สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชวนคนไทยรวมพลังใช้สิทธิเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) ในวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2569 เพราะเสียงของทุกคนเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น พร้อมแนะประชาชนเตรียมพร้อม ตรวจสอบรายชื่อและคุณสมบัติ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสลงคะแนนเสียงกำหนดอนาคตชุมชนของท่าน
หลายคนพลาดใช้สิทธิเลือกตั้งโดยไม่รู้ตัว เพียงเพราะย้ายทะเบียนบ้านผิดช่วงเวลา หรือไม่ทราบคุณสมบัติและลักษณะห้ามของผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมาย
กกต. เชิญชวนประชาชนตรวจสอบความพร้อมและศึกษาความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบต. โดยสรุป 3 เช็กลิสต์สำคัญของ “ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง” ที่ต้องรู้ก่อนวันหย่อนบัตร ดังนี้
1. ใครบ้างที่มีสิทธิเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สามารถใช้สิทธิเข้าคูหาลงคะแนนเลือกตั้ง ส.อบต. และ นายก อบต. ได้
ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้:
● มีสัญชาติไทย ทั้งนี้ หากเป็นผู้แปลงสัญชาติ ต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า
5 ปี
● มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ในวันเลือกตั้ง
● มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้ง ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง
ผู้ที่ย้ายทะเบียนบ้านภายใน อบต. เดียวกัน แต่ยังไม่ครบ 1 ปี
ต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนใน เขตเลือกตั้ง (หมู่) ใหม่ โดย
▶ มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง เฉพาะนายก อบต. ในเขตเลือกตั้ง (หมู่) ใหม่
▶ ไม่สามารถเลือกสมาชิกสภา อบต. ในเขตเลือกตั้ง (หมู่) ใหม่ได้
หากประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งใน เขตเลือกตั้ง (หมู่) เดิม
ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดิมติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี
ต้องยื่นคำขอเพิ่มชื่อต่อนายทะเบียนอำเภอ ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน
(วันสุดท้ายคือวันที่ 31 ธันวาคม 2568)
▶ มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง นายก อบต. ในเขตเลือกตั้ง (หมู่) เดิม
(ไม่ต้องไปใช้สิทธิที่เขตเลือกตั้ง (หมู่) ใหม่)
▶ มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. ในเขตเลือกตั้ง (หมู่) เดิม
2. บุคคลต้องห้ามใช้สิทธิเลือกตั้ง
นอกจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม บุคคลใดมีลักษณะดังต่อไปนี้
กฎหมายกำหนดให้เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง:
● เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
● อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ไม่ว่าคดีจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่)
● ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
● วิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
หากผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ยังพยายามไปใช้สิทธิ
หรือลงคะแนนเลือกตั้ง ถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
3. หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่ได้แจ้งเหตุฯ จะต้องเสียสิทธิอะไรบ้าง?
การเลือกตั้ง อบต. มีความสำคัญ เพราะการไปใช้สิทธิเลือกผู้แทน คือ
การร่วมกำหนดงบประมาณ ทิศทางการพัฒนา และคุณภาพชีวิตในชุมชนของเราโดยตรง
นอกจากนี้ การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนที่จะต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
หากท่านไม่ไปใช้สิทธิและไม่ได้แจ้งเหตุอันสมควรต่อนายทะเบียนอำเภอ
หรือแจ้งแล้วแต่เหตุนั้นไม่สมควร ท่านจะถูกจำกัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 2 ปี
นับแต่วันเลือกตั้งครั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิ ดังนี้:
● สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. สว. สมาชิกสภาท้องถิ่น
หรือผู้บริหารท้องถิ่น
● สิทธิในการสมัครรับเลือกเป็นกำนัน และผู้ใหญ่บ้าน
● สิทธิในการเข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
● ห้ามดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
● ห้ามดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น
ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
● ห้ามดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น
ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกท่าน
ตรวจสอบรายชื่อและเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อออกไปใช้สิทธิเลือกคนดี มีความสามารถ
เข้ามาบริหารและพัฒนาท้องถิ่นของท่านให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ทั้งนี้ สามารถศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก
พรบ.การเลือกตัั้งสมาชิก
สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
หรือทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th
สร้างสรรค์ประเทศไทย พร้อมใจไปเลือกตั้ง อบต.
● แจ้งเบาะแสการทุจริตผ่านสายด่วน 1444 หรือแอป ตาสับปะรด
● ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครและข้อมูลการเลือกตั้งได้จากแอป Smart Vote
● ติดตามความรู้การเลือกตั้งผ่านเพจสำนักงาน กกต.
#สร้างสรรค์ประเทศไทยพร้อมใจไปเลือกตั้งอบต
#เลือกตั้งอบต