เรื่องเล่าจาก โตเกียว “เสือคิม” จากชีวิตพังสู่ไฟต์ประวัติศาสตร์

เรื่องเล่าจาก โตเกียว “เสือคิม” จากชีวิตพังสู่ไฟต์ประวัติศาสตร์
ที่ห้องแถลงข่าว อาริอาเกะ อารีน่า… เสือคิม สจ.โต้งปราจีน เดินเข้ามาพร้อมหัวคิ้วที่ปูดราวลูกมะนาว

มันคือผลจากไฟต์ที่เกิดขึ้นไม่กี่นาทีก่อนหน้า ที่เขาพลิกสถานการณ์กลับมาชนะน็อค เจค พีค็อก ได้สำเร็จ และรับโบนัสก้อนใหญ่ 5 หมื่นเหรียญหรือราว 1.6 ล้านบาท

เมื่อผมเห็น เสือคิม ที่นั่งอยู่ตรงหน้า… ในใจก็แอบคิดสงสัยเกี่ยวกับโชคชะตา

ที่บางทีมักจะเหวี่ยงอะไรให้ลิ้มรสเจ็บช้ำสาหัสก่อน แล้วจึงตอบแทนด้วยสิ่งที่คุ้มค่ากับบาดแผลและความอดทนนั้นเสมอ

------------------------------

จากวันที่ชีวิตพังแบบโคตรพังสู่ค่ำคืนที่โตเกียว

บางที นักมวยคนหนึ่งอาจไม่ได้ถูกจดจำเพียงเพราะชนะหรือแพ้

แต่ถูกจดจำเพราะเรื่องราวที่เขาแบกมาบนเวที

และค่ำคืน ONE 173 ที่ อาริอาเกะ อารีน่า โตเกียว

คือวันที่ทั้งโลกได้เห็นว่า เสือคิม ไม่ได้ขึ้นไปชกเพื่อคะแนน

แต่ขึ้นไปชกเพื่อชีวิตใหม่ทั้งหมดของตัวเอง

เสือคิม คือมวยแม่เหล็กระดับหัวแถว แชมป์ลุมพินี 3 รุ่น

และเป็นนักมวยไทยที่โด่งดังมากได้ไปชกที่ ญี่ปุ่น หลายครั้ง แฟนมวยที่นั่น รู้จักชื่อ เสือคิม เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ช่วงพ.ศ. 2563 เกิดข่าวที่ตกใจพอสมควร เมื่อ เสือคิม ขอเลิกมวย

อาจเพราะคู่มวยตัน ในสายก็ตัน ต่างสายเจอ พันธุ์พยัค ซุปเปอร์เล็ก ก็แพ้ แล้วคู่ชกก็หายหลายคน

ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ เบื้องหลังมันเต็มไปด้วยบาดแผลที่ไม่มีใครเห็น

เขาอิ่มตัว เขาท้อ เขาถูกแฟนมวยวิจารณ์หนักแบบเจาะจงตัว

ดราม่าหลักมาจากคำครหาที่ว่า “เสือคิม ชกไม่เต็มที่“, ”มีนอกมีใน”

รวมถึงการจับผิดไลฟ์สไตล์ส่วนตัว เช่น เรื่องกินดื่ม

คำวิจารณ์พวกนี้แทงลึกกว่าหมัด และทำร้ายใจนักมวยมากกว่าโดนศอกกลับ

ที่สุด ขาตัดสินใจหักดิบ ประกาศเลิกชกตลอดชีวิต ทั้งที่อายุยังน้อย

------------------------------

หลังปิดฉากชีวิตนักมวย เสือคิม ไม่ได้มีพรมแดงปูรับ

เขากลับบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด จันทบุรี

และเริ่มต้นใหม่อาชีพที่ไม่มีใครคาดคิดคือ พ่อค้าทุเรียน

เขาขายทั้งทุเรียนสดและทุเรียนทอดพยายามสร้างตัวเหมือนคนที่เริ่มต้นใหม่จากศูนย์

แต่แล้วชีวิตก็ซัดหมัดชุดใหญ่ใส่เขาอีกครั้ง…

ธุรกิจไม่รุ่ง

ความรักพัง

ความเชื่อมั่นในตัวเองหายไป

รายได้ไม่มี

หนี้สินพุ่งถึงหลัก 5-7 แสนบาท

เขาเคยพูดว่า “ตอนนั้นชีวิตพังจริง ๆ ไม่เหลืออะไรเลย”

มันคือช่วงเวลาที่ไม่ใช่นักมวยคนไหนก็ผ่านมันมาได้

เพราะนี่ไม่ใช่ไฟต์ 3 ยกหรือ 5 ยก แต่เป็นไฟต์ชีวิตที่ไม่รู้จะจบเมื่อไหร่

ในวันที่เขาแทบจะหมดความหวัง เป็นจังหวะเดียวกับที่ ONE ลุมพินี กำลังถือกำเนิด

เรื่องของ เสือคิม ไปถึงหู บอสชาตรี รวมถึงดราม่าทั้งหมดในชีวิตเขา ตั้งแต่ประกาศเลิกมวยจนถึงความล้มเหลวหลังชีวิตนอกสังเวียน

บอสชาตรี ติดต่อไปยัง เสี่ยแขก พี.เค.แสนชัยฯ เพื่ออยากให้โอกาสเขาคนนี้กลับมา

เพราะนี่คืออดีตแชมป์ที่ยังไม่ได้จบแบบที่ควรจะเป็น

สำหรับ เสือคิม นี่คือแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ คือโอกาสครั้งเดียวที่จะชุบชีวิตใหม่ ล้างหนี้ สร้างอนาคต และกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง

“ผมจะกลับมาชก… เพราะผมต้องการเปลี่ยนชีวิต”

อย่างไรก็ดี ช่วงแรกบนเวที ONE ลุมพินี ไม่ได้งดงาม

เขาแพ้น็อกต่อ คิริลล์ โคมูทอฟ สลับมาชนะ ซามาน อาสซูริ แล้วกลับมาแพ้อีกครั้งต่อ อเล็กเซย์ บาลิโก

แต่ด้วยความมุ่งมั่นและพยายาม เสือคิม ฮึดสู้อีกครั้งเก็บชัยชนะต่อเนื่อง 4 ไฟต์ติด กระทั่งได้สัญญา ONE ใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

จนมาถึงค่ำคืนที่กรุงโตเกียว เมืองที่เป็นที่สุดท้ายก่อนประกาศเลิกมวยครั้งก่อน กลายเป็นที่ที่เขาเหมือนได้สถาปนาตัวเองใหม่อีกครั้ง 

ONE 173 ที่ อาริอาเกะ อารีน่า โตเกียว คือจุดนัดพบระหว่างอดีตที่เจ็บปวดและอนาคตที่รออยู่

เจค พีค็อก ไม่ใช่คู่ชกธรรมดา แม้มีแขนข้างเดียว แต่มีเขาสไตล์มวยฝรั่งที่หนักจริง เร็วจริง และอันตรายทุกวินาที

ยกแรก เจค ลุยใส่แบบไม่ให้ตั้งตัว

เสือคิม เจ็บ

เสือคิม มึน

และ เสือคิม ยอมรับว่าเจอของแข็งจริง ๆ

แต่ยกต่อ ๆ มา สิ่งที่กลับมาคือหัวใจนักมวยที่เขาเคยทิ้งไปตอนเลิกชก

เขาเดิน

เขาลุยกดดัน

เขาออกอาวุธแบบที่ตัวเองเคยเป็น

และเขาก็ฮุคซ้ายส่ง เจค แพ้เทคนิเคิล น็อคเอาท์

คนที่ยืนอยู่กลางเวทีกรงที่ อาริอาเกะ นาทีนั้น… ไม่ใช่ เสือคิม ที่เคยถอดนวมเลิกมวย แต่คือ เสือคิม ที่เกิดใหม่อีกครั้ง

------------------------------

หลังชนะ เขาได้รับโบนัสก้อนโต 50,000 ดอลลาร์หรือราว 1.6 ล้านบาท

เขาตอบบนเวทีว่าจะนำเงินไปสร้างบ้าน แต่เขาเปลี่ยนใจในไม่กี่นาที เพราะมองไกลมากกว่านั้น

“ผมอยากเอาไปลงทุนครับ”

คำตอบนี้คือบทใหม่ของชีวิต ไม่ใช่ใช้เที่ยว ไม่ใช่ซื้อรถหรู ไม่ใช่โปรยเงิน แต่คือการสร้าง “รากฐานชีวิต”

เขาอยากเปิดกิจการของตัวเองที่จันทบุรี อาจเป็นคาเฟ่ที่แฟนเก่งทำขนม เป็นร้านธีมนักมวย 

หรือธุรกิจที่ทำให้เขามีรายได้สำรอง เพราะเขารู้ดีว่าชีวิตนักมวยมันสั้น

นี่คือทัศนคติของคนที่โตขึ้นจริง ๆ และมองไกลกว่าแค่ไฟต์หน้า

------------------------------

เรื่องราวของเขาบอกเราว่า นักมวยที่ยิ่งใหญ่ ไม่ได้ยิ่งใหญ่เพราะชนะตลอด

แต่ยิ่งใหญ่เพราะ ไม่เคยยอมแพ้แม้ชีวิตจะเหยียบจนจมดิน

จากเด็กที่ถูกแฟนมวยด่า

จากอดีตแชมป์ที่ต้องไปขายทุเรียน

จากผู้ชายที่มีหนี้ครึ่งล้าน

จากคนที่เคยพูดว่าชีวิตพัง

วันนี้เขากลับมายืนที่ โตเกียว มีคนทั้งโลกปรบมือให้ และมีอนาคตที่เริ่มชัดเจนขึ้นกว่าที่เคย

และทั้งหมดนี้เริ่มจากสิ่งเดียว ”โอกาสที่เขาไม่ปล่อยให้หลุดมือ”

เสือคิม ไม่ใช่แค่นักมวย แต่คือนักสู้ของชีวิต

#HOSSALONSO



ที่มาของภาพ : -
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport