"พีระพล ชาวเชียงขวาง" นักปั่นทีมชาติไทย ฟอร์มยังร้อนแรง ยึดผู้นำอันดับ "เบสต์เอเชีย" หลังจบสเตจ 3 ศึกจักรยานทางไกล ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ "ธนาคาร ไชยยาสมบัติ" โชว์หัวใจนักสู้ หลังลื่นล้มกลางทางแต่ยังลุกขึ้นมาปั่นต่อ คว้าอันดับ 3 เจ้าภูเขา พร้อมขยับขึ้นอันดับ 9 เวลารวม ด้านเวลารวมประเภททีม "ทีมชาติไทย" ยังครองจ่าฝูงทีมเอเชียอย่างเหนียวแน่น
ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักกีฬาจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไปแข่งขันจักรยานทางไกล "ทัวร์ เดอ บันยูวังกี อีเจน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันสเตจที่ 3 เส้นทางจากเมืองเกล็นมอร์ไปยังเมืองบันยูวังกี ระยะทาง140.3 กิโลเมตร เป็นเส้นที่ค่อนข้างโหดเพราะต้องปั่นขึ้นเขาระยะทางเกือบ 13 กิโลเมตร และลงเขาอีก 20 กิโลเมตร
การแข่งขันสเตจที่ 3 นี้ นักกีฬาต้องปั่นท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาค่อนข้างหนักทำให้ถนนลื่น โดยกลุ่มนำมี "มะตูม" พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง, "วุฒิ" ส.ท.สราวุฒิ สิริรณชัย และ "เฟรม" ส.ท.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ เกาะอยู่ในกลุ่มพร้อมกับ 3 นักปั่นทีม SWATT CLUB เป็นระดับโปรทัวร์จากอิตาลี ช่วงปั่นลงเขาธนาคารเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มแต่สวมหัวใจนักสู้ลุกขึ้นมาปั่นต่อจนไล่ตามเข้ากลุ่มทัน และเข้าเส้นชัยพร้อมกับพีระพล, สราวุฒิ และนักปั่นคนอื่น ๆ ขณะที่ นายจูดาห์ ทอมป์สัน ช่วยในการลากเพื่อนรวมทีมขึ้นมาส่ง และ "ดอย" ร.ต.อ.นวุติ ลี้พงษ์อยู่ จะเป็นตัวรับน้ำให้เพื่อน ๆ ทุกคน ภาพรวมถือว่านักปั่นไทยทำอผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
ผลการแข่งขันในสเตจนี้ ปรากฎว่า 3 นักปั่นไทยเข้าเส้นชัยพร้อมกลุ่มใหญ่โดย สราวุฒิ ได้อันดับ 11, ธนาคาร ได้อันดับ 14 และพีระพล ได้อันดับ 17 เวลา 3.13.10 ชั่วโมง ส่วนแชมป์สเตจที่ 3 เป็นของ คาร์เตอร์ แบทเทลส์ นักปั่นชาวออสเตรเลียจากทีม ROOJAI INSURANCE ที่เข้าเส้นชัยพร้อมกับ นิโคโล เพ็ตติติ นักปั่นจากทีม SWATT CLUB ที่ได้อันดับ 2 และ ลูคัส เดอ รอสซี่ นักปั่นฝรั่งเศสจากทีม CHINA ANTA-MENTECH ของจีน ด้วยเวลา 3.13.07 ชั่วโมงเท่ากัน
"มะตูม" พีระพล ยังรั้งอันดับ 1 นักปั่นเอเชีย หรือ "เบสต์เอเชีย" ต่อไปด้วยเวลารวม 9.38.12 ชั่วโมง หากการแข่งขันสเตจสุดท้ายสามารถเข้าเส้นชัยพร้อมกลุ่มนำจะผงาดคว้าแชมป์เอเชียทันที
ด้านผู้นำเวลารวมยังเป็น เจอโรน ไมเยอร์ส ด้วยเวลา 3.37.54 ชั่วโมง ได้ครอง "เสื้อเหลือง" ต่อไป ขณะที่ ธนาคาร ได้อันดับ 3 เจ้าภูเขา ส่งผลให้เวลารวมขยับขึ้นมาจากอันดับ 10 มาอยู่อันดับที่ 9 เวลา 9.38.49 ชั่วโมง สำหรับเวลารวมประเภททีม ทีมชาติไทยยังรั้งอันดับที่ 2 ด้วยเวลารวม 28.58.26 ชั่วโมง แต่เป็นทีมอันดับ 1 ของเอเชีย ส่วนทีมนำเวลารวมเป็นของทีม SWATT CLUB จากอิตาลี เวลา 28.54.39 ชั่วโมง
สำหรับการแข่งขันเสตจที่ 4 เป็นสเตจสุดท้าย เส้นทางจากเมืองมารอน เก็นเต็งไปยังเมืองอีเจน ระยะทาง 150 กิโลเมตร ต้องปั่นขึ้นภูเขาสูงถือว่านับเป็นเส้นทางที่โหดที่สุดของการแข่งขัน