"เสี่ยฟลุ๊ค" ธนวัชร นิติกาญจนา ยอมรับราชบุรี เอฟซี ยังเป็นน้องใหม่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ไทยลีก 2025/26 เมื่อเทียบทีมใหญ่ ชี้โปรแกรม ACL2 ทำล้าสะสม เตรียมถอดบทเรียนเลกแรกสู้ต่อเลกสอง
ธนวัชร นิติกาญจนา ประธานสโมสร ราชบุรี เอฟซี ออกมาเปิดใจผ่านเพจอย่างเป็นทางการของสโมสร หลังพาทีมพลาดท่าเปิดบ้านแพ้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 ในศึกฟุตบอล ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2025/26 เกมนัดตกค้าง เมื่อวันพุธที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ “ราชันมังกร” ยังคงรั้งอันดับ 2 ของตารางคะแนน แต่ถูกจ่าฝูง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างเพิ่มเป็น 11 คะแนน
ประธานสโมสรราชบุรีฯ ยอมรับตามตรงว่า ทีมยังถือว่าใหม่มากกับการลุ้นพื้นที่หัวตาราง เมื่อเทียบกับบรรดาทีมใหญ่ของลีกที่มีทั้งประสบการณ์และงบประมาณในการแข่งขันระดับนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี
“เรายังใหม่มากกับการลุ้นพื้นที่หัวตาราง ต้องยอมรับความจริงว่าทีมที่ลุ้นหัวตารางส่วนใหญ่เป็นทีมหน้าเดิมที่คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ การขึ้นมาอยู่จุดนี้เป็นเรื่องหนึ่ง แต่การยืนระยะให้ได้เหมือนทีมเหล่านั้นเป็นงานที่ยากและท้าทายมาก”
เสี่ยฟลุ๊ค ยังกล่าวถึงผลกระทบจากโปรแกรมการแข่งขันถ้วยเอเชีย เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ทู (ACL2) ที่ทำให้ทีมต้องลงเล่นถี่ขึ้น โดยในช่วง 4 เดือนครึ่งของเลกแรก ราชบุรีต้องลงสนามถึง 24 นัด ไม่รวมการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นภาระที่ทีมยังไม่คุ้นชิน
“นี่คือเสน่ห์ของฟุตบอลลีก ทีมระดับต้นๆ ต้องไปแข่งต่างประเทศ ทำให้จำนวนเกมเพิ่มขึ้น ทีมที่มีประสบการณ์จะรู้ว่าการใช้ผู้เล่นชุดเดิมตลอดเวลาเป็นไปไม่ได้”
ประธานสโมสรราชบุรีฯ ระบุว่า การรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวมีอยู่ 2 ทางเลือก คือการเพิ่มขนาดสควอดให้ใหญ่พอสำหรับการหมุนเวียนผู้เล่น หรือการเลือกโฟกัสเป็นบางรายการในกรณีที่งบประมาณไม่เอื้อ ซึ่งราชบุรีเองไม่เคยเผชิญกับเงื่อนไขแบบนี้มาก่อนในอดีต
“ปีที่แล้วเราเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งสองถ้วยในประเทศแทบไม่มีปัญหาเรื่องความล้า แต่การเดินทางไปต่างประเทศและการแข่งขันที่เข้มข้น ทำให้นักเตะหลายคนมีอาการล้าสะสม แม้จะคุ้มค่ากับรายได้ที่สโมสรได้รับก็ตาม”
อย่างไรก็ตาม ธนวัชร นิติกาญจนา มองว่า นี่คือสัญญาณที่ดีของฟุตบอลไทยลีก โดยชี้ว่าฤดูกาลนี้ทุกทีมสามารถแพ้ชนะกันได้ และสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของลีก
“เราชนะในลีก 9 เกมก็จริง แต่ในแต่ละเกมคู่แข่งก็มีโอกาสชนะเราเช่นกัน เราไปแข่ง ACL2 ในฐานะทีมอันดับ 4 ของลีก แต่สามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ แสดงให้เห็นว่าลีกของเราแข็งแกร่ง และผมเชื่อว่าทีมอันดับ 5 หรือ 6 ของไทยลีกก็สามารถไปแข่งถ้วยเอเชียได้”
พร้อมกันนี้ยังชื่นชมทั้ง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ ราชบุรี เอฟซี ว่ามีการพัฒนาทีมดีขึ้นจากฤดูกาลก่อน และขอให้แฟนบอลช่วยสนับสนุนสโมสรของตนเองให้เดินหน้าไปให้ไกลที่สุดในฤดูกาลนี้
ท้ายที่สุด ประธานสโมสรราชบุรีฯ กล่าวถึงเลกสองของไทยลีกว่า “ตอนนี้จบเลกแรกแล้ว รู้สึกตื่นเต้นมากกับเลกสองที่กำลังจะมาถึง การลุ้นทั้งโซนหัวตารางและท้ายตารางจะสนุกและเข้มข้นมาก เจอกันเลกสอง ไทยลีก ลีกเบอร์ 1 ของอาเซียน”