จากชายผู้เคยชูธงชาติไทยบนเวทีโลก สู่ชายที่จำใครไม่ได้แล้วในวันนี้ เรื่องราวของ "อำนาจ รื่นเริง" ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวของอดีตนักมวย แต่คือภาพสะท้อนของระบบที่ปล่อยให้ฮีโร่ผู้สร้างชื่อเสียงให้ชาติ ต้องเผชิญกับความพังทลายอย่างโดดเดี่ยว
- จากแชมป์โลก 10 ล้านต่อไฟต์…สู่ชีวิตที่ไร้ที่พึ่ง
ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน "อำนาจ รื่นเริง" คือชื่อที่แฟนมวยทั่วประเทศรู้จักดี เขาคือแชมป์โลก IBF รุ่นฟลายเวต ผู้ได้รับเสียงชื่นชมในฐานะฮีโร่ผู้สร้างเกียรติให้ชาติ ค่าตัวต่อไฟต์พุ่งสูงถึงหลักสิบล้านบาท
แต่วันนี้...เขากลับอยู่ในสภาพที่น่าสลดใจ ป่วยทั้งกายและใจ ซึมเศร้า จิตหลอน และแทบจำใครไม่ได้แล้ว
ในรายการ Yindeeman’s Talk "เสี่ยโบ๊ต" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ได้เปิดเผยเบื้องลึกที่สะเทือนใจ ว่าเบื้องหลังชีวิตของ อำนาจ ไม่ได้เกิดจากยาเสพติดอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นผลรวมของความเจ็บปวดในชีวิตที่กัดกร่อนเขาจนไม่เหลือสติ
- จุดแตกหัก : เมื่อหัวใจพังจนจิตใจพังตาม
"เสี่ยโบ๊ต" เล่าว่า ปัญหาเริ่มต้นเมื่อราว 2 ปีก่อน อำนาจเริ่มมีปัญหาครอบครัวจนต้องแยกทางกับภรรยา ความรักที่พังทลายกลายเป็นรอยร้าวใหญ่ในจิตใจของชายคนนี้
"ตื่นมาก็คิดแต่เรื่องเมีย เรื่องครอบครัว...คิดวนอยู่อย่างนั้นทุกวัน"
นั่นคือสิ่งที่คนใกล้ชิดเล่าถึงเขาในช่วงเริ่มต้นของความทรุด
ความทุกข์ใจกลายเป็นชนวนที่ซ้ำเติมอาการป่วยทางจิตเวชเดิม เขาเป็นโรคซึมเศร้า และมีภาวะ หลอน-หวาดระแวง จนไม่อาจแยกความจริงออกจากภาพในหัวได้
- "มีคนจะมาฆ่า"... เสียงจากความหลอน
ความเจ็บปวดในใจค่อย ๆ แปรสภาพเป็นภาพหลอนในหัว เขาเคยโทรหาคนใกล้ชิดกลางดึก บอกว่า "มีคนจะมาฆ่า" หรือ "มีคนดักอยู่ข้างล่างค่ายมวย"
จุดที่หนักที่สุด คือวันที่เขาหลุดจากการควบคุมสติ ถึงขั้นถือมีดจะฟันใครก็ไม่รู้ เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากความร้าย แต่เกิดจากความหลุดและเมา
- สุรา : ทางออกที่ทำลายชีวิต
เมื่อใจแตกสลาย เขาเลือก "ขวดเหล้า" เป็นเพื่อนคนสุดท้าย
"อำนาจกินเหล้าเพราะอยากลืม อยากหนีจากความจริง" เสี่ยโบ๊ต เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
แต่ยิ่งดื่ม ก็ยิ่งหลงทาง เขาเมาแบบไม่หลับไม่นอน สติเลือนหาย สุขภาพย่ำแย่ และอาการทางจิตก็ทรุดหนักลงทุกวัน
เขาเคยพยายามกลับไปเป็นเทรนเนอร์มวย แต่ไม่สามารถสอนได้ เพราะเมาแทบทุกวัน
- ความช่วยเหลือที่ไปไม่ถึง
คนใกล้ชิดและผู้ใหญ่ในวงการมวยเคยพยายามช่วยอย่างสุดกำลัง เขาได้รับการส่งตัวเข้ารักษาที่ โรงพยาบาลบ้านสมเด็จ นานกว่า 20 วัน โดยมีผู้ใจบุญออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผลตรวจทุกอย่างไม่พบสารเสพติด ทั้งปัสสาวะและเลือด มีเพียงอาการทางจิตเวชและผลข้างเคียงจากการดื่มสุราเท่านั้น
หลังจากหยุดเหล้าได้ 20 วัน ร่างกายเริ่มฟื้น แต่เมื่อกลับบ้าน เขาเมาอีกทันที
"ตอนนั้นทุกคนหมดแรงจะช่วยแล้ว เพราะเขาเลือกจะกลับไปหาขวดเหล้าเอง" เสี่ยโบ๊ต พูดตรง ๆ
- เมื่อฮีโร่ไม่มีบ้านให้กลับ
ปัจจุบัน "อำนาจ รื่นเริง" แทบจำใครไม่ได้แล้ว ไม่มีครอบครัว ไม่มีคนดูแล ไม่มีรายได้ และไม่มีที่ยึดเหนี่ยวทางใจ
คนใกล้ชิดหลายคนบอกตรงกันว่าน่าสงสาร...เพราะเขาไม่มีใคร
และในสภาพนี้ ถ้าไม่มีใครเข้าไปดูแลอย่างจริงจัง เขาอาจกลายเป็นศพริมถนนในไม่ช้า
- เสียงวอนจาก "เสี่ยโบ๊ต" ถึงรัฐและสังคม
"เสี่ยโบ๊ต ณัฐเดช" กล่าวในรายการด้วยความรู้สึกสะเทือนใจว่า
"อย่าเพิ่งไปซ้ำเติมเขาเลยครับ เขาเป็นคนป่วย เขาไม่ได้เลวร้าย เขาแค่ต้องการโอกาสอีกครั้ง"
เขาวอนให้หน่วยงานต่าง ๆ เช่น กกท., สมาคมมวย, กระทรวงพัฒนาสังคมฯ หรือแม้แต่รัฐบาล เข้ามายื่นมือช่วยเหลืออย่างจริงจัง
พร้อมยืนยันว่า หากมีโรงพยาบาลหรือหน่วยงานใดพร้อมรับรักษา "เสี่ยโบ๊ต ยินดีออกค่าใช้จ่ายเอง" เพียงขอให้ฮีโร่ของคนไทยคนนี้ได้กลับมามีสติและจำคนรอบข้างได้อีกครั้ง
- บทสรุป : เมื่อแสงสปอร์ตไลต์ดับลง
ชีวิตของ "อำนาจ รื่นเริง" สะท้อนความจริงอันโหดร้ายในวงการกีฬา เมื่อแสงไฟบนเวทีดับลง ฮีโร่จำนวนมากต้องต่อสู้กับเงามืดในใจอย่างโดดเดี่ยว
นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของอดีตแชมป์โลกคนหนึ่งที่พัง แต่คือคำถามต่อสังคมว่า
"เราจะปล่อยให้ฮีโร่ของชาติ ต้องจบชีวิตเพราะไม่มีใครเหลียวแลอีกกี่คน?"
HOSSALONSO