บุกริโออีกครั้ง "โร้ดโชว์ มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025" ยกทัพครูมวยไทยไปสอนถึงบราซิล เป็นครั้งที่ 2 ของปี ต่อจากฮ่องกง งานนี้ต้องขอบคุณคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา และ กกท. ที่ร่วมกันเผยแพร่ซอฟต์เพาเวอร์ไทยให้ก้องโลก
ผ่านพ้นไปแล้วกับ โครงการ โร้ดโชว์ มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 (Master Class Road Show Muay Thai Soft Power) ที่นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 2 ของปีต่อจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จัดโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระหว่างวันที่ 26-27 เม.ย.68
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ Centro de Convencoes Hotel Nacional ได้มีจัดกิจกรรม โร้ดโชว์ มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวกุนทินี อักษรวงศ์ เอกอัครราชฑูต ณ กรุงบราซิเลีย นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา นางโปรดปรานสมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย และคณะทำงาน ซึ่งมีแฟนมวยและผู้สนใจชาวบราซิล ลงทะเบียนเข้าร่วมกว่า 300 คน
ต้องบอกว่ากิจกรรมนี้ แฟนๆมวยท้องถิ่นจำนวนมากทุกเพศทุกวัย ต่างพกอุปกรณ์และชุดซ้อมมวยมาครบชุด เพื่อมารอต่อคิวเข้าร่วม ซึ่งกิจกรรมมีทั้งการออกบูธโปรโมตคอร์สมวยไทย จากค่ายมวยที่ได้รับการรับรอง จาก สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลและวีซ่า การโชว์ไหว้ครูนาฏยุทธ์มวย การสอนออกอาวุธผ่านภาษาสากล หมัด เท้า เข่า ศอก และเทคนิคต่างๆ จาก 2 ซูเปอร์สตาร์ดังดีกรีแชมป์โลก ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ และ ปกรณ์ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ร่วมด้วย เทรนเนอร์เก หรือ "สุทัศน์ ม่วงมัน" เทรนเนอร์ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนักมวยชื่อดัง ซึ่งตลอดการสอนนั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนานและได้รับความสนใจอย่างมาก
ทั้งนี้คณะทำงาน ยังได้เดินทางไปเยี่ยมชม โกลเด้น ฮีโร่ มวยไทย หนึ่งในค่ายที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบค่ายมวยไทย ก่อนทำการมอบป้าย Standard Muaythai Gym หรือ SMG ที่รับรองโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เพื่อเป็นการรับรองการผ่านมาตรฐานยิมมวยไทย และมอบให้ยิมมวยไทยในบราซิลอีกนับ 10 แห่ง ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ ที่ได้เผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมไทย
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า "มวยไทย เป็นซอฟต์เพาเวอร์อย่างหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกปลื้มปิติที่เราได้มีกีฬามวยไทยเป็นทรัพย์สมบัติของประเทศ เพราะฉะนั้นการที่เราได้มาร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นสถานฑูต สมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องได้มาส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างถูกต้องในศิลปะการป้องกันตัว ศิลปะมวยไทย นอกจากจะเป็นการส่งเสริมเกี่ยวกับซอฟต์เพาเวอร์ที่เกี่ยวกับมวยไทยให้ก้าวไปสู่ทุกหนแห่ง ยังส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศ ซึ่งการมายังบราซิล ถือเป็นการต่อยอดให้มวยไทยก้าวไกลไปสู่ทั่วโลก บราซิลเป็นประเทศที่ห่างไกลจากประเทศไทย แต่ชื่อเสียงของมวยไทย ได้ดังมาถึงโซนอเมริกาใต้ นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมและยินดี และต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้มวยไทย ต่อยอดเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก"
