งานแถลงข่าวไฟต์หยุดระหว่าง แอนโธนี่ โจชัว ยอดนักชกรุ่นยักษ์ชาวอังกฤษ กับ เจค พอล ยูทูบเบอร์ชื่อดัง มีเรื่องน่าสนใจนอกเหนือจากการเตรียมชกรุ่นเฮฟวี่เวตระหว่างทั้งสองคน ก็คือเครื่องเพชรที่ พอล สวมใส่ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว !
สำหรับไฟต์พิเศษระหว่าง "เอเจ" กับ "เด็กมีปัญหา" ในศึกมวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวต จะมีการจัดขึ้นที่ คาเซย่า เซ็นเตอร์ เมือง ไมอามี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ โดยจะเป็นการชก 8 ยกๆ ละ 3 นาที โดยใช้นวมขนาด 10 ออนซ์
ที่สำคัญการชกในไฟต์นี้จะมีการ ถ่ายทอดสดทาง "เนตฟลิกซ์" (Netflix) และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีเงินรางวัลรวมสูงถึง 140 ล้านปอนด์ (ราว 6,160 ล้านบาท) ซึ่งจะถูกแบ่งให้กับทั้ง 2 ฝ่ายเท่าๆ กัน
สำหรับในงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้การให้สัมภาษณ์เปิดใจของทั้งสองคนเกี่ยวกับการฟาดปากในครั้งนี้แล้ว นั่นก็คือเครื่องเพชรที่ เจค พอล ใส่ในการถ่ายรูปกับ โจชัว ซึ่งมันเปล่งประกายส่องสว่างวิบวับจนละสายตาไม่ได้เลย
จากการเปิดเผยของ "ทีเอ็มซี สปอร์ตส์" (TMZ Sports) ระบุว่า นักมวยสายอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งเป็นเจ้าของสถิติ ชนะ 12 แพ้ 1 ได้ซื้อเครื่องประดับสุดหรูระยิบระยับชิ้นนี้จากช่างทำเครื่องประดับชื่อดังอย่าง "โวบาร่า" (Vobara)
นักชกเจ้าของฉายา "เอล กัลโล โดราโด" ได้สั่งทำสร้อยคอสุดตระการตาที่ทุกๆ คนไม่เคยเห็นมาก่อน โดยมีการประดับด้วยเพชรหนักถึง 364 กะรัต มูลค่าไม่มากไม่มายแค่ 650,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 22.10 ล้านบาทเท่านั้น !!!
การออกแบบของสร้อยเส้นนี้บ้าคลั่งมาก สื่อฉบับดังกล่าวรายงานว่าตัวสร้อยเต็มไปด้วยเพชรรูปไข่คุณภาพสูงขนาด 5 กะรัต และทั้งหมดถูกฝังบนทองคำชมพู 8 กะรัตหนัก 1 กิโลกรัม รวมทั้งหมดแล้ว นั่นคือเพชรหนักถึง 364 กะรัต!!
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ พอล กับ โวบาร่า ร่วมมือกัน เพราะพวกเขามักจะผลิตผลงานระดับมาสเตอร์พีซออกมาให้ชาวโลกได้เห็นอยู่เป็นประจำ
สำหรับช่างทำเครื่องประดับจากไมอามี่รายนี้คือผู้ออกแบบเครื่องประดับชิ้นงานโดดเด่นหลายชิ้นของพอล เช่น ฝาครอบหูประดับเพชรสำหรับไฟต์ที่พบกับ ไมค์ ไทสัน และเขายังออกแบบจี้เพชรขนาดใหญ่ให้กับ W Bodycare เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของ พอล อีกด้วย
ยังไม่ชัดเจนว่า พอล จะใส่สร้อยเส้นนี้เดินขึ้นสังเวียนในช่วงกลางเดือนหน้าหรือไม่ เนื่องจากเขากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากที่สุดในอาชีพมวยของเขาในการดวลกับอดีตแชมป์เฮฟวี่เวต 2 สมัย
แต่ไม่ว่า พอล จะใส่สร้องสุดอลังการหรือไม่ในวันขึ้นชกไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นก็คือเขาเลือกเส้นทางถูกในการหันเหจากยูทูบเบอร์มาชกมวยอย่างจริงจัง จนมีรายได้มหาศาลอย่างที่เห็นทุกวันนี้ !!