บทสรุป Dustman การแข่งขันจักรยาน Gravel ที่มีชีวิตที่สุดในเอเชีย

บทสรุป Dustman การแข่งขันจักรยาน Gravel ที่มีชีวิตที่สุดในเอเชีย
เมื่อนักปั่นกราเวลจาก 29 ประเทศกว่า 300 คน เดินทางมารวมตัวกันที่อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมสร้างเส้นทางแห่งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน

จากการแข่งขันปั่นจักรยานกราเวลที่หลายคนคิดว่าจะเป็นแค่การปั่นจักรยานทางกรวดธรรมดา กลับกลายเป็นมหากาพย์ของการปั่นกราเวลสุดโหดและท้าทายที่สุด ที่มีทั้งยกจักรยานข้ามน้ำ ปั่นบนทางดิน ที่บางช่วงกลายเป็นโคลน ผ่านถนนคอนกรีตแตกๆ ในชนบท และทางหลวงลาดยาง ผสมผสานกันอย่างครบเครื่อง สร้างความสนุก สุดมันส์ ได้ทุกอารมณ์  ตื่นเต้น เร้าใจ สะใจ ดีใจที่ปั่นได้จนจบ และเสียใจที่พลาดโอกาสในการเข้าเส้นชัย (DNF) 

Dustman คือหนึ่งในสนามการแข่งขันกราเวลในระดับสากลที่จะต้องถูกจารึก และอยู่ในความทรงจำของนักปั่นที่มาร่วมงานนี้ไปตลอดกาล

เปิดประตูปราสาทเมืองสิงห์ กาญจนบุรี สู่สายตานักปั่นกราเวลทั่วโลก


วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ ปราสาทเมืองสิงห์ อุทยานประวัติศาสตร์ศิลปะขอม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการจัดการแข่งขันจักรยานกราเวลระดับโลก “UCI Gravel World Series Kanchanaburi – Dustman Gravel Journey” ซึ่งถือเป็นการแข่งขันจักรยานกราเวลอย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้มาตรฐานของ UCI (Union Cycliste Internationale) (สหพันธ์จักรยานนานาชาติ) 

โดยนักกีฬาที่ร่วมแข่งขัน แล้วทำเวลาอยู่ในอันดับ 25% แรกของแต่ละรุ่น (แบ่งตามเพศและอายุ) จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกในรายการ UCI Gravel World Championships ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2026

Bike Zone Events (BZE) ก้าวสู่ผู้จัดกราเวลระดับสากล

ผู้จัดการแข่งขัน Dustman UCI Gravel World Series คือ Bike Zone Event (BZE) เตรียมงานกันล่วงหน้าหลายเดือน ทั้งวางแผนสำรวจเส้นทาง รูปแบบการจัดงาน กฎกติกา รูปแบบการแข่งขัน ติดต่อหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการจัดการอำนวยความสะดวก และการดูแลความปลอดภัยของนักแข่งที่มาจาก 29 ประเทศ รวมถึงมีรถโค้ชรับ-ส่ง จากสนามบินจนถึงโรงแรมที่พัก

ก่อนวันแข่งขัน ทางผู้จัด Bike Zone Events ได้จัดกิจกรรมปั่นจักรยานเที่ยวชมเมืองกาญจน์ และสถานที่ประวัติศาสตร์สำคัญ เช่น สะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่หลายคนรู้จักเพียงแค่ชื่อ แต่ครั้งนี้คือการได้ชมของจริงที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยปั่นเลียบเลาะริมน้ำแควน้อย ชมบรรยากาศสองข้างทางที่งดงามกันอย่างใกล้ชิด

ลงสนามจริง Dustman เส้นทาง: ดิน กรวด โคลน และความท้าทาย


การแข่งขันแบ่งเป็น 2 ระยะ ที่จะเป็นบททดสอบที่ทั้งโหดและงดงาม ผ่านแนวป่าเขา โค้งลึก ลำธาร และทางฝุ่นริมแม่น้ำแคว นักปั่นต้องหาจังหวะ ผ่อนแรง และเลือกไลน์ให้แม่นยำในแต่ละโค้ง

    130 กิโลเมตร (สำหรับนักกีฬา Elite และ บุคคลทั่วไป แบ่งกลุ่มตามอายุ ชายอายุ 19-59 ปี และหญิง 19-49 ปี) 

    90 กิโลเมตร (สำหรับบุคคลทั่วไป แบ่งกลุ่มตามอายุ ชายอายุตั้งแต่ 19-59 ปี และหญิง 19-49 ปี และกลุ่มชาย 60 ปีขึ้นไป และหญิง 50 ปีขึ้นไป) 

รุ่งเช้าของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 นักปั่นทุกคนรวมตัวกันที่จุดสตาร์ทท่ามกลางบรรยากาศชุ่มฉ่ำหลังฝนตกหนักตลอดวันก่อนหน้า ด้วยบรรยากาศที่สดชื่น ต้นไม้ใบหญ้าเริงร่า พื้นดินชุ่มน้ำไปทั้งบริเวณหน้าเส้นสตาร์ท แต่บรรดานักปั่นทั้งทั้งหมดก็ไม่มีใครยอมถอยในการลงสู้ศึกในครั้งนี้

