“เอลบรุส” เจ็บถอน “อเล็กเซย์” รับไม้ต่อ รีแมตช์ “ยอดไอคิว”ศึก ONE ลุมพินี 137

“เอลบรุส” เจ็บถอน “อเล็กเซย์” รับไม้ต่อ รีแมตช์ “ยอดไอคิว”ศึก ONE ลุมพินี 137
อัปเดตศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 137 ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค.นี้ โดย “อเล็กเซย์ บาลีโก” จอมบู๊จากรัสเซียอาสาขัดตาทัพแทนเพื่อนร่วมชาติ “เอลบรุส ออสมานอฟ” ที่จำเป็นต้องถอนชกเพราะมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ต้องโคจรกลับมาพบกับนักชกไทยฟอร์มร้อนแรง “ยอดไอคิว อ.พิมลศรี” เป็นครั้งที่ 2 ในรายการนี้ โดยจะสู้กันในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.)

การที่ “อเล็กเซย์” อาสาขึ้นสังเวียนแทน “เอลบรุส” เพื่อมาดวลกับ “ยอดไอคิว” ทำให้แฟนมวยจะได้ชมรีแมตช์สุดมันของทั้งสอง เพราะ “อเล็กเซย์” เป็นคู่แข่งคนเดียวที่เคยเอาชนะ “ยอดไอคิว” ในเวที ONE ลุมพินี ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกและครั้งเดียวของเขา ไฟต์นี้จึงเป็นโอกาสดีที่ “ยอดไอคิว” จะได้ล้างตาให้รู้เรื่อง

ปัจจุบันสถิติการชกของ “ยอดไอคิว” คือ ชก 11 ไฟต์ ชนะ 10 ไฟต์ โดยชนะติดต่อกันใน 8 ไฟต์หลัง ล่าสุดโชว์ลีลาบู๊เอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “อาเลสสิโอ มาลาเทสตา” นักชกอิตาลี ในศึก ONE ลุมพินี 117 เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 68 การขึ้นชกในศึก ONE ลุมพินี 137 ที่จะถึงนี้จึงมีความสำคัญต่อ “ยอดไอคิว” มาก เพราะจะได้กลับมาดวลกับคู่ชกที่สร้างรอยด่างพร้อยเดียวในสถิติการชกของเขา และล่าสัญญา ONE ตามความตั้งใจ

สำหรับ “อเล็กเซย์” ที่เคยเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ “ยอดไอคิว” ในศึก ONE ลุมพินี 33 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นการขึ้นชกครั้งแรกบนเวที ONE ลุมพินีของเขา โดยครั้งนั้นทั้งคู่ดวลหมัดกันในกติกามวยไทย 150 ป. 

แม้ปัจจุบันเขาจะเป็นนักชกคนเดียวที่สอน “ยอดไอคิว” ให้รู้จักคำว่าแพ้ แต่ช่วงหลังกลับฟอร์มสะดุด ยังไม่สามารถเก็บชัยชนะใน 3 ไฟต์หลังได้  โดยไฟต์ล่าสุดแพ้น็อกยกแรกให้กับ “กิ่งซางเล็ก ว.คำชำนาญ” ในศึก ONE ลุมพินี 115 เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 68 ครั้งนี้เขาจึงมุ่งมั่นล่าชัยเพื่อกู้ฟอร์มกลับมา

"อเล็กเซย์” ที่เคยเป็นฝ่ายเอาชนะ “ยอดไอคิว” มาแล้ว จะสามารถย้ำชัยได้อีกหนหรือไม่ หรือจะเป็นฝั่ง “ยอดไอคิว” ที่จะเอาคืนได้สำเร็จ แฟนมวยห้ามพลาด!

ศึก ONE ลุมพินี 137 บัตรจำหน่ายหมดแล้ว แฟนกีฬาชาวไทยสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วนทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport