ศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2025 ที่ปารีส 25-31 ส.ค. "วิว กุลวุฒิ" ลุ้นป้องกันแชมป์ชายเดี่ยว ขณะที่ "เมย์ รัชนก" และ "หมิว พรปวีณ์" นำทัพหญิงเดี่ยว 4 คน, คู่ผสม "บาส-เฟม" มีลุ้นเหรียญ
ถึงเวลาที่แฟนกีฬาไทยต้องไม่พลาด! แบดมินตันชิงแชมป์โลก (BWF World Championships 2025) ที่กรุงปารีสกำลังจะระเบิดศึกขึ้นแล้ว 'วิว' กุลวุฒิ จะสามารถป้องกันแชมป์โลกได้หรือไม่? แล้ว 4 สาวไทยจะคว้าเหรียญรางวัลในประเภทหญิงเดี่ยวได้หรือเปล่า? ร่วมกันเจาะลึกโอกาสของนักกีฬาไทยในทุกประเภท ก่อนการแข่งขันจริงจะเริ่มต้นขึ้น
ศึกใหญ่ที่แฟนกีฬาชาวไทยรอคอยใกล้เข้ามาแล้ว กับการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่อย่าง บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ หรือศึกแชมป์โลก 2025 (BWF World Championships 2025) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 25-31 สิงหาคมนี้ ทัพนักแบดมินตันไทยพร้อมลุยอย่างเต็มที่ด้วยจำนวนนักกีฬาถึง 15 คนใน 5 ประเภท และเมื่อผลการจับสลากรอบแรกออกมา ยิ่งทำให้เห็นภาพรวมของเส้นทางที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
ชายเดี่ยว: “วิว” กุลวุฒิ กับภารกิจป้องกันแชมป์ที่ไม่ง่าย
ความหวังสูงสุดของไทยคงหนีไม่พ้น “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 3 ของโลก และแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว เส้นทางของวิวเริ่มต้นด้วยการพบกับ ยูเรียล ฟรานซิสโก แคนจูรา จากเอลซัลวาดอร์ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่ไม่ได้อยู่ในระดับที่สร้างความหนักใจมากนักในรอบแรก
แต่จากนี้ไปจนถึงรอบลึกๆ วิวต้องเตรียมพร้อมรับมือกับคู่แข่งระดับท็อปของโลกอย่างแอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น หรือโคได นาราโอกะ ที่อาจต้องเจอกันในรอบ 8 คนสุดท้าย หรือรอบรองชนะเลิศ
การป้องกันแชมป์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนจะจับตามองเขาเป็นพิเศษ และต่างก็ต้องการโค่นแชมป์ให้ได้ หากวิวสามารถรักษาระดับฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและเฉียบคมเหมือนตอนคว้าแชมป์โลกได้ โอกาสที่จะเข้าถึงรอบลึกๆ และลุ้นแชมป์อีกครั้งก็มีสูง
สำหรับ “กัน” กันตภณ หวังเจริญ ที่ต้องพบกับ อเล็กซ์ ลานิเยร์ มืออันดับ 7 ของโลกจากฝรั่งเศส ถือเป็นงานหนักตั้งแต่ต้น แต่ก็เป็นโอกาสดีที่กันจะได้พิสูจน์ตัวเอง หากผ่านรอบนี้ไปได้จะเป็นการเรียกความมั่นใจและอาจสร้างเซอร์ไพรส์ในทัวร์นาเมนต์นี้ก็เป็นได้
หญิงเดี่ยว: 4 สาวไทยพร้อมลุยสู่โพเดียม
ในประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ อดีตแชมป์โลกปี 2013 และมืออันดับ 10 ของโลก มีประสบการณ์สูงและกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเจอกับ เหงียน ทุยลินห์ จากเวียดนามในรอบแรกเป็นบททดสอบที่น่าสนใจ หากผ่านไปได้ เส้นทางของเมย์จะน่าจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วน “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก ที่เจอกับ จัสลิน ฮอย หยู หยาน จากสิงคโปร์ ก็ถือเป็นงานที่ไม่น่ากังวลนักในรอบแรกเช่นกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้หมิวสามารถเดินหน้าสร้างผลงานที่ดีต่อไปได้
ขณะที่ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 18 ของโลก และ “เม” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 11 ของโลก ต่างก็มีเส้นทางที่น่าสนใจเช่นกัน การมีนักกีฬาหญิงเดี่ยวไทยถึง 4 คนเข้าร่วมการแข่งขัน ทำให้เรามีโอกาสลุ้นในประเภทนี้มากขึ้น เพราะถ้าฟอร์มดีพร้อมกัน ก็มีสิทธิ์ที่จะมีนักกีฬาไทยถึง 2 คนผ่านเข้าสู่รอบลึกๆ ได้
คู่ผสม : 2 คู่ไทยได้พัก พร้อมเดินหน้าลุ้นเหรียญ
ประเภทคู่ผสมเป็นอีกหนึ่งความหวังของไทย โดยเฉพาะคู่ของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 3 ของโลก ที่ได้บายในรอบแรก ทำให้มีเวลาพักและเตรียมตัวสำหรับรอบต่อไป ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก
เช่นเดียวกับคู่ของ “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ มืออันดับ 15 ของโลก ที่ได้บายในรอบแรกเช่นกัน ทำให้โอกาสในการเข้ารอบต่อไปของทั้งสองคู่เป็นไปได้สูงมาก โดยคู่ของ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ ที่ต้องพบกับคู่เจ้าภาพอย่าง จูเลียน ไมโอ และ เลอาร์ ปาแลร์โม่ ก็เป็นอีกคู่ที่น่าติดตาม หากสามารถผ่านคู่แข่งได้ก็จะสร้างขวัญกำลังใจที่ดีในการแข่งขัน
หญิงคู่และชายคู่: บทพิสูจน์ฝีมือสู่ระดับโลก
ในประเภทหญิงคู่ “เกน” ลักษิกา กัณละหะ กับ “จ๋อมแจ๋ม” ผไทมาส เหมือนวงศ์ คู่มืออันดับ 41 ของโลก ต้องพบกับ กรอนย่า ซอเมอร์วิลล์ และ แองเจล่า หยู จากออสเตรเลีย ซึ่งเป็นคู่ที่แข็งแกร่งกว่าในอันดับโลก แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่คู่ของไทยจะได้พิสูจน์ฝีมือและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง แต่เป็นที่เสียดายสำหรับแฟนแบดมินตันไทยโดยคู่พี่น้องอย่าง "อันนา" นันทน์กาญจน์ กับ "มูนา" เบญญาภา เอี่ยมสอาด ถอนตัวออกจากการแข่งขัน โดยคนพี่อย่าง อันนา นันทน์กาญจน์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ส่วนในประเภทชายคู่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 12 ของโลก ได้บายในรอบแรก ทำให้มีเวลาเตรียมตัวอย่างเต็มที่เพื่อลงแข่งในรอบต่อไป ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญ ส่วน “พี” พีรัชชัย สุขพันธุ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล ที่ต้องเจอกับ เฉิน ซี่ยี่ และ เพรสลี่ย์ สมิธ จากสหรัฐฯ ก็เป็นอีกคู่ที่ต้องใช้ความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เพื่อคว้าชัยชนะ
โดยรวมแล้ว ทัพนักแบดมินตันไทยมีโอกาสที่ดีในการสร้างผลงานในศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้ โดยเฉพาะในประเภทชายเดี่ยวและคู่ผสม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรักษาสภาพความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ การวิเคราะห์คู่แข่งและการวางแผนการเล่นที่รัดกุมจะเป็นกุญแจสำคัญในการนำพาพวกเขาไปสู่รอบลึกๆ และคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ในที่สุด เรามาร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาทุกคนไปพร้อมๆ กันในศึกใหญ่ครั้งนี้
สำหรับแฟนแบดมินตันไทย สามารถส่งใจเชียร์นักแบดมินตันไทยในศึกชิงแชมป์โลกได้ในระหว่างวันที่ 25-31 ส.ค.68 นี้ ติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง True Sport 7 (686) และ True Sport 2 (667)