สาริศ สุวรรณรัตน์ หวดรอบสอง 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองวัน 10 อันเดอร์พาร์ 134 รั้งอันดับ 2 ร่วม ตามหลังผู้นำ ซูมิน ลี จากเกาหลีใต้ 2 สโตรก ในศึกเหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น ที่สิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ
สาริศ สุวรรณรัตน์ โปรกอล์ฟชาวไทย เจ้าของสองแชมป์ เอเชียน ทัวร์ โชว์ฟอร์มร้อนแรงในรอบสองของการแข่งขัน เหมาไถ สิงคโปร์ โอเพ่น หลังทำเพิ่มได้อีก 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองวันมีสกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 134 ขยับขึ้นมารั้งกลุ่มอันดับสองร่วม ตามหลังผู้นำอยู่เพียง 2 สโตรก
ตำแหน่งผู้นำในรอบนี้เป็นของ ซูมิน ลี โปรกอล์ฟจากเกาหลีใต้ ที่หวดรวมสองวันได้ 12 อันเดอร์พาร์ 132 ขึ้นนำเดี่ยวหลังจบครึ่งทางของการแข่งขัน ที่จัดขึ้น ณ สนามสิงคโปร์ ไอแลนด์ คันทรี คลับ ระยะ 7,295 หลา พาร์ 72 ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 6–9 พฤศจิกายน โดยผู้ชนะจะรับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11 ล้านบาท) การแข่งขันเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สาริศ ซึ่งก่อนหน้านี้เพิ่งคว้ารองแชมป์ มาเก๊า โอเพ่น และจบอันดับ 4 ร่วมในศึก อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า
“ผลงานถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังมีจุดผิดพลาดเล็กน้อย ต้องกลับไปดูแผนการตี ผมตั้งเป้าไว้วันละ 5 อันเดอร์ เมื่อวานทำได้ 4 วันนี้ 6 ถือว่าตามเป้า ถ้าสองวันหลังยังรักษาระดับได้แบบนี้ น่าจะมีลุ้น พยายามเล่นบุกและพัตต์ให้เฉียบคมขึ้น เพราะสัปดาห์ก่อนมีโอกาสหลายครั้งแต่ยังทำไม่สำเร็จ หากปรับได้ คิดว่าถ้วยไม่หนีมือแน่”
ขณะที่ ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ หรือ “โปรไช้” ทำผลงานดีเช่นกัน หวด 1 อีเกิ้ล 5 เบอร์ดี้ เสียเพียงโบกี้เดียว จบรอบสองด้วยสกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 66 รวมสองวัน 9 อันเดอร์พาร์ 135 เท่ากับ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ หรือ “โปรแจ๊ส” อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 ที่ทำเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 67 อยู่ในกลุ่มอันดับ 12 ร่วม
ด้าน กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ กัญจน์ เจริญกุล เก็บได้คนละ 1 อันเดอร์พาร์ 71 ส่วน นิติธร ทิพย์พงษ์ ทำเพิ่ม 2 อันเดอร์พาร์ 70 ทั้งสามมีสกอร์รวมเท่ากันที่ 8 อันเดอร์พาร์ 136 ร่วมกับ เทเลอร์ กูช แชมป์บุคคล ลิฟกอล์ฟลีก 2023 จากสหรัฐอเมริกา ที่ตีได้ 4 อันเดอร์พาร์ 68
สำหรับดาวดังอย่าง พอล เคซีย์ โปรจากอังกฤษ แชมป์พีจีเอ ทัวร์ 3 รายการ เก็บเพิ่มอีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสองวัน 5 อันเดอร์พาร์ 139 โดยหลังจบรอบสอง มีการตัดตัวที่สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 140 และมีนักกอล์ฟไทยผ่านเข้าไปเล่นในสองวันสุดท้ายถึง 17 คน