คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยกทีมตรวจค่ายมวยไทยที่อยู่ภายในเมืองซาน ฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐฯ ก่อนรับรองมาตรฐานด้วยการมอบป้าย SMG นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เล็งส่งเสริมสร้างความนิยมในสหรัฐฯ ด้วยการจัดหาครูมวยจากประเทศไทย มาประจำที่สหรัฐฯ
คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ "มวยไทย มาสเตอร์ คลาส ทัวร์ 2025" ที่เมืองซาน ฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค.
เมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นางสาววิภาวี วัยวัฒน์ ผู้อำนวยการกองบริหารงานกีฬามวย, นายอภิชัย นราวงษ์ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันมวยไทยแห่งชาติ และทีมงาน ได้เดินทางไปตรวจค่ายมวยไทยที่อยู่ภายในเมืองซาน ฟรานซิสโก จำนวน 3 ค่ายมวย ได้แก่ ไรส์ คอมแบต สปอร์ต, เอล นิโญ่ และเคโอเอ พร้อมกับมอบโล่ Standard Muaythai Gym หรือ SMG ที่รับรองโดยกกท. ให้กับทั้ง 3 ค่ายมวยที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ที่ได้เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย
นายชลิตรัตน์ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมค่ายมวยไทยในต่างประเทศนั้นเป็นงานของสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ที่เปิดให้ค่ายมวยไทยในต่างประเทศได้ลงทะเบียนมาทั้งแบบออฟไลน์หรือออนไลน์ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกีฬาเล็งเห็นความสำคัญในการทำให้ระบบนิเวศน์ของกีฬามวยไทยเข้มแข็ง มีรากฐานที่ดีในการโปรโมทมวยไทย อย่างในประเทศเราพยายามส่งครูมวยไปอยู่ตามค่าย เปิดสอนฟรี หรือส่งเสริมมวยไทยให้เป็นอาชีพ ขณะที่ในต่างประเทศ ค่ายมวยหรือยิมส่วนใหญ่ก็มีคนไทยเป็นเจ้าของ เราก็มีหน้าที่รับรอง มอบป้ายรับรองมาตรฐานให้เพื่อเป็นเครื่องการันตี ให้เป็นที่ยอมรับและสามารถสร้างมูลค่าได้ ทำให้มีลูกค้ามากขึ้น เมื่อมีคนเรียนมากขึ้นก็สามารถนำรายได้ส่งกลับไปให้ครอบครัวที่ไทยได้
นายชลิตรัตน์ กล่าวต่อว่า แม้แต่ค่ายมวยของคนต่างชาติพวกเขาก็จะรู้สึกผูกพันธ์และภูมิใจที่ได้รับความสำคัญจากประเทศไทยที่เป็นต้นแบบมวยไทย เพื่อสนับสนุนให้มีคนมาเรียน รวมถึงกระตุ้นให้อยากเดินทางไปประเทศไทย ไปสัมผัสกับมวยไทยของจริง ก็จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย โดยเรามีการติดตามผลอยู่ตลอดว่ามีคนต่างชาติเดินทางไปเรียนมวยที่ไทยจำนวนเท่าไหร่ แม้ว่ามวยไทยจะเป็นแค่หนึ่งในสาขาของซอฟต์เพาเวอร์ แต่ถ้าสาขาช่วยกันก็จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
"ต้องบอกเลยว่าจากที่ไปมาหลายประเทศ ทั้งในอเมริกา หรือออสเตรเลีย มีค่ายใหญ่ๆ ค่อนข้างมาก ส่วนที่ต้องเสริมเลยคือการฝึกครูมวยคนไทย เพื่อต่อยอดให้กับนักมวยที่เลิกชกแล้ว สามารถไปเรียนครูมวย ส่งออกมาเป็นครูสอนที่ต่างประเทศ นำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศไทย" นายชลิตรัตน์ กล่าว
