บัวขาว บัญชาเมฆ และ ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี่ สอนการไหว้ครูและแม่ไม้มวยไทยให้นักกีฬาทหารจาก 11 ชาติ ในศึกมวยไทยทหารโลก ครั้งแรกที่ไทยจัด พร้อมไทยคว้าเจ้าเหรียญทอง
"บัวขาว บัญชาเมฆ" ควงคู่ "ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี่" 2 ยอดนักมวยไทยชื่อดัง ร่วมฝึกสอน การไหว้ครูและแม่ไม้มวยไทย ให้กับนักกีฬาทหารจากนานาชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬามวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1 รายการ 1st CISM Military Muaythai Challenge ซึ่งจัดขึ้นที่ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 10-13 กรกฎาคม 2568
ประเทศไทยรับบทเจ้าภาพจัดศึกมวยไทยระดับทหารโลกครั้งแรก มีทัพนักกีฬาเข้าร่วมกว่า 500 คน จาก 11 ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา, อุซเบกิสถาน, เบลเยียม, ปาเลสไตน์, ตุรกี, ซาอุดีอาระเบีย, โปแลนด์, คาซัคสถาน, อิหร่าน, บาห์เรน และไทย โดย สหพันธ์กีฬาทหารโลก (CISM) ได้ประกาศยืนยันว่า “มวยไทย” จะถูกบรรจุเป็นกีฬาชิงเหรียญในมหกรรม กีฬาทหารโลก ปี 2027 ที่สหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ได้มีการจัดกิจกรรม “ไหว้ครู เทรนนิ่ง” เพื่อให้นักกีฬาต่างชาติเรียนรู้ศิลปะมวยไทยแบบดั้งเดิม โดยมี ดร.สุทิน คลังแสง นายกสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) เป็นประธาน พร้อมด้วย บัวขาว บัญชาเมฆ (ร.อ.สมบัติ บัญชาเมฆ), ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี่ (ธนกฤษ สิทธิกุล) และคณะครูมวยมืออาชีพอีก 6 คน มาร่วมถ่ายทอดแม่ไม้สำคัญแก่เหล่านักกีฬา
ในกิจกรรมนี้ยังได้รับเกียรติจาก พันเอก โคโลเนล นิลสัน โกเมส โรลิม ฟิลโฮ ประธาน CISM นำการไหว้ครูตามแบบมาตรฐานของ สหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) เพื่อยกระดับความเข้าใจและคุณค่าทางวัฒนธรรมของมวยไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ศิลปะป้องกันตัว แต่ยังแฝงไว้ด้วยองค์ความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์การกีฬา ทั้งทางกายและจิตใจ
ดร.สุทิน คลังแสง กล่าวว่า มวยไทยไม่ใช่แค่แม่ไม้หรือการต่อสู้ในเวที แต่ยังมี “การไหว้ครูมวยไทย” ที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ควรถ่ายทอดสู่เวทีนานาชาติ
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กองทัพไทย และ สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ร่วมกับ IFMA และ สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ โดยได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และหน่วยงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬามวยไทย
สรุปผลการแข่งขันมวยไทยทหารโลก ครั้งที่ 1
ไทย: 9 เหรียญทอง, 4 เหรียญเงิน, 2 เหรียญทองแดง (เจ้าเหรียญทอง)
ตุรกี: 3 ทอง, 4 เงิน, 4 ทองแดง
โปแลนด์: 1 ทอง, 2 เงิน, 5 ทองแดง
อุซเบกิสถาน: 1 ทอง, 2 เงิน, 2 ทองแดง
อิหร่าน: 1 เหรียญทอง
การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงยกระดับมวยไทยสู่เวทีทหารโลก แต่ยังเป็นการผลักดันมวยไทยในฐานะมรดกของชาติสู่สากลอย่างเป็นรูปธรรม