"ภิญญาดา-สิริภัสสร" ลิ่วสู่รอบคัดสเตต 3 แอลพีจีเอ ที่สหรัฐฯ

ภิญญาดา คุวานันท์ ปิดเกมด้วยการทำสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 คว้าอันดับ 3 ขณะที่ สิริภัสสร พัฒน์ชนะ จบด้วยสกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 286 คว้าอันดับ 30 ในการแข่งขันกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "2023 แอลพีจีเอ แอนด์ แอปสัน ทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง ทัวร์นาเมนท์ สเตต 2" ที่สนาม เพลนเทชั่น กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แบบพาร์ 72 ที่เมืองเวนิช รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม 2566 ตามเวลาประเทศไทย กลายเป็น 2 นักกอล์ฟไทยที่ตบเท้าเข้าสู่การแข่งขัน คิว-ซีรี่ส์ ที่จะแข่งขันในเดือนหน้านี้ต่อไป

ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ "2023 แอลพีจีเอ แอนด์ แอปสัน ทัวร์ ควอลิฟายอิ้ง ทัวร์นาเมนท์ สเตต 2" สนาม เพลนเทชั่น กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ แบบพาร์ 72 ที่เมืองเวนิช รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา แข่งขันระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคม 2566 คัดนักกอล์ฟผลงานดีที่สุด 40 เข้าไปร่วมการแข่งขันรอบสุดท้าย หรือ รอบ คิว-ซีรี่ส์ ที่จะแข่งขันที่ แมกโนเลีย โกรฟ กอล์ฟ คอร์ส ที่เมือง โมบาย รัฐอลาบาม่า ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2566 แข่งขันกันทั้งสิ้น 6 รอบ 108 หลุม

จบเกมในรอบสุดท้าย "โปรไบร์ท" ภิญญาดา คุวานันท์ นักกอล์ฟสาววัย 27 ปีจาก ขอนแก่น สัปดาห์นี้ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมด้วยการทำอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 ในรอบสุดท้ายจบด้วยสกอร์รวม 11 อันเดอร์พาร์ 277 คว้าอันดับ 3 โดยมี อินกริด ลินด์แบลด มือสมัครเล่นจากสวีเดน คว้าอันดับ 1 ที่สกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 และ อเล็กซานดรา ฟอร์สเตอร์ลิง จากเยอรมันคว้าอันดับ 2 สกอร์รวม 14 อันเดอร์พาร์ 274

โปรไบร์ท เผยว่า "มันมีแรงกดดันอยู่นิดหน่อยในวันที่ 3 วันนี้เล่นได้ผ่อนคลายมากขึ้น และได้ลงเล่นในกลุ่มที่ 3 จากท้าย และได้เล่นในเกมของตัวเองมากขึ้น วันนี้ตีอยู่ในแฟร์เวย์เยอะ ซึ่งตลอดปีนี้ทำได้ 80 เปอร์เซ็นต์ในสถิติตีอยู่ในแฟร์เวย์ ดังนั้นทำให้มีโอกาสตีขึ้นกรีนได้เยอะตามไปด้วย อย่างไรก็ดียังต้องพัฒนาเกมพัตต์ให้ดีกว่านี้ ถ้าหากอยากได้สกอร์ที่ลึกกว่านี้"

นอกเหนือจาก ภิญญาดา แล้วยังมี "โปรแตงโม" สิริภัสสร พัฒน์ชนะ สาวไทยอีกคนที่ผ่านเข้ารอบต่อไป หลังจบอันดับ 30 จากผลงาน 2 อันเดอร์พาร์ 286 ขณะที่ ณภัทร เลิศศาสตร์วัฒนา, วิรัลพัชร โอฬารกิจกุลชัย, นรมล นุชศิลา, นวพร สุนทรียภาศ, วรรษวัลย์ สังขพงษ์ และ ชากัณฑ์สิม คำบอน ไม่ผ่านการเล่นในรอบนี้


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport