ทีมชูตยู-16 ไทย ลัดฟ้าสู่ประเทศฟิลิปปินส์ เตรียมทำศึก "ฟีบ้า ยู-16 เอเชีย คัพ ซีบ้า ควอลิฟาย 2025" ระหว่างวันที่ 24-30 พ.ค.นี้ โดยทีมไทยมีโปรแกรมเก็บตัวและอุ่นเครื่อง 2 แมตช์ที่ฟิลิปปินส์ ก่อนลงสู้ศึกจริง ซึ่งรอบนี้จะคัดตัวแทนจากอาเซียนที่ดีที่สุด 3 ทีมไปเล่นรอบสุดท้าย ของศึกเอเชีย ที่มองโกเลีย ต่อไปในช่วงเดือน ก.ย.นี้
สมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ทำการเรียกตัวนักบาสเกตบอลเยาวชนชายรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี มาทำการเก็บตัวฝึกซ้อมและคัดเลือกตัวจำนวน 21 คน เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน "ฟีบ้า ยู-16 เอเชีย คัพ ซีบ้า ควอลิฟาย 2025" ระหว่างวันที่ 24-30 พ.ค.68 โดยล่าสุดนักกีฬาได้ถูกคัดให้เหลือ 18 คนและสตาฟโค้ชทั้งหมดได้ออกเดินทางไปยังเมืองปัมปังกา ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
"เฮียต่าย" นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ความสำคัญของรายการนี้ คือการเดินทางไปคัดเลือกรอบอาเซียนซึ่งเป็นการคัดเลือกทีมจาก Zone SEABA จำนวน 3 ทีม ไปแข่งขันรายการ FIBA U16 ASIA Cup 2025 ที่ประเทศมองโกเลีย ระหว่างวันที่ 31 ส.ค. - 7 ก.ย.2568 โดยจะคัดเลือก 4 ทีมที่ดีที่สุดจากเอเซียไปแข่งขัน ฟีบ้า ยู-17 เวิลด์คัพ 2026 ต่อไป
"เฮียต่าย" เผยอีกว่า อย่างไรก็ดีในเวลานี้ทางสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากจะพัฒนานักกีฬาเด็กๆ ของประเทศ เข้ามาช่วยสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ พร้อมจัดให้เด็กนักกีฬาได้ไปเก็บตัวล่วงหน้าก่อนการแข่งขันถึง 10 วัน จากที่ปกติจะไม่ค่อยได้ทำเช่นนี้ โดยการทำเช่นนี้จะเป็นการเลี่ยงความไม่พร้อมของนักกีฬาทั้งจากปัญหาความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง การลงสนามนอกประเทศและการลงสนามพบกับทีมต่างชาติเป็นครั้งแรกของนักกีฬาบางคน ทำให้แสดงศักยภาพออกมาได้ไม่เต็มที่
"นอกจากนี้ทางผู้สนับสนุนได้ช่วยสนับสนุนเพิ่มโปรแกรมการเก็บตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ก่อนลงแข่งขันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อซ้อมและอุ่นเครื่องกับทีมต่างชาติ 2 เกม แล้วจึงคัดเลือกนักกีฬาจาก 18 คนเหลือ 12 คนสุดท้าย เพื่อให้ได้นักกีฬาในทีมที่มีความพร้อมและสามารถลงแข่งขันได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่มีความกดดันมากขึ้นอีกด้วย"
ประมุขยัดห่วง ยังกล่าวต่ออีกว่า ทีมเยาวชนตัวแทนประเทศไทยชุดนี้เป็นการผสมผสานจาก 3 ชุด 1 คือมาจากเด็กของอะคาเดมี่ที่มีความแข็งแกร่งระดับประเทศซึ่งเป็นทีมชั้นนำขาประจำ อาทิ ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี, ร.ร.กรุงเทพคริสเตียน และ ร.ร.จากนนทบุรี, 2 เยาวชนที่มาจากโรงเรียนทางภาคอีสานและโรงเรียนนานาชาติทั่วประเทศไทย และ 3 นักกีฬาลูกครึ่งจากต่างประเทศ ซึ่งในกลุ่มนี้จะเป็นผลผลิตสำคัญที่เด็กส่วนใหญ่จะอายุเพียง 15-16 ปี แต่สูงเกือบ 2 เมตร หลักๆ จะเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ โดยกลุ่มนี้จะตัดปัญหาเรื่องนักกีฬาลูกครึ่งเหมือนเคสของ เฟรดดี้ ลิช, ไทเลอร์ แลมบ์ หรือ โมเซส มอร์แกน 3 ตัวหลักทีมชาติชุดใหญ่ที่ต้องมาอยู่ไทยถึง 10 ปี ก่อนจะได้เปลี่ยนนสถานะเป็นผู้เล่นไทยแต่เด็กเหล่านี้มาเล่นให้กับทีมชาติตั้งแต่เยาวชน ซึ่งเด็กทั้ง 3 กลุ่มนี้จะมารวมกับนักกีฬาที่ได้รับการคัดเลือกจากสมาคมฯ ในรายการชิงแชมป์ประเทศไทยล่าสุด โดยเฮดโค้ชของทีมแชมป์อัสสัมชัญธนบุรีจะได้สิทธิ์เป็นเฮ้ดโค้ชของทีมยู-16 ไทยชุดนี้ด้วย
