสะสมอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ว่า การพัตต์ที่ดีเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ และตั้งเป้าลุ้นสิทธิ์ไปเล่น ลิฟกอล์ฟลีก ในฤดูกาลหน้า

ด้านนักกอล์ฟไทยคนอื่น ๆ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 จบด้วย 15 อันเดอร์พาร์ 273 รั้งอันดับ 6 ร่วม ส่วน ฉ่างไท้ สุดโสม ร้อนแรงรอบสุดท้าย 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวม 13 อันเดอร์พาร์ 275 จบอันดับ 11 ร่วม ขณะที่ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ สกอร์รวม 12 อันเดอร์พาร์ 276 รั้งอันดับ 18 ร่วม

นักกอล์ฟชื่อดังระดับโลก เทเลอร์ กูช แชมป์ลิฟกอล์ฟลีก 2023 จากสหรัฐฯ ทำเพิ่มเพียง 1 อันเดอร์พาร์ 71 จบอันดับ 24 ร่วมกับ นิติธร ทิพย์พงษ์ และ ศรุต วงค์ชัยสิทธิ์ ที่ 11 อันเดอร์พาร์ ส่วน พอล เคซีย์ แชมป์พีจีเอทัวร์ 3 รายการจากอังกฤษ พลาดตีเกิน 1 โอเวอร์พาร์ 73 จบอันดับ 46 ร่วมด้วยสกอร์รวม 7 อันเดอร์พาร์ 281




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport