สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เดินหน้าสร้างความเข้าใจ ‘กองทุนเงินทดแทน’ ให้ลูกจ้างทั่วประเทศ มุ่งมั่นคุ้มครองอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 1 ล้านบาท และค่าทดแทนรายเดือน 70%
นางสาวกาญจนา พูลแก้ว เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของ “กองทุนเงินทดแทน” อย่างกว้างขวาง โดยเน้นย้ำว่ากองทุนนี้เป็นหลักประกันความมั่นคงสำหรับลูกจ้างทุกคนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน
กองทุนเงินทดแทน ให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้างตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน โดยนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบส่งเงินสมทบเข้ากองทุน เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน จะได้รับเงินทดแทนใน 4 กรณีหลัก ดังนี้
ค่ารักษาพยาบาล: ดูแลค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 65,000 บาท หากเป็นกรณีบาดเจ็บรุนแรง จะดูแลค่ารักษาพยาบาลสูงสุด ไม่เกิน 1,000,000 บาท
ค่าทดแทนรายเดือน: ลูกจ้างจะได้รับค่าทดแทนในอัตราร้อยละ 70% ของค่าจ้างรายเดือน สูงสุด ไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน โดยครอบคลุมกรณีดังต่อไปนี้
แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว รวมไม่เกิน 1 ปี
สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกาย ไม่เกิน 10 ปี
ทุพพลภาพตลอดชีวิต
ถึงแก่ความตายหรือสูญหาย (ได้รับ 10 ปี พร้อมค่าทำศพ)
กรณีเสียชีวิต: ทายาทจะได้รับ ค่าทำศพ 50,000 บาท
กรณีฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน: เป็นการสนับสนุนการฟื้นฟูตามดัชนีสำหรับลูกจ้างที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟู แบ่งเป็น 4 ส่วน
ด้านการแพทย์ (เวชกรรมฟื้นฟู): ค่าใช้จ่ายรายครั้งตามคำแนะนำไม่เกินครั้งละ 200 บาท และค่าใช้จ่ายจัดการโครงการไม่เกินวันละ 100 บาท โดยรวมแล้ว ไม่เกิน 24,000 บาทต่อปี
ด้านอาชีพและทักษะการทำงาน: ค่าใช้จ่ายเพื่อฟื้นฟูตามแผน ไม่เกิน 40,000 บาท หากเกินตามเหตุจำเป็น ไม่เกิน 140,000 บาท แต่รวมกันทั้งสองส่วนแล้ว ไม่เกิน 180,000 บาท (รวมค่าพาหนะไปยังสถานที่ฝึกอบรม)
การฟื้นฟูในอาชีพ: ค่าใช้จ่ายที่นายจ้างต้องตรวจสอบความสามารถของลูกจ้าง โดยรวม ไม่เกิน 180,000 บาท
สนับสนุนและบริการฟื้นฟูสมรรถภาพ (ภาวะทุพพลภาพ): ค่าใช้จ่าย ไม่เกิน 24,000 บาทต่อปี
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพจะจ่ายได้เฉพาะหลักสูตรที่หน่วยงานของ สำนักงานประกันสังคม เป็นผู้ดำเนินการเท่านั้น ลูกจ้างและประชาชนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1506 โทร.ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line: @ssothai และเว็บไซต์ www.sso.go.th

