แอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2022 ปิดฉากลงแล้วฉลองความสำเร็จในทัวร์ด้วยการมีแชมป์แรกในอาชีพตัวเอง 11 คน รวมถึง ลีเดีย โค โปรสาวจากนิวซีแลนด์ที่สามารถคว้าแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ และคว้าเงินรางวัล 2 ล้านเป็นรางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟหญิง พร้อมกับควบรางวัลใหญ่นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี รางวัลสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด และเงินรางวัลรวมสูงสุด
โดย "โปรจีน" อาฒยา ฐิติกุล อยู่ในไฮไลท์ของทัวร์ คว้าแชมป์ 2 รายการ รวมทั้งการครองมือ 1 ของโลก รางวัลรุกกี้แห่งปี ขณะที่แอลพีเอ กำลังมองถึงการเติบโตของทัวร์มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมในฤดูกาล 2023 ขณะที่ อี มินจี ยังคว้ารางวัล Aon Risk Reward Challenge รับเงินรางวัลโบนัสไป 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งรางวัลโรเล็กซ์ อันนิกา เมเจอร์ อวอร์ด ด้าน อลิซาเบธ นาเกิล โปรสาวชาวอเมริกันรับรางวัล Heather Farr Perseverance Award
ลีเดีย โค รับแชมป์รายการสุดท้าย พร้อมเงินรางวัล 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นเงินรางวัลแชมป์มากสุดในประวัติศาสตร์กอล์ฟสตรี ยังคว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีสมัยที่สอง กลายเป็นคนที่ 15 มากกว่า 2 สมัย และได้รับรางวัลวาร์โทรฟี ในฐานะทำสกอร์เฉลี่ยต่ำสุดแห่งปี ด้วยสกอร์เฉลี่ย 68.988 สมัยที่ 2 ติดต่อกัน พรัอมเป็นคนที่ 12 ในประวัติศาสตร์ทัวร์ที่คว้ารางวัลนี้สองสมัยติดต่อกัน และเป็นคนที่ 15 ที่คว้ารางวัลนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง ด้วยสกอร์เฉลี่ยต่ำที่สุดอันดับสองตามหลัง อันนิกา โซเรนสตัม ตำนานสวิงสวีเดน ที่ทำไว้ 68.70 ในปี 2002
โค กล่าวว่า "ปีนี้นับเป็นปีที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันไม่เคยคิดว่าจะชนะมากอย่างนี้และการไปคว้าแชมป์ในเกาหลีใต้ และมาคว้าแชมป์รายการสุดท้ายแห่งปีอีก ไม่คิดว่าจะมีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ตื่นเต้นในชีวิตฉัน และกำลังจะเกิดขึ้น นี่คือแชมป์รายการสุดท้ายที่ฉันทำได้ในฐานะสาวโสด ดังนั้นฉันจึงต้องการมอบสิ่งนี้ให้กับครอบครัว"
ขณะที่ "โปรจีน" อาฒยา เป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 3 ที่คว้ารางวัลนี้ต่อจาก โมรียา จุฑานุกาล ปี 2013 และ ปภังกร ธวัชธนกิจ ปี 2021 โดยในงานประกาศรางวัลที่ริทซ์-คาร์ลทัน เนเพิลส์ รัฐฟลอริดา ในวันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน เธอกล่าวในงานรับรับรางวัลว่า "มันเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่ที่ได้รับรางวัลรุกกี้แห่งปี จีนเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เคยฝันอยากจะเข้าร่วมแข่งขันในแอลพีจีเอ ทัวร์ แต่การได้ขึ้นมายืนบนนี้ต่อหน้าท่านทั้งหลายเป็นเหมือนฝันที่เป็นจริง"
อี มินจี คว้ารางวัล Aon Risk Reward Challenge จากผลงานทำคะแนนรวมดีที่สุดในแต่ละหลุมที่กำหนดแต่ละรายการฤดูกาลปกติซึ่งเธอรับเงินรางวัลโบนัสไป 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รางวัลโรเล็กซ์ อันนิกา เมเจอร์ อวอร์ด ในฐานะนักกอล์ฟทำผลงานดีที่สุดในเมเจอร์ ขณะที่ อลิซาเบธ นาเกิล คว้ารางวัล Heather Farr Perseverance Award ให้กับนักกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่ต้องต่อสู้ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเท และรักในเกมกอล์ฟมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ เพราะเธอต้องต่อสู้กับการผ่าตัดมะเร็งไทรอยด์กลับมาใช้ชีวิตโดยไม่มีต่อมไทรอยด์ รางวัลนี้ตั้งเป็นเกียรติแด่ ฮีทเธอร์ ฟาร์ ที่เป็นนักกอล์ฟสมาชิกแอลพีจีเอ ทัวร์ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ปี 1993 หลังต่อสู่จากมะเร็งเต้านมมานานสี่ปีครึ่ง
เมื่อฤดูกาล 2022 ผ่านไปแอลพีจีเอ ทัวร์ก็มองไปข้างหน้าถึงการเติบโตของฤดูกาล 2023 ซึ่งได้ประกาศโปรแกรมออกมาแล้วจะแข่งขันรายการทางการของทัวร์รวม 33 รายการมีเงินรางวัลรวม 104.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,680 ล้านบาท และยังมีรายการทีมอีก 2 รายการ ที่เป็นการแข่งขันในตาราง ได้แก่ การแข่งขันโซล ไฮม์ คัพ ระหว่างสหรัฐอเมริกากับทีมรวมยุโรป และ การแข่งขันฮันฮวา ไลฟ์พลัส อินเตอร์เนชันแนล คราวน์ ทีม 4 คน รวม 8 ทีมระดับโลก ที่จะมาสร้างสีสันและความสนุกสนานของแอลพีจีเอ ทัวร์ ของปี 2023