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา เผยว่า เป็นครั้งแรกที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ที่ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ เป็นประธาน ได้ตัดสินใจว่าเราจะมาที่อเมริกาใต้ ซึ่งบินมากว่า 30 ชั่วโมง เราก็ไม่คิดว่าจะมีผู้ที่นิยมมวยไทยมากขนาดนี้ ซึ่งก็ชื่นใจ เราได้เห็นการตอบรับ คนรักมวยไทยในอเมริกาใต้ และได้คุยกับประธานมวยไทยของบราซิล เขาก็ยินดีที่จะร่วมมือสนับสนุนเราในการทำงานร่วมกัน ภายในงานเราเองก็มี Now Muaythai ซึ่งคือช่องทางลงทะเบียนให้เขานั้นมายังไทย นอกจากนี้เรายังมีเรื่องการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในเรื่องของอุปกรณ์กีฬา ซึ่งวันนี้ของไทยมา 3 เจ้า และในค่ายมวยเราก็จะเห็นอุปกรณ์มวยของไทย ซึ่งมาไกลมาอยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นผลดีสำหรับประเทศไทย"
ด้าน ยอดทนงค์ โพธิ์รัตน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์ เผยว่า คนที่ประเทศบราซิลชื่นชอบในกีฬามวยไทยกันเยอะมาก และที่น่าทึ่งคือพวกเขาเรียนรู้ได้รวดเร็ว ทำให้รู้สึกประทับใจในที่แห่งนี้ การเดินทางมาครั้งนี้ เราตั้งใจมอบทักษะ โดยเฉพาะเรื่องของการยืนมวย และความอ่อนช้อยในการเคลื่อนไหวให้กับพวกเขา เพราะจริงๆ แล้ว คนบราซิลมีพื้นฐานเรื่องของการออกอาวุธที่ดีอยู่แล้ว ขาดเพียงการเสริมสร้างเบสิกในบางส่วนเท่านั้น และตนรู้สึกดีใจที่ชาวบราซิลรู้จักพวกเรา แต่สิ่งที่ทำให้ตนดีใจยิ่งกว่าก็คือการที่พวกเขารักและหลงใหลในกีฬามวยไทยจริงๆ
นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย เปิดเผยว่าการที่ค่ายจะผ่านเกณฑ์มาตรฐานการตรวจสอบนั้นจะต้องมีองค์ประกอบเพื่อการฝึกสอน ไม่ว่าเวที กระสอบทราย หรืออุปกรณ์มวยที่มีจำนวนเพียงพอกับผู้ที่เข้ามาเรียนตามจำนวนในแต่ละรอบ และต้องมีอาณาเขตเหมาะสำหรับการฝึกซ้อม มีสุขลักษณะที่ดี แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่สามารถดำเนินการซ้อมมวย หรือฝึกมวยไทยได้ ประเทศบราซิล แม้จะนิยมยูยิตซู แต่มวยไทย ก็ถือว่าได้รับกระแสนิยม การมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้ถือว่าพอใจเพราะบราซิล เป็นประเทศที่ห่างไทยเกือบครึ่งโลก แต่ก็มีบุคคลากรที่สนใจที่จะเรียนมวยเยอะก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ ซึ่งบรรดาค่ายมวยที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยรับรองทั้ง 10 ค่าย จะมีการติดตามผล หากแต่ละค่ายนักมวยต้องการมาเมืองไทย ก็จะลงทะเบียนและจะติดต่อผ่านเราเพื่อยื่นวีซ่า เพราะทางเรามีกฎหมายออกวีซ่าให้ชั่วคราว 6 เดือน กับ 1 ปี เพราะเวลาซ้อมมวยที่จะต้องได้ใบรับรองจริงๆ จะต้องได้ไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมง ซึ่งนักมวยที่มาเมืองไทย ก็ต้องมีเวลาอยู่เมืองไทยอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ซึ่งก็จะส่งผลทางมูลค่าทางเศรษฐกิจ เพราะเวลานักมวยเหล่านี้มาเมืองไทย ก็จะมากับเพื่อนๆ หรือ ครอบครัว ดังนั้นสิ่งนี้จะส่งผลกับประเทศไทยในหลายๆ ด้าน
ด้านราฟาเอล ลิม่า เจ้าของค่าย โกลเด้น ฮีโร่ มวยไทย ที่เคยมาประเทศไทยถึง 3 ครั้งและเป็นลูกศิษย์ของโอโรโน่ พ.เมืองอุบล เปิดเผยว่า ทางค่ายเปิดมาตั้งแต่ปี 2008 โดยแรงบันดาลใจอยากนำต้นตำรับของมวยไทย นำมาสอนที่บราซิล ไม่ว่าจะเป็นการออกอาวุธ หรือเทคนิคต่างๆ โดยนักเรียนที่มาเรียนมวยไทย จะอยู่ที่ประมาณ 70 คน หรือมากถึง 200 คนที่มีฐานที่มาเรียนกับค่ายนี้ และค่ายของตนนั้นมองว่ามวยไทยสำคัญมากๆ เพราะว่านักกีฬาทุกๆ คนที่อยู่ในบราซิลนั้น เล่น ยูยิตสู หรือว่า MMA ทุกคนนั้นต้องมาเรียนมวยไทย ซึ่งมวยไทยบางค่ายอาจเป็นแบบผสมคิกบ็อกซิ่ง แต่ว่าค่ายแห่งนี้เป็นมวยไทยแบบแท้จริง และนำมวยไทยมาเติบโตในค่ายแห่งนี้ พร้อมให้โอกาสเด็กๆ หลายๆ คนได้มาเรียนรู้ของจริงเนื่องจากค่ายของเขาเป็นค่ายแรกๆ ที่นำมวยไทยมาสอน
สำหรับโครงการ โร้ดโชว์ มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 จะเดินทางไปเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้เดินทางไปฮ่องกง และครั้งนี้ที่บราซิล โดยครั้งต่อไปจะจัดที่เมืองโวคกิ้ง ประเทศอังกฤษ, สกอตแลนด์, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, เยอรมนี, สเปน และ โปรตุเกส