ด้านนางโปรดปราน กล่าวว่า อย่างที่รู้กันว่าสหรัฐถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มใหญ่ของกีฬามวยไทย เพราะมีการเรียนมวยกันค่อนข้างเยอะและได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะจาก 3 ค่ายที่ได้เดินทางไปดู เห็นได้ชัดว่าในสหรัฐกำลังนิยมมวยไทยเป็นเทรนด์หนึ่งในการออกกำลังกายอย่างมาก ที่มาแรงสุดๆ คือการเรียนมวยเป็นไลฟ์สไตล์ ทำให้มีร่างกายที่ดี สุขภาพแข็งแรง ทำให้เห็นคนทุกเพศทุกวัยมาเรียนมวยไทยกัน ดังนั้นน่ายินดีอย่างมากที่คนสหรัฐยอมรับมวยไทย เป็นความภาคภูมิใจที่ได้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยออกไป
การเดินทางมาตรวจและมอบป้าย SMG นั้น ตอนนี้หลักๆ มาตรฐานค่ายจะต้องมีเวที, มีครูฝึก, มีผู้เรียนจำนวนหนึ่ง และสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การเรียน หลังจาก 2 ปีที่เดินหน้านโยบายนี้ สิ่งที่จะทำต่อไปคือการเพิ่มประชากรมวยให้มีคุณภาพ ก็คือการเรียนมวยไทยต้องฝึกด้วยคนไทย นำผู้ฝึกสอนไทยที่ได้มาตรบานมากระจายตามยิมในต่างประเทศ สร้างรายได้เพื่อนำรายได้กลับเข้าสู่ประเทศไทยต่อไป
"ครูอั๋น" อมรเดช รานจันทึก ครูมวยไทยที่เคโอเอยิม เปิดเผยว่า อยู่ที่สหรัฐมา 15-17 ปีแล้ว คนที่นี่ชื่นชอบมวยไทยมากๆ เพราะพวกเขาชอบออกกำลังกายกัน ส่วนใหญ่เป็นการต่อยแบบสมัครเล่นเพื่อออกกำลังกายหรือป้องกันตัว แต่ก็มีลูกศิษย์หลายคนที่ติดใจแล้วเดินทางไปไทยค่อนข้างเยอะ
"ความนิยมของมวยไทยที่สหรัฐเพิ่มขึ้นมาก บางครั้งคนที่นี่กลับไปเรียนมวยไทยที่ไทยแล้วก็กลับมาเปิดยิมของตัวเอง ส่วนที่ยิมเคเอโอนั้น มีคนเรียนวันละ 60-70 คน ส่วนรายได้จัดว่าดี ถ้ามีสอนแบบส่วนตัวก็จะได้เยอะกว่าหน่อย ฉะนั้นอยากเห็นครูมวยไทยมาสอนที่นี่เยอะๆ เพื่อจะได้สร้างครอบครัว ส่งเงินกลับไปให้ที่บ้านต่อไป" ครูอั๋น กล่าว
ขณะที่ "แอนนา" ฐาปภัค บัคเลย์ สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เรียนมวยไทยที่เคเอโอยิม กล่าวว่า รู้จักมวยไทยตั้งแต่เด็กเพราะเกิดที่ประเทศไทย เลยได้ซ้อมที่ไทยมา พอต้องมาสหรัฐก็อยากเล่นต่อเลยมีคนแนะนำยิมแห่งนี้ให้ เลยมาลองเล่นดู รู้สึกสนุกมากๆ อาจจะไม่เหมือนที่ไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ได้ความรู้สึกของการออกกำลังกาย มีชวนเพื่อนๆ มาต่อยมวยไทยด้วยกัน
"อาจจะไม่ได้มีผู้หญิงต่อยมวยมากนัก แต่ก็เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นให้เพื่อนๆ หันมาชกมวยไทยด้วยกัน ก็พยายามชักชวนทุกคนมา เพราะมันเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เหมือนการออกกำลังกายเท่าไหร่" แอนนา กล่าวปิดท้าย
สำหรับโครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส ทัวร์ 2025 จะเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ประเทศซึ่งก่อนหน้านี้เดินทางไปฮ่องกง, บราซิล, อังกฤษ และสกอตแลนด์ มาแล้ว โดยสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ 5 และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี ต่อด้วยฝรั่งเศส, สเปน, โปรตุเกส และออสเตรเลีย