สปส. เดินหน้ายกระดับ ‘กองทุนเงินทดแทน’ ชูระบบคำนวณเงินสมทบตามค่าประสบการณ์

นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยถึงการเดินหน้ายกระดับกลไกการคุ้มครองแรงงานผ่าน กองทุนเงินทดแทน โดยมุ่งเน้นการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยในสถานประกอบการทั่วประเทศ เพื่อลดการสูญเสีย ลดความเสี่ยง และสร้างความมั่นคงที่ยั่งยืนให้แก่แรงงานไทย

กองทุนเงินทดแทน จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 เพื่อให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์แก่ลูกจ้างทุกคนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน โดยกำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการเป็นผู้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเพียงฝ่ายเดียว

การคำนวณเงินสมทบ: ตามระดับความเสี่ยง

การจัดเก็บเงินสมทบจะคำนวณเป็นรายปี โดยนำค่าจ้างของลูกจ้างในรอบปี (ไม่เกิน 240,000 บาท ต่อคน ต่อปี) คูณกับอัตราเงินสมทบของแต่ละประเภทกิจการ ซึ่งถูกกำหนดตามระดับความเสี่ยงในการทำงาน โดยมีอัตราตั้งแต่ร้อยละ 0.2 ถึง 1.0 กิจการที่มีความเสี่ยงต่ำจะมีอัตราเงินสมทบที่น้อยกว่ากิจการที่มีความเสี่ยงสูง

รางวัลความปลอดภัย: ระบบคำนวณเงินสมทบตามค่าประสบการณ์

นางสาวกาญจนา กล่าวเน้นย้ำว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอย่างจริงจัง กองทุนเงินทดแทน ได้พัฒนาระบบการคำนวณอัตราเงินสมทบตาม 'ค่าประสบการณ์' ระบบนี้ทำหน้าที่เป็น "รางวัลแห่งความปลอดภัย" สำหรับสถานประกอบการที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานน้อย หรือไม่เกิดอุบัติเหตุเลย

“เมื่อสถานประกอบการจ่ายเงินสมทบตามอัตราหลักครบ 4 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป สำนักงานประกันสังคม จะนำข้อมูลการเกิดอุบัติเหตุมาคำนวณ อัตราส่วนการสูญเสีย และใช้เป็นเกณฑ์ในการปรับลดหรือปรับเพิ่มเงินสมทบตามค่าประสบการณ์ หากนายจ้างบริหารจัดการความปลอดภัยได้ดี ไม่มีการสูญเสีย นายจ้างก็จะได้รับสิทธิในการลดอัตราเงินสมทบลง ถือเป็นแรงจูงใจที่เชื่อมโยงทั้งความปลอดภัยและประโยชน์ของแรงงาน”

ดังนั้น กองทุนเงินทดแทน จึงไม่เพียงแต่เป็นกลไกคุ้มครองลูกจ้างเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับความปลอดภัยของสถานประกอบการทั่วประเทศ สร้างมาตรฐานการทำงานที่ดีขึ้นและสร้างความมั่นคงให้แรงงานไทยในระยะยาว

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1506 (โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ www.sso.go.th