‘เอ็นที ฟุตบอลคลับ’ ลุ้นเหนื่อยโค้งท้ายลีกโต๊ะเล็ก ‘โค้ชเอ-วีระยุทธ’ ยังเชื่อมั่นผ่านวิกฤติอยู่รอดได้

การแข่งขันฟุตซอลไทยลีก 2022 ที่กำลังย่างกรายเข้าสู่โค้งสุดท้ายของเลก 2 ที่เหลืออีกเพียง 8 นัด ก็จะจบซีซั่นกันแล้ว บรรดาทีมหัวตารางก็บดบี้กันอย่างสนุกเมามันส์เพื่อแย่งตำแหน่งแชมป์ ส่องลงมาโซนท้ายตารางที่จะต้องตกชั้น 2 ทีม ก็ถือว่าขับเคี่ยวอย่างสนุกไม่แพ้เช่นกัน

เอ็นที ฟุตซอลคลับ หนึ่งในสโมสรที่ถือว่าชั่วโมงนี้สถานการณ์สุ่มเสี่ยงไม่น้อยกับพื้นที่โซนสีแดงที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตกชั้น เนื่องจากรั้งอยู่รองอันดับสุดท้ายของตาราง รั้งอยู่อันดับ 13 จาก 14 ทีม ที่ทำการแข่งขัน แม้ว่าจบเลกแรก พวกเขาสโมสรเอ็นที ฟุตซอลคลับ จะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการรั้งอยู่อันดับ 9 ของตาราง 13 นัด ชนะ 4 เสมอ1 แพ้ 8 เก็บได้ 13 คะแนน อยู่ในโซนที่ถือว่าปลอดภัย

ทว่าเมื่อเลกสองเริ่มกลับมาแข่งขันอีกครั้ง บรรดาพลพรรค “อินทรีสีส้ม” สโมสรเอ็นที ฟุตซอลคลับ กลับหลุดฟอร์ม ผลงานแผ่ว สะกดคำว่าชนะไม่เป็น จากการลงสนาม 5 นัดหลังสุดไม่สามารถที่จะเก็บแต้มได้เลย จนทำให้อันดับร่วงไปรั้งรองอันดับสุดท้ายของตาราง จนทำให้บรรดาแฟนคลับอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับผลงานที่ออกสตาร์ตเลกสอง แล้วเส้นทางที่เหลืออยู่อีก 8 นัด จะสามารถเรียกฟอร์มเก่งให้ฟื้นคืนชีพกลับมายืนหยัดอยู่ในลีกสุดสุดต่อไปได้หรือไม่

แน่นอนว่าคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือ “โค้ชเอ” วีระยุทธ ทวีกัน กุนซือใหญ่ของสโมสรเอ็นที ฟุตซอลคลับ ซึ่งก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นข้างต้นให้คลายความสงสัยกับมุมมองผลงานของทีมที่เกิดขึ้น และแนวทางที่จะพาทีมผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปให้ได้

โดยทาง “โค้ชเอ” วีระยุทธ ทวีกัน เริ่มกล่าวว่า “เรื่องผลการแข่งขัน ส่วนตัวแน่นอนว่า ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เนื่องจากเมื่อมองภาพรวมทั้งหมด แพ้เยอะไป เนื่องจากคุณภาพนักเตะของสโมสรที่ต้องยอมรับความจริงว่าปีนี้ทางสโมสรมีการผ่องถ่ายสายเลือดใหม่แทบจะเรียกว่ายกทีมกันเลยทีเดียว เราสร้างเด็กขึ้นมาทดแทนไม่ทัน ทำให้มีผู้เล่นเก่าและเก๋าคอยประคองทีมเพียง 4-5 คนเท่านั้น จากปกติในแต่ละปีจะเหลือผู้เล่นเก่ามีประสบการณ์ 8-9 คน ผลงานจึงรักษามาตรฐานไม่ได้” 

“โค้ชเอ” กล่าวต่อว่า “แต่น้องที่ขึ้นมาใหม่ทุกคนมีความสามารถ มีความตั้งใจ มุ่งมั่นเต็มร้อย เพียงแต่พวกเขายังขาดชั่วโมงบิน กระดูกประสบการณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของฟุตซอลลีกที่เราเห็นได้ชัดเจน เพราะในแต่ละเกมรูปแบบวิธีการเราทำได้ไม่ด้อยไปกว่าคู่แข่ง สามารถที่จะสู้กันได้ แต่เมื่อถึงจุดคับขันหรือกดดัน ผู้เล่นอายุน้อยของเรามักจะเสียสมาธิ กดดันตัวเองจนผิดพลาด จากเกมที่น่าจะชนะก็ออกเสมอ เกมที่จะเสมอก็ดันมาแพ้ เสียจังหวะง่ายๆ ที่ไม่น่าเสีย ซึ่งมันคือจุดสำคัญที่เราให้ความสำคัญและพยายามแก้ไข” 

“อีกประเด็นคือในทุกซีซั่นก่อนหน้า เราจะมีผู้เล่นบราซิลที่ถือว่ามีคุณภาพ แต่ปีนี้เราไม่มีด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง แม้ว่าเราจะได้ผู้เล่นต่างชาติจากเกาหลีใต้และมาเลเซียมาร่วมทีม แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพเกรดฟุตซอลยังไม่สามารถมาเป็นเดอะแบกให้กับทีมได้อย่างที่เราต้องการ เหมือนพวกบราซิลที่ผ่านมา อีกทั้งพวกเขามาร่วมทีมช้าทำให้มีเวลาในการปรับตัวน้อย แต่เราก็พยายามให้โอกาสและเวลากับเขา เพราะนี่เป็นการเล่นลีกสูงสุดในเมืองไทยครั้งแรกของแข่งต่างชาติ และพวกเขาก็พยายามทุ่มเทช่วยทีมอย่างเต็มที่เช่นกัน” 

นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทาง “โค้ชเอ” วีระยุทธ ทวีกัน สรุปให้ทราบกันอย่างคร่าวๆ ถึงปัญหาใหญ่ที่มีส่วนกระทบกับผลงานของทีมที่เกิดขึ้น ทำให้อันดับร่วงดิ่งลงไปจมอยู่โซนพื้นที่สีแดงสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้น ทว่าอย่างไรทาง “โค้ชเอ” วีระยุทธ ทวีกัน ก็ยังเชื่อมั่นในตัวลูกทีมและทีมงานทุกคนว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ 
“ผมยังเชื่อมั่นในการทำงานหนักของเราทุกคน ถ้าเราทำได้อย่างมาตรฐานเลกแรกที่เก็บ 13 แต้ม ผมยังเชื่อมั่นว่าเราจะไม่ตกชั้น แม้ว่าตอนนี้ผ่านไปแล้ว 5 เหลืออีก 8 ซึ่งเราจะต้องเก็บให้ได้ไม่น้อยกว่า 10 แต้ม ถ้าน้อยกว่นั้นก็มีโอกาสตกชั้นได้เหมือนกัน ถึงชั่วโมงนี้เราไม่ต้องไปมองทีมอื่น ไม่ต้องหวังพึ่งหรือแช่งให้ทีมอื่นสะดุด เราต้องหันกลับมาทำงานหนักและสร้างมาตรฐานของทีมเราให้ดีกว่าเดิมได้ก่อน ซึ่งผมเชื่อว่ายังมีเวลาให้เราแก้ตัวได้ ทุกคนยังสู้เสมอ” 

นอกจากนี้ ทางแม่ทัพใหญ่ของพลพรรค “อินทรีสีส้ม” สโมสรเอ็นที ฟุตซอลคลับ ยังได้กล่าวต่ออย่างมั่นใจว่า “ถ้าปีนี้เราไม่ตกชั้น ผมก็ยังมีความเชื่อมั่นว่า เด็กชุดนี้ไปต่อได้ดีแน่ เพราะพวกเขาจะมีประสบการณ์ที่สูงขึ้น จากนั้นปีหน้าจะมีแนวทางหาผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูงมาเติมอีก 2-3 ราย รวมถึงหาแข้งต่างชาติที่จบสกอร์ดีๆ มาเติมเต็ม เชื่อว่าจะดีกว่าปีนี้ได้แน่นอน” 

สุดท้ายทาง “โค้ชเอ” วีระยุทธ ทวีกัน ยังได้กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของผู้ใหญ่ใจดี และผู้สนับสนุนรวมถึงแฟนคลับที่ยังคงซัพพอร์ตทีมด้วยดีเสมอมาว่า “ผมขอเป็นตัวแทนน้องๆ และทีมงานทุกคนในทีม ขอบคุณทางผู้ใหญ่ของเอ็นที ซึ่งให้การสนับสนุนอย่างดี ขอบคุณผู้บริหารทุกท่าน ที่เอื้อเฟื้อเมตตาไม่เคยทอดทิ้งเรา ขาดอะไรก็คอยช่วยเหลือสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถในการเดินทาง ที่พัก สนามซ้อม และต้องขอบคุณแฟนคลับทุกๆ คนของสโมสรที่คอยติดตามเป็นกำลังใจด้วยดีเสมอมา” 

สำหรับฟุตซอลไทยลีก 2022 เลก 2 ที่เหลืออีกเพียง 8 นัด ก็จะจบซีซั่นกันแล้วนั้น พลพรรค “อินทรีสีส้ม” สโมสรเอ็นที ฟุตซอลคลับ คงจะต้องรวมพลังทั้งกายและใจ เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคนี้ไปให้ได้ หากหวังที่จะโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดของวงการลูกหนังโต๊ะเล็กเมืองไทยต่อไปในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าจากความทุ่มเท จะกลายเป็นพลังให้พวกเขาทำสำเร็จ...สู้ๆ “อินทรีสีส้ม”!!!


ที่มาของภาพ : เอ็นที ฟุตบอลคลับ
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport