ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เตรียมเชิญนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ เข้าชี้แจงข้อร้องเรียนล็อกผลแข่งซีเกมส์ 33 หลัง “เสี่ยโบ๊ท” และ “มงกุฎเพชร” ร้องขอความเป็นธรรม ชี้กระทบศักดิ์ศรีนักกีฬาไทย
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เตรียมดำเนินการทันทีหลังช่วงปีใหม่ ด้วยการทำหนังสือเชิญ นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจงกรณีถูกตั้งข้อสงสัยเรื่อง การล็อกผลการแข่งขันกีฬามวยไทยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 หลังได้รับการร้องเรียนอย่างเป็นทางการจาก ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ (เสี่ยโบ๊ท) โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง และ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า หรือ อริศรา นุ่นเอียด นักชกสาวทีมชาติไทย
ก่อนหน้านี้ เสี่ยโบ๊ท พร้อมด้วย มงกุฎเพชร เข้าพบ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังมีนักชกไทยหลายรายแพ้คะแนนแบบค้านสายตา จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าอาจมีการ ล็อกเป้าแบ่งเหรียญให้ชาติอื่น โดยมี ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และ นายธนา ไชยประสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ ร่วมรับฟังข้อร้องเรียน ท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชนสายกีฬาเป็นจำนวนมาก
ผศ.พิมล เปิดเผยว่า จากการรับฟังข้อมูลจากนักกีฬา ผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงการสอบถามหัวหน้านักกีฬาทีมชาติ และเสียงสะท้อนจากผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ที่เข้ามาสังเกตการณ์การแข่งขัน พบว่ามีหลายประเด็นที่น่ากังขา แม้กระทั่งผู้แทนไอโอซียังแสดงความสงสัยต่อผลการแข่งขันที่ออกมา
ประธานโอลิมปิคไทย ย้ำว่า แม้ผลการแข่งขันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว แต่หน้าที่ของโอลิมปิคไทยคือการ ปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของนักกีฬาไทย และต้องทำให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีฬามวยไทย ซึ่งเป็นกีฬาที่ประเทศไทยผลักดันสู่เวทีโอลิมปิก หากปล่อยให้เกิดภาพลบ อาจส่งผลเสียต่ออนาคตของมวยไทยในระดับโลก
ด้าน เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช กล่าวว่า การเข้าพบครั้งนี้เป็นการแสดงจุดยืนว่าตนและนักกีฬาไม่ยอมรับผลการแข่งขันที่เกิดขึ้น แม้การแข่งขันจะจบไปแล้ว แต่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบบบริหารจัดการของสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่น ซึ่งปัจจุบันถูกมองว่าถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จ แม้แต่มวยไทยซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติของไทย ยังต้องขออนุญาตจัดการแข่งขันจากองค์กรต่างชาติ
ขณะที่ มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า เปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจขึ้นหลังได้รับการรับฟังจากผู้ใหญ่ในคณะกรรมการโอลิมปิคฯ แต่ยังยอมรับว่าเสียใจอย่างมากกับผลการแข่งขันที่ค้านสายตา เพราะตั้งเป้าเหรียญทองไว้ และมั่นใจในฟอร์มการชกของตนเอง พร้อมเปิดเผยว่าการเก็บตัวก่อนแข่งขันยังไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เบี้ยเลี้ยงล่าช้าและถูกหัก จนได้รับเพียงบางส่วนเท่านั้น
ช่วงท้าย ผศ.พิมล ระบุว่า ปัญหามวยไทยสมัครเล่นยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องหารือ โดยเฉพาะเรื่องการแทรกแซงจากต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้โปรโมเตอร์และนักชกไทยถูกเอาเปรียบ และจะมีการพิจารณาแนวทางแก้ไขอย่างจริงจังต่อไป

