ฯพณฯ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า การแข่งขันทั้ง 4 สนามที่ผ่านมา จัดที่ศูนย์การค้าบลูพอร์ต หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3 สนาม และที่เวทีมวยชั่วคราว ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ.นครราชสีมา 1 สนาม โดยได้รับความสนใจจากแฟนกีฬามวยชาวไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก และยังทำให้คนไทยหันมาสนใจศิลปะมวยไทย และ เอ็มเอ็มเอ มากขึ้นด้วย โดยผู้จัดต้องการให้รายการนี้ช่วยสร้างนักกีฬาไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล และเน้นการจัดไปตามหัวเมืองของการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว จึงได้เลือกจัดสนามที่ 5 ที่สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของเมืองภูเก็ตให้คึกคักมากขึ้น รวมทั้งผลักดันให้ เลเจนด์ เอฟซี เป็น ซอฟท์ พาวเวอร์ ของประเทศ อย่างแท้จริง

ในการจัดที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับอย่างดี ทั้งชมผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง 8 ที่มีคนดูกว่า 5.5 ล้านคน และร่วมชมในบริเวณพื้นที่จัดงานกว่า 1,000 คน สำหรับครั้งนี้จัดที่สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต ในวันเสาร์ที่ 12 พ.ย. นอกจากมวยไทย กับ เอ็มเอ็มเอ แล้ว ยังมีความพิเศษอีกเช่นเคย โดยจะจัดมวยคาดเชือกด้วย เพื่อเผยแพร่มวยคาดเชือกให้ชาวต่างชาติได้รู้จักมากขึ้น แต่ละคู่น่าชมมาก เพราะระดมเอานักกีฬาชื่อดังมาแข่งขัน อาทิ จันทกานต์ มโนบาล หรือ พญาหงส์ อโยธยา ไฟท์ยิม แชมป์เค-วันหญิงคนแรกของไทย เป็นต้น และจะมีการถ่ายทอดสดทางช่อง 8 อีกครั้งตามคำเรียกร้องของแฟนมวย" ประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ กล่าว

ฯพณฯ สุวัจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศึกเลเจนด์ ไฟท์ติ้ง แชมเปี้ยนชิพส์-เลเจนด์ เอฟซี อันดามันดา ภูเก็ต จะมีการแข่งขันทั้งหมด 10 คู่ โดยเริ่มคู่แรกเวลา 18.00 น. ก่อนจะตัดเข้าสู่การถ่ายทอดสดทางช่อง 8 ในเวลา 19.00 น. ต่อเนื่องไปจนจบการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันผ่านช่องทาง YouTube : Legend Champions รวมทั้ง Facebook: Legend Championship และ TRUE ID เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับชมให้มากขึ้นด้วย

ด้าน "วิว" เยาวภา บุรพลชัย โปรโมเตอร์การแข่งขันฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณแฟนกีฬามวยไทยที่ตอบรับการแข่งขันรายการนี้เป็นอย่างมาก ทำให้ตนและทีมงานมีกำลังใจในการจัดการแข่งขันเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ชม รวมทั้งผลักดัน เลเจนด์ เอฟซี เป็น ซอฟท์ พาวเวอร์ ของประเทศ ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก เพราะมุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของกีฬาศิลปะการต่อสู้แห่งหนึ่งของโลก และการแข่งขันทุกคู่ ทั้ง 8 คู่ถือเป็นไฮไลท์ โดยคู่ที่ 1-2 เป็นการแข่งขัน เอ็มเอ็มเอ รุ่น 61.2 กก. ชาย ศิริพงศ์ จำปาคำ (ฮันเตอร์ ยิม) พบกับ โคลตัน คิเอลบาซ่า จากสหรัฐฯ (มาร็อค ยิม) ต่อด้วย รุ่น 66 กก. ชาย ณัฐพงศ์ อ่อนรู้ที่ (เกียรติทรงฤทธิ์) พบกับ จอช โกล์ฟ จากออสเตรเลีย (แอ็บโซลูท เอ็มเอ็มเอ)

คู่ 3-4 เป็นมวยคาดเชือก รุ่น 65 กก. ชาย ทศวรรษ จันทะดวง หรือ ฟ้าลิขิต เดอะเลเจนด์ อารีน่า พบ อเลน ยาอูนี่ จากอาร์เจนติน่า (บางเทา มวยไทย) ต่อด้วยรุ่น 70 กก. ชาย อภิวัตร ยะสุวรรณ หรือ บังรอน ลูกเจ้าพ่อพญาเสือ พบกับ อัมราเน่ อิสคูเน่น จากแอลจีเรีย (ส.สุวรรณรัณย์)

คู่ 5 เอ็มเอ็มเอ รุ่น 52.2 กก. หญิง รัตนาพร หารพันธ์ หรือ ลมมณี เดอะเลเจนด์อารีน่า พบ เจด้า เคทลี่ จากออสเตรเลีย (บางเทา มวยไทย), คู่ 6 มวยคาดเชือก รุ่น 70 กก. ชาย พงศกร ศรีหะจันทร์ หรือ ยอดขุนพล ไทเกอร์มวยไทย (ไทเกอร์มวยไทย) พบ ทัน วิน นี จากเมียนมาร์, คู่ 7 มวยไทย รุ่น 47 กก. หญิง จันทกานต์ มโนบาล หรือ พญาหงส์ อโยธยา ไฟท์ ยิม พบกับ มาการ์เร็ท วาเนก จากสหรัฐฯ (หงส์ทอง มวยไทย)

คู่ที่ 8 มวยคาดเชือก รุ่น 70 กก. ชาย วิภาวัส กล่อมเกลี้ยง หรือ สมิงเดช แฟมิลี่ มวยไทย พบกับ มิเกล ไอลิส จากอาร์เจนตินา, คู่ที่ 9 เอ็มเอ็มเอ รุ่น 61.2 กก. ชาย ปีเตอร์ เดเนโซ (มารอค ยิม) พบกับ เซเยมาดิ ซาเด จากอิหร่าน (แฟมิลี่ มวยไทย) และคู่สุดท้าย เอ็มเอ็มเอ รุ่น 63 กก. ชาย ธีระพงศ์ ไชยแก้ว หรือ ขุนชาญ ไทเกอร์ มวยไทย พบกับ มาจิด โมฮีบี จากอิหร่าน (แฟมิลี่ มวยไทย)