ดร.สุปราณี ออกมาเผยว่า การแข่งขันรายการนี้จะนำมวยไทย ซึ่งเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศไทยในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทยกับคาซัคสถาน ในโอกาสความสัมพันธ์ทางการทูตเดินหน้ามาครบ 30 ปีแล้ว รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวของไทย เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้

ด้านนายทนุเกียรติ กล่าวว่า รัฐบาลไทยมีนโยบายในการให้มวยไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศอย่างกว้างขวาง เพื่อดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาประเทศไทยให้มากขึ้น ประจวบเหมาะกับการที่คาซัคสถาน เชิญให้ไทยไปร่วมฉลองความสัมพันธ์ครบ 30 ปี ซึ่งครั้งนี้จะแข่งขันด้วยมาตรฐานที่สูงในทุกๆด้าน และถ้าการแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ในปีหน้าก็จะทำโร้ดโชว์ไปทุกๆทวีป เพื่อแสดงศักยภาพของมวยไทย และเชิญชวนให้คนที่ชื่นชอบมาเรียนรู้ที่ไทย และการแข่งขันกีฬามวยไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจะเกิดขึ้นที่ประเทศไทยในอนาคต

ขณะที่นายสมชาติ เผยว่า ได้มีการประสานว่าจะมีการแข่งขันรายการนี้ ระหว่างวันที่ 10-11 ก.ย.65 ที่ประเทศคาซัคสถาน ได้มีการเตรียมนักชกไทยตามมาตรฐานและขอนุญาตอย่างถูกต้องทุกอย่าง มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เป็นตัวอย่างที่ดีของคนในวงการมวยถ้าจะเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ ก็จะต้องผ่านมาตรฐานแบบครั้งนี้

ส่วน ดร.ศักดิ์ชาย เผยว่า  คาซัคสถานเป็นประเทศที่มีนักมวยฝีมือดีมากมาย การเอามวยไทยเข้าไปคาซัคสถานจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการผลักกดันมวยไทยบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตด้วย ซึ่งในการชกครั้งนี้ ทัพนักกีฬามวยไทยจะออกเดินทางไปยังประเทศคาซัคสถาน ในช่วงบ่ายวันที่ 9 ก.ย.65 

สำหรับคู่มวยมีทั้งหมด 7 คู่ โดยเป็นการขึ้นชกกันระหว่างนักชกไทยกับคาซัคสถาน ซึ่งคู่เอกเป็นการพบกันของ ยอดกฤษดา ยุทธชลบุรี กับ เพชรสุขุมวิท บอยบางนา ส่วนคู่อื่นๆ มีดังนี้ เจ้าพระยา เพชร ปตอ. พบ เยอร์นัต สมากูลอฟ, นารูโตะ เสถียรมวยไทยยิม พบ อาบิล กาลิเยฟ, เพชรโชคชัย ลูกเจ้าพระยา พบ ชามิล เยอร์มากัมเบตอฟ, ฟ้าประจักษ์ เหลี่ยมธนวัฒน์ พบ ซาบิเน็ก คานัตบาเยฟ, นำโชค ลูกเจ้าแม่ไทรทอง พบ รุสลาน ซายากิ้น และพิทักชัย ส.กิตติชัย พบ อเล็กซานเดอร์ ซาริคอฟ