เลขาฯ สปส. เร่งยกระดับ “กองทุนเงินทดแทน” หนุนคุณภาพชีวิตแรงงานไทย แนะนายจ้างชำระเงินสมทบง่าย ๆ 4 ช่องทาง พร้อมเผยวิธีการคำนวณเงินสมทบที่ชัดเจน
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม ให้ความสำคัญกับการยกระดับกลไกการทำงานของ “กองทุนเงินทดแทน” ให้ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกจ้างที่ประสบอันตราย พิการ ทุพพลภาพ เสียชีวิต หรือสูญหายจากการทำงาน รวมถึงการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากการทำงาน เพื่อมอบสิทธิประโยชน์และพัฒนาคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย
เลขาธิการ สปส. กล่าวย้ำว่า นายจ้างมีหน้าที่ต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนลูกจ้างเป็นผู้ประกันตน พร้อมชำระเงินสมทบเข้า กองทุนเงินทดแทน เพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิในการคุ้มครองอย่างเต็มที่ เมื่อเกิดอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน ทุพพลภาพ ตาย สูญหาย สูญเสียอวัยวะ หรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย
สำหรับการจ่ายเงินสมทบ กองทุนเงินทดแทน จะเรียกเก็บจากนายจ้างเป็นรายปี โดยคำนวณจากจำนวนเงินค่าจ้างที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างรวมทั้งปี (ไม่เกินคนละ 240,000 บาทต่อปี) คูณกับอัตราเงินสมทบของประเภทกิจการ ซึ่งอยู่ในช่วงอัตรา 0.20 – 1.00% ทั้งนี้ สถานประกอบการที่มีสถิติการประสบอันตรายลดลง หรือมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น จะได้รับการปรับลดอัตราเงินสมทบที่ต้องชำระลง
นายจ้างสามารถชำระเงินสมทบได้ 4 ช่องทางหลัก ดังนี้
ณ สำนักงานประกันสังคม: ชำระด้วยเงินสดหรือเช็ค
ทางไปรษณีย์
ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารหรือหน่วยบริการ:
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
เคาน์เตอร์โลตัส
เคาน์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่น-อีเลฟเว่น)
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment):
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ธนาคารออมสิน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ธนาคารดอยซ์แบงก์
ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส
เคาน์เตอร์เซอร์วิส (ชำระด้วยบัตรมาสเตอร์การ์ด)
นางสาวกาญจนา กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า กองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและมุ่งเน้นมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยภายในสถานประกอบการให้มีคุณภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานในประเทศให้ดีขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: สายด่วน 1506 (โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง), Line: @ssothai หรือเว็บไซต์ www.sso.go.th