"เราหวังผลสำหรับการเดินทางไปแข่งให้ประเทศครั้งนี้ แต่ต้องยอมรับว่าฟิลิปปินส์เจ้าภาพและอินโดนีเซียแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีทางสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนผู้ใหญ่ใจดีจริงๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือเยาวชนไทยอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ เลย ให้งบประมาณแต่ไม่ได้ก้าวล่วงสมาคมฯ ในเรื่องของการคัดตัวเด็กเลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากนี้เราคงจะใช้แพทเทิร์นในการเก็บตัวล่วงหน้าเช่นนี้ไปตลอด ฝากแฟนๆบาสฯ ทุกท่านติดตามผลงานการแข่งขันและการถ่ายทอดสดซึ่งเฟซบุ๊คเพจสมาคมฯ จะแจ้งความคืบหน้าและลิงค์การถ่ายทอดให้เห็นอีกครั้ง ผมเชื่อว่า 4-5 ปีหลังจากนี้จะได้เห็นกลุ่มนักกีฬากลุ่มนี้ขึ้นสู่ชุดใหญ่ทีมชาติไทยแน่นอน" เฮียต่าย กล่าว
สำหรับรายชื่อนักกีฬา 21 คนเรียกได้รับประกาศเข้าร่วมคัดเลือกมีดังนี้ 1. ประภัสสร อนันสุทธิพจน์ (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 2. สุทธิพงศ์ บุตรนุช (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 3. อภิราช เพียราช (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 4. กิติพัฒน์ เพียราช (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 5. ภูริพันธ์ ไกรนราวรพัฒน์ (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 6. ประภากร อนันสุทธิพจน์ (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 7. ณัฏฐชัย กอแก้วกุลพัฒน์ (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 8. อนันดา เยเกอร์ (ร.ร.อัสสัมชัญธนบุรี), 9. ธนัท รัตนคช (ร.ร.นนทบุรีวิทยาลัย), 10. นิรันดร์ เต่จ๊ะ (ร.ร.นนทบุรีวิทยาลัย)
11. ศศิพงษ์ มณีวรรณ (ร.ร.นนทบุรีวิทยาลัย), 12. ถิรคุณ แถมเงิน (ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย), 13. รอนนี่ ออลช็อพพ์ (ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย), 14. ชวัลวิทย์ ตรีเกษม (ร.ร.เทพศิรินทร์), 15. จักรพงษ์ ทองเจริญ (ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย), 16. สกลวัฒน์ ลุนทา (ร.ร.นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย), 17. นิรันดร ฉุนกระโทก (ร.ร.มารีย์วิทยากบินทร์บุรี), 18. พีระกานต์ วิไลโรจน์ (ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์ นนทบุรี), 19. หฤษฎ์ ทะวะลี (ร.ร.เบญจมราชานุสรณ์ นนทบุรี), 20. โลเรนโซ ราวัซซีนี (Saint John Mary International School) และ 21. อเล็กซานเดอร์ จูเนีย เดวิด (ร.ร.กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย)