สรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานโอลิมปิกไทย และ รองผู้ว่าการกกท. ให้กำลังใจนักมวยเยาวชนไทย ชุดสู้ศึก "อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025" เวโรนา อิตาลี พร้อมส่งเสริมและมอบเครื่องหมาย SMG เพื่อแสดงถึง มาตรฐานยิมมวยไทยให้กับผู้ประกอบการ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.68 (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ AGSM Forum สนามกีฬาในเมืองเวโรนา ประเทศอิตาลี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินทางมาให้กำลังใจนักมวยเยาวชนไทย "WBC มวยไทย ไทยแลนด์" ชุดสู้ศึก "อะเมซิ่งมวยไทยเวิลด์เฟสติวัล 2025" (Amazing Muaythai World Festival 2025) เพื่อฉลองความสัมพันธ์ไทย-อิตาลี 157 โดยมี พล.ต.ธนพล ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลก มวยไทย (WBC มวยไทย) ให้การต้อนรับ
กิจกรรมภายในงาน นอกจากการแข่งขันมวยไทยแล้ว ยังมีการส่งเสริมและมอบเครื่องหมาย Stand Muaythai Gym (SMG) เพื่อแสดงถึง มาตรฐานยิมส์มวยไทยให้กับผู้ประกอบการในอิตาลี ที่ได้รับการแนะนำในด้านมาตราฐานโครงสร้างพื้นฐานและการบริหารจัดการของยิมส์มวยไทย จากสำนักงานคณะกรรมการมวย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนี้ยังได้พบปะพูดคุยกับครูมวย ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบกีฬามวย เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมมวยไทยในระดับนานาชาติให้เติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับงานนี้จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะไปสิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย.68 โดยนักมวยเยาวชนไทยชุดนี้มี 8 คน ประกอบด้วย ธานีจูเนียร์ ช.ไทยเศรษฐ์, ขวัญข้าว ลูกพ่อเสือ, เพชรแท้ เกียรติบุรินท์, ฐานทัพ อัครเทวา, เจริญลาภ ส.ทะแกล้วพันธุ์, เพชรมรกต ศิษย์สองพี่น้อง, เอกพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์, ตะวันฉาย ส.ศิริลักษณ์ โดยมี สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง เป็นกัปตันทีม และมี อ.มนต์ฤทธิ์ ศิษย์สองพี่น้อง เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน
นอกจากนี้ กิจกรรมภายในงานยังมี การอบรมผู้ตัดสินมวยไทย, สาธิตมวยโบราณ, เปิดอบรมคลินิกมวยไทยโดยนักมวยที่มีชื่อเสียง และที่พิเศษคือ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำอิตาลี และทีมไทยแลนด์ประเทศอิตาลี ได้มาร่วมจัดงาน ไทย วิลเลจ (Thai Village) ณ บริเวณสนามแข่งขัน ซึ่งมีการแสดงวัฒนธรรมไทย, นิทรรศการผ้าไหมไทย, บริการนวดแผนไทย และการออกร้านอาหารไทย ซึ่งจะช่วยให้งานนี้ เป็นเทศกาลที่จะช่วย เสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย และส่งเสริมมวยไทยเพื่อการท่องเที่ยว ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์เพาเวอร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน