“พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.), “เมืองไทย พีเค.แสนชัย” และ “ป้อมเพชร พานทองยิม” 3 จอมบู๊จากค่ายมวยพีเค.แสนชัยมวยไทยยิม ย่านพระราม 3 ให้การต้อนรับทีมงานสื่อมวลชนเพื่อพูดคุยถึงความพร้อมล่าสุดผ่านกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) ก่อนลุยทำศึกสำคัญที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นเร็ว ๆ นี้
เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้ง 3 คนพร้อมใจกันมาซ้อมอวดความฟิตให้สื่อมวลชนเก็บภาพอย่างคึกคัก และเปิดใจถึงความพร้อมล่าสุด ก่อนทำหน้าที่ตัวแทนค่ายขึ้นสังเวียน
โดย “พระจันทร์ฉาย” เตรียมรีแมตช์กับ “โจนาธาน ดิ เบลลา” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล ตัวแทนอิตาลี-แคนาดา ในศึก ONE Fight Night 36 วันเสาร์ที่ 4 ต.ค. 68 เพื่อเฟ้นหาราชันเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นนี้ ซึ่งเจ้าตัวพร้อมพิสูจน์ฝีมือกับ “ดิ เบลลา” อีกครั้งให้หายคาใจ
“หลังจบไฟต์ภาคแรก ดิ เบลลา ยังข้องใจว่าเขาแพ้ตรงไหน ผมเองก็กลับไปดูเทปการชกอย่างละเอียด ให้เห็นชัด ๆ ว่าใครทำได้ดีกว่ากัน และถ้าวัดที่การออกอาวุธเข้าเป้า ผมมั่นใจว่าผมเป็นฝ่ายชนะ”
“ส่วนครั้งนี้ ผมคาดเดาไม่ได้ว่าจะยากหรือง่ายกว่าภาคแรก เพราะต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าเตรียมแผนกันมาอย่างไร แต่ผมคิดว่า ดิ เบลลา น่าจะแก้ทางลูกเข่ามา เพราะวันนั้นเขาโดนเข่าผมไปเยอะ สำหรับผมเองเก็บตัวเต็ม ๆ 11 สัปดาห์ ตอนนี้พร้อมเกินร้อย และยังได้โค้ชคิกบ็อกซิ่งคนใหม่มาช่วยสอนให้โดยตรงด้วย มั่นใจว่ามีของมาโชว์เยอะเลยครับ”
“ฝากถึง ดิ เบลลา ไม่ต้องกลัวว่าผมจะหนี วันที่ 4 ต.ค.นี้ เราได้วัดกันบนเวทีแน่นอน เพราะตรงนั้นมีแค่ผมและคุณแค่สองคนเท่านั้น เดี๋ยวได้รู้ว่าใครจะแน่กว่ากัน เข็มขัดแชมป์ต้องยังอยู่ที่ประเทศไทยครับ”
ขณะที่ “เมืองไทย” ปะทะ “แอนตาร์ คาเซม” นักสู้วัย 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส-เบลารุส ในกติกามวยไทย 140 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 126 วันศุกร์ที่ 26 ก.ย.นี้ โดยเจ้าของฉายา “ขุนศอกผีดิบ” เผยว่าศึกษาคู่ต่อสู้มาอย่างถี่ถ้วน เตรียมแจกอาวุธหนักตามสไตล์ถนัด และยังแอบหวังถึงการได้สัญญา ONE ด้วย
“แอนตาร์ ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวในระดับหนึ่ง จุดแข็งของเขาคืออกหมัดได้เร็วและคม แต่เรื่องพลังยังไม่หนักเท่าไร ส่วนจุดอ่อนที่อาจเป็นช่องโหว่คือเกมวงใน เวลาปะทะยังดูไม่แข็งแรงนัก อย่างไรก็ตาม ผมไม่ประมาทแน่นอนครับ”
“ถึงแม้ผมจะตัวเล็กกว่าและอาจเข้าถึงตัวเขาได้ยาก แต่ที่ผ่านมา ผมก็เคยเจอนักมวยรูปร่างสูงใหญ่มาแล้วหลายครั้ง จึงไม่กังวลมากนัก ไฟต์นี้ผมยังยึดสไตล์เดิมคือเดินชน บู๊ ดุดัน ชวนแลก เพียงแต่จะเพิ่มความระวังให้มากขึ้น และถ้าผมเก็บชัยชนะได้สวย ๆ ก็อาจมีโอกาสได้สัญญา ONE ต้องรอดูกันว่าผลงานครั้งนี้จะเข้าตา บอสชาตรี หรือเปล่าครับ”
ส่วน “ป้อมเพชร” เตรียมนำข้อผิดพลาดจากภาคแรกมาปรับใช้รับมือกับ “ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ” จอมเก๋าวัย 30 ปี จากร้อยเอ็ด ในไฟต์รีแมตช์กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 126 โดยเจ้าตัวปักธงว่าครั้งนี้จะต้องจบให้ชัดเจนเพื่อสยบดรามาจากไฟต์ก่อน
“ผมดีใจมากที่ได้โอกาสล้างตากับพี่ยอดเหล็กเพชร และได้มีส่วนร่วมในรายการใหญ่ครั้งนี้ หลังจากย้อนดูไฟต์แรก ผมเห็นว่าตัวเองยังมีข้อผิดพลาดหลายจุด ถึงแม้จะเป็นฝ่ายออกอาวุธมากกว่า แต่กลับเข้าเป้าน้อย ไฟต์นี้ผมจึงทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อให้ออกอาวุธได้แม่นยำกว่าเดิม”
“ผมมั่นใจว่ารูปเกมไฟต์นี้จะต้องสนุกกว่าครั้งก่อนแน่นอน เพราะผมตั้งใจปักหลักแลกชนเต็มที่ และหวังว่าจะปิดเกมได้ก่อนครบยก ที่สำคัญที่สุดคือ ผมอยากเอาชัยชนะไปฝากลูกสาว ‘น้องมะนาว’ ที่คอยส่งกำลังใจให้ตลอดครับ”
สำหรับศึก ONE ลุมพินี 126 บัตรเข้าชมในสนามจำหน่ายหมดแล้ว หากท่านใดที่ซื้อบัตรไม่ทันสามารถรับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com อินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH
ขณะที่ศึก ONE Fight Night 36 แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 08.00 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH