โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์ ปิดเกมนัดชิง NBA 2025 ด้วยชัยชนะเหนือ อินเดียน่า เพเซอร์ส 103-91 เกม 7 ซิวแชมป์สมัยที่ 2 ต่อจากปี 1979 “เช กิลเกียส อเล็กซานเดอร์” ทำ 29 แต้ม 12 แอสซิสต์ พาทีมยิ่งใหญ่
เช กิลเกียส อเล็กซานเดอร์ ทำ 29 คะแนน กับ 12 แอสซิสต์ ช่วยให้ โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ ถล่ม อินเดียน่า เพเซอร์ส 103-91 คะแนน ทำให้ ธันเดอร์ ชนะไป 4-3 เกม คว้าแชมป์ เอ็นบีเอ ไปครองเป็นสมัยที่สอง
ควอเตอร์ที่หนึ่ง การแข่งขันเป็นไปอย่างสูสี เสมอกันอยู่ 16-16 คะแนน เมื่อเหลือเวลาอีก 5.36 นาที ก่อนที่ โอคลาโฮม่า ซิตี้ จะทำแต้มออกนำ 25-22 คะแนน เมื่อเข้าสู่ ควอเตอร์ที่สอง หลังจากนั้น เกมยังสูสี ก่อนที่ แอนดรูว์ เนมบาร์ด จะชู้ตไกลสามแต้ม ระยะ 25 ฟุต ช่วยให้ อินเดียน่า พลิกกลับมานำ 48-47 คะแนน เมื่อจบครึ่งแรก โดยชู้ตลูกลงห่วง 42.1 เปอร์เซนต์ หรือ 16 จาก 38 ครั้ง ส่วน เจ้าบ้าน ชู้ตลูกลงแค่ 40.5 เปอร์เซนต์ หรือ 17 จาก 42 ครั้ง
ครึ่งหลัง โอคลาโฮม่า เร่งเครื่อง ใน ควอเตอร์ที่สาม แซงกลับมานำ 81-68 เมื่อเข้าสู่ควอเตอร์สุดท้าย ก่อนชนะไป 103-91 คะแนน ทำให้ชนะไป 4-3 เกม
เช ซิว เอ็มวีพี รอบชิง
เช กิลเกียส อเล็กซานเดอร์ ฟอร์เวิร์ด วัย 26 ปี ของ โอคลาโฮม่า ซิตี้ ธันเดอร์ คว้า เอ็มวีพี รอบชิง เอ็นบีเอ หลังทำ 29 แต้มกับ 12 รีบาวด์ ช่วยให้ ธันเดอร์ เอาชนะ อินเดียน่า เพเซอร์ส ในเกมที่ 7
คว้าแชมป์ เอ็นบีเอ เป็นสมัยที่สอง
เช ที่ทำเฉลี่ย 34.2 แต้มต่อเกมในรอบชิงชนะเลิศ ยังเป็นผู้เล่นคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้ เอ็มวีพี ในฤดูกาลปกติ และรอบชิงชนะเลิศ ในปีเดียวกัน
สำหรับ ธันเดอร์ คว้าแชมป์ครั้งที่สอง ในประวัติศาสตร์สโมสร ต่อจากปี 1979 ซึ่งตอนนั้น พวกเขา ยังเล่นใน ซีแอตเทิ่ล และใช้ชื่อทีมว่า ซีแอตเทิ่ล ซูเปอร์โซนิกส์ โดยชนะ วอชิงตัน บุลเลตส์ 4-1 เกม
ทำเนียบแชมป์ ในรอบ 10 ปีหลังสุด