สรุป “ที่สุดแห่งปี” ศึกไทยลีก ฤดูกาล 2025/26 หลังจบเลกแรก ทั้งทีมยอดเยี่ยม ทีมเซอร์ไพรส์ นักเตะเด่น ดีลคุ้มค่า ไปจนถึงแมตช์สุดระทึกที่แฟนบอลจดจำ
เจาะลึกบทสรุป "ที่สุด" ไทยลีก 2025/26 หลังผ่านครึ่งทางเลกแรก
การแข่งขันฟุตบอล BYD SEALION 6 ลีกหนึ่ง ฤดูกาล 2025/26 เดินทางมาถึงครึ่งทางของฤดูกาล พร้อมเรื่องราวเข้มข้นมากมาย ทั้งทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ และโจทย์ใหญ่ที่หลายทีมต้องเร่งปรับจูน นี่คือการรวบรวมทุกบทสรุปสำคัญของคำว่า “ที่สุด” หลังผ่านเลกแรกของไทยลีก ฤดูกาล 2025/26

ทีมยอดเยี่ยม – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
สำหรับทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ไม่มีทีมใดเหมาะสมไปกว่าแชมป์เก่า “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ที่รักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นได้อย่างคงเส้นคงวาในช่วงเลกแรก ทัพ “ปราสาทสายฟ้า” ลงสนามทั้งหมด 15 นัด ชนะ 13 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้เพียง 1 นัด เก็บไปได้ 40 คะแนน รั้งตำแหน่งจ่าฝูง โดยสามารถเจาะตาข่ายคู่แข่งได้ถึง 38 ประตู และเสียเพียง 15 ประตู
ด้วยคุณภาพของผู้เล่นต่างชาติที่ยอดเยี่ยม บวกกับนักเตะไทยดีกรีระดับทีมชาติ ทำให้กลายเป็นทีมที่มีสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับ หากรักษาฟอร์มแบบนี้ได้ต่อเนื่อง แชมป์สมัยที่ 11 คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

ทีมผลงานต่ำกว่าความคาดหมาย – ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
จากทีมที่ถูกวางตัวให้เป็น "ผู้ท้าชิงอันดับหนึ่ง" และมีขุมกำลังที่เรียกได้ว่าเพียบพร้อมที่สุดทีมหนึ่งในลีก แต่ผลงานของ “แข้งเทพ” ในเลกแรกยังคงมีโจทย์ให้ต้องแก้ โดยเฉพาะการรักษาความสม่ำเสมอในการเก็บแต้มสำคัญ ส่งผลให้ฟอร์มโดยรวมสะดุดถึง 8 จาก 15 นัดแรก (ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 3) แม้จะยังเกาะกลุ่มหัวตารางในอันดับ 5 แต่ด้วยแต้มที่ห่างจากจ่าฝูงถึง 14 คะแนน ทำให้ในเลกที่สอง โค้ชแบน และทีมงานต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อกลับไปสู่มาตรฐานที่เคยทำไว้

ทีมสุดเซอร์ไพรส์ – สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงภายในสโมสรค่อนข้างเยอะ รวมถึงความท้าทายด้านงบประมาณ แต่ทว่าฤดูกาลนี้พวกเขากลับโชว์หัวใจนักสู้ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ปัจจุบันรั้งอันดับ 6 ของตาราง ด้วยผลงาน ชนะ 5 เสมอ 7 และแพ้เพียง 3 เกม
จุดที่น่าชื่นชมคือการทำผลงานได้ดียามพบทีมใหญ่ ทั้งชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี และแบ่งแต้มจาก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี ได้สำเร็จ ด้วยการบริหารทรัพยากรอย่างชาญฉลาด เน้นการผสมผสานดาวรุ่งกับผู้เล่นมากประสบการณ์ ทำให้เชียงรายยังคงเป็นทีมที่แข็งแกร่งและบินสูงในฤดูกาลนี้

นักเตะยอดเยี่ยม – กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี คงไม่มีชื่อใดโดดเด่นไปกว่า กิลเยร์เม่ บิสโซลี่ ดาวยิงชาวบราซิลของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวเมื่อฤดูกาลก่อน ที่ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกไว้ได้อย่างต่อเนื่อง
ในฤดูกาลนี้ บิสโซลี่ซัดไปแล้ว 14 ประตู จากการลงสนาม 14 นัด นำโด่งเป็นดาวซัลโวของลีก ตอกย้ำสถานะกองหน้าเบอร์หนึ่งของไทยลีก ด้วยความเฉียบคมและความสม่ำเสมอ ทำให้เขาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้อย่างแท้จริง

นักเตะที่ผลงานยังไม่เป็นไปตามความคาดหมาย – เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
ฤดูกาล 2025/26 เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายสำหรับ “เจ้าเท่” เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ หลังหวนคืนสู่ไทยลีกจากการไปค้าแข้งกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ในศึกเจลีก แม้แฟนบอลจะคาดหวังได้เห็นฟอร์มที่ร้อนแรงทันที แต่ด้วยสภาพร่างกายที่อาจยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยจากอาการบาดเจ็บรบกวน รวมถึงจังหวะการเล่นที่ต้องใช้เวลาปรับจูนหลังจากไม่ได้ลงสนามต่อเนื่องที่ญี่ปุ่น
ทำให้ตลอดเลกแรก เขาลงสนาม 10 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์ ซึ่งถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่เจ้าตัวต้องเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกายและความมั่นใจ เพื่อกลับมาเป็นอาวุธหนักในแนวรุกให้ทัพ "เดอะ แรบบิท" อีกครั้งในเลกสอง

ดาวรุ่งยอดเยี่ยม – เสกสรรค์ ราตรี (ระยอง เอฟซี)
เสกสรรค์ ราตรี แจ้งเกิดอย่างสง่างามหลังย้ายมาร่วมทัพ ระยอง เอฟซี ด้วยสัญญายืมตัว และก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญที่ทัพ “ม้านิลมังกร” จะขาดเสียไม่ได้ ผลงานในสนามสะท้อนความยอดเยี่ยมของเจ้าของฉายา “จู้ด เบลลิ่งเสก” ด้วยการทำ 4 ประตูในลีก และอีก 2 ประตูในบอลถ้วย
นอกจากนี้เขายยังต่อยอดความสำเร็จด้วยการติด ทีมชาติไทยชุดใหญ่ และทำประตูได้ทันทีในศึกเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก เมื่อนับรวมทุกรายการเขาซัดไปถึง 12 ประตูในช่วงเวลาเพียง 2 เดือน เป็นเครื่องยืนยันว่าเขาคืออนาคตของวงการฟุตบอลไทย

การเซ็นสัญญาที่คุ้มค่าที่สุด – เสกสรรค์ ราตรี (ระยอง เอฟซี)
หากจะพูดถึงดีลที่สร้างความคุ้มค่าสูงสุด คงหนีไม่พ้นการที่ ระยอง เอฟซี คว้าตัว เสกสรรค์ ราตรี มาร่วมทีม เพราะเขาสามารถยกระดับเกมรุกของทีมให้มีความหลากหลายและอันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนช่วยให้ทีมขยับขึ้นมารั้งอันดับ 7 ของตาราง ดีลนี้จึงถือเป็นกำไรของสโมสรและเป็นที่รักของแฟนบอลระยองอย่างรวดเร็ว
การเซ็นสัญญาที่ยังไม่เป็นไปตามความคาดหมาย – อาบูบาการ์ กามาร่า (พลังกาญจน์ เอฟซี)
เป็นความท้าทายครั้งสำคัญของทัพ “ม้าเหล็กพลังกาญจน์” พลังกาญจน์ เอฟซี ในการดึงตัว อาบูบาการ์ กามาร่า อดีตดาวยิงพรีเมียร์ลีกมาร่วมทีม แม้ในช่วงเลกแรกผลงาน 3 ประตูจาก 11 นัด อาจจะยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ และทีมยังต้องดิ้นรนอยู่ในอันดับ 15 ของตาราง
แต่ด้วยดีกรีระดับนี้ หากกามาร่าสามารถปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ฟุตบอลไทยได้เร็วขึ้นในเลกสอง เขาอาจจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะช่วยให้ทีมพลิกสถานการณ์กลับมาได้

แมตช์ระทึกที่สุด – ชลบุรี เอฟซี 4-2 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เกมที่รวมทุกความตื่นเต้นและสปิริตนักสู้ไว้ในนัดเดียว เมื่อ ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านพบจ่าฝูง และสร้างสถานการณ์ที่น่าเหลือเชื่อแม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนจากการถูกใบแดงของ เลสลีย์ อับโบห์
“ฉลามชล” โชว์ความเด็ดขาดนำก่อน 2-0 ก่อนที่บุรีรัมย์จะแสดงศักดิ์ศรีแชมป์ไล่ตีเสมอ 2-2 อย่างรวดเร็ว แต่ช่วงท้ายเกมคือบทละครที่คาดไม่ถึงเมื่อ สันติภาพ จันทร์หง่อม ซัดฟรีคิกสุดสวยพาชลบุรีนำอีกครั้ง และปิดท้ายด้วยจุดโทษจาก เกร็ก ฮูล่า ในนาทีที่ 90+12 ส่งให้เจ้าถิ่นเก็บชัยชนะเหนือจ่าฝูงไปได้อย่างสุดมัน
และนี่คือบทสรุปความเคลื่อนไหวของศึกลูกหนังเบอร์หนึ่งเมืองไทยในช่วงเลกแรก จากนี้ไปต้องมาติดตามกันว่า ทีมใดจะรักษามาตรฐานความแข็งแกร่ง และทีมใดจะเร่งเครื่องเพื่อเป้าหมายในเลกที่สอง!