“มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่ซานฟรานซิสโก กระแสแรงเกินคาด ชาวอเมริกันแห่ร่วมเรียนกว่า 800 คน พร้อมมอบป้าย SMG 10 ยิม ต่อยอด Soft Power ดันคนต่างชาติบินมาไทยเรียนมวย เพิ่มรายได้เข้าประเทศ
กระแส “มวยไทย” ในต่างแดนยังแรงต่อเนื่อง ล่าสุดกิจกรรม “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ก.ค. – 2 ส.ค. ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ดึงดูดชาวอเมริกันเข้าร่วมคลาสเรียนมวยไทยกว่า 800 คน ตอกย้ำพลัง Soft Power ไทยที่ขยายตัวอย่างน่าจับตา
กิจกรรมดังกล่าวจัดโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมี นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการฯ เป็นประธานเปิดงาน ณ เอปเลอร์ ยิมเนเซียม ภายในโอห์โลเน่ คอลเลจ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ร่วมด้วย นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย และคณะผู้บริหาร
ภายในงานมีการเปิดมาสเตอร์คลาสสอนมวยไทยโดย 3 ยอดนักชกระดับตำนานของไทย ได้แก่ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ และเพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9 ถ่ายทอดพื้นฐาน ทักษะ และเทคนิคเฉพาะตัวแก่ผู้ร่วมกิจกรรม ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก มีผู้ลงทะเบียนล่วงหน้ากว่า 750 คน และมีผู้สนใจลงทะเบียนเพิ่มหน้างาน รวมยอดทะลุเกิน 800 คน พร้อมร่วมเซอร์ไพรส์วันเกิดครบรอบ 45 ปีของ “แสนชัย” ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีพิธีมอบป้าย Standard Muaythai Gym (SMG) ให้แก่ยิมมวยไทยในอเมริกาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย จำนวน 10 แห่ง อาทิ RISE Combat Sports, El Niño, Jai Yen Gym และ KOA รวมถึงกิจกรรมประชาสัมพันธ์แนวทางการขอวีซ่าเรียนมวยไทย ทั้ง Non-Immigrant Visa รหัส ED 90 วัน และ Muaythai DTV (Destination Thailand Visa) แบบพำนักได้ 180 วัน เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเรียนมวยไทยในไทย สร้างงานและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
นายชลิตรัตน์ เผยว่า ซานฟรานซิสโกนับเป็นเมืองที่ 12 ที่จัดกิจกรรมในช่วง 1 ปี 4 เดือน และเป็นครั้งที่ 2 ในสหรัฐฯ ซึ่งกระแสตอบรับเหนือความคาดหมาย จากครั้งก่อนที่ลอสแองเจลิสมีผู้ร่วมกิจกรรมราว 350 คน เท่านั้น ครั้งนี้ทะลุ 800 คน สะท้อนว่ามวยไทยไม่ใช่แค่กีฬา แต่กลายเป็นไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพในสายตาชาวต่างชาติ
“ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม เราเห็นการเติบโตของตัวเลขคนที่เดินทางมาไทยเพื่อเรียนมวยและท่องเที่ยว ทำให้เกิดผลทางเศรษฐกิจโดยตรง บางประเทศเราใช้งบแค่ 6-7 ล้านบาท แต่มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นสูงกว่า 10 เท่า” เขากล่าว
ด้าน นางโปรดปราน สมานมิตร ระบุว่า ปีหน้าโครงการจะเน้นการพัฒนาผู้ฝึกสอนในต่างประเทศมากขึ้น พร้อมเปิดอบรมและสอบซีไลเซนส์ เพื่อยกระดับมาตรฐานครูฝึกมวย และเมื่อจะต่ออายุหรือเลื่อนระดับไลเซนส์ ผู้ฝึกสอนเหล่านี้จะต้องเดินทางกลับไทย ซึ่งจะเป็นการนำรายได้เข้าสู่ประเทศอีกทางหนึ่ง
สำหรับโครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” มีกำหนดเดินสายโปรโมตมวยไทยใน 10 ประเทศทั่วโลก โดยที่ผ่านมาได้ไปแล้วที่ ฮ่องกง บราซิล อังกฤษ สกอตแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศถัดไปได้แก่ เยอรมนี (มิวนิก), ฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และออสเตรเลีย