เวลา 7.00 น. คือเวลาที่ล้อหมุน เสียงดุมล้อและเสียงเชียร์จากครอบครัวนักปั่นและผู้ชมรอบข้างได้ดังขึ้น ส่งสัญญาณว่าการแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! นักปั่นทั้งหมดออกตัวไปพร้อมๆ ท่ามกลางละอองน้ำและดินโคลนที่สาดกระจายตั้งแต่ยังไม่พ้นจุดสตาร์ท

เพียงเวลาไม่นานนัก เหล่านักกีฬาระดับ Elite ที่เกาะกลุ่มรวมกันมาราวๆ 15 คน ได้ทยอยปั่นผ่านจุดให้น้ำที่ 1 (Water Station) โดยที่ไม่มีใครแวะรับน้ำ หรือเกลือแร่ และเจลให้พลังงาน ที่ผู้จัดเตรียมไว้เลย 

ส่วนนักกีฬาในรุ่นอื่นๆ ทยอยผ่านจุดให้น้ำทั้ง 6 จุด ด้วยสภาพที่เรียกได้ว่ามอมแมมไปด้วยดินโคลน แต่แววตาตายังคงแช่มชื่น น้ำเสียงยังสดใส ทักทายการเด็กๆ และทีมงานที่คอยต้อนรับตลอดเส้นทาง

ด้วยความที่ 2 วันก่อนการแข่งขัน สายฝนได้กระหน่ำลงมา 2 วันติด ทำให้บางช่วงเส้นทางขาด มีสายน้ำตัดผ่าน ไม่สามารถปั่นจักรยานข้ามได้ ทีมงานจึงต้องมีการโยงเชือกเพื่อให้นักกีฬาแบกจักรยานแล้วเดินข้ามไป เป็นบรรยากาศที่ตื่นเต้นเร้าใจ จากธรรมชาติสร้างสรรค์

ด้วยความการปั่นจักรยานกราเวล คือการปั่นบนเส้นทางธรรมชาติ ท่ามกลางป่าไม้ เส้นทางชนบท และนี่คือส่วนเติมเต็มให้กับความท้าทายของนักปั่นทุกคน กลายเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงไหล

มีนักปั่นหลายคนที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมา เพื่อร่วมลงแข่งในรายการ Dustman นี้ แต่ก็มีบางคนต้องพ่ายแพ้โชคชะตา เกิดเหตุสุดวิสัย แม้จะเตรียมการมาดี แต่ก็มีหลายคนที่ ซี่ลวดขาด ตีนผีหัก ยางแตก อุปกรณ์ชำรุด ฯลฯ  ทำให้ต้อง DNF ออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มั่นหมายว่าปีหน้าจะกลับมาแก้มือใหม่

หลังจบการแข่งขัน ผู้ชนะในรุ่น Elite ชาย  130 กิโลเมตร อันดับหนึ่ง คือ Toki Sawada จากญี่ปุ่น ใช้เวลาไป 4:07:51 ชั่วโมง ส่วน Tobias Kongstad จากเดนมาร์ก มาเป็นอันดับสอง ใช้เวลาไป 4:11:09 ชั่วโมง ตามหลังแค่ 3 นาทีเท่านั้น ส่วนรุ่น Elite หญิง 130 กิโลเมตร อันดับหนึ่งคือ Caroline Livesey จากสหราชอาณาจักร คว้าชัยไปได้ด้วยเวลา 4:50:31 ชั่วโมง 

สำหรับผลการแข่งขันทั้งหมด สามารถดูได้ที่เว็บไซด์ Bike Zone Events

https://bikezone.events/th/raceresultsdustmanth/

ประสบการณ์และความประทับใจ จาก Dustman


นักปั่นหลายคนพูดตรงกันว่า “นี่ไม่ใช่แค่สนามแข่ง แต่มันคือการผจญภัย และนี่คือการต่อสู้ภายในใจของตัวเอง ระหว่างทางคือประสบการณ์ ที่ได้ปั่นผ่านทุ่งนา ป่าเขา สะพานไม้เก่า และหยุดพักที่คาเฟ่เล็ก ๆ กลางหมู่บ้าน 

Michael Mclain นักปั่นจากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า “จากสภาพเส้นทาง ถือว่าเป็นเส้นทางแข่งกราเวลที่ยาก แต่ผมก็ตั้งใจจะปั่นให้จบ และอยากทำเวลาให้ดีที่สุด หลายครั้งที่ผมต้องลงมาเข็นจักรยานเพราะตะคริวขึ้น จะว่าไปเส้นทางการแข่งขันนี้ผมชอบนะ ซึ่งนี่เป็นการมาประเทศไทยครั้งแรกของผมด้วย และแน่นอนผมอยากกลับมาอีกใหม่ใน Dustman ปีหน้า”

Dustman คือสนามที่ไม่ได้วัดแค่ความเร็ว แต่คือบทเรียนที่ต้องยอมรับกับธรรมชาติ ทางที่ลื่นจนต้องลงเข็น เจอฝน เจอแดด สัมผัสกับลมหายใจของธรรมชาติที่แท้จริง ความโหด ความยากลำบาก กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักปั่นจากทั่วโลกพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ประเทศไทยคือสนาม Gravel ที่มีชีวิตที่สุดในเอเชีย” และเมื่อถึงเส้นชัย คุณจะไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป

ติดตามข่าวสาร เรื่องราว ของจักรยานกราเวล และกิจกรรมการปั่นอื่นๆ ได้ที่

https://www.facebook.com/bikezoneevents และ https://bikezone.events










ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport