5 เหตุผล ‘ไทยแลนด์ กลาซิโก้’ ยังไม่เสื่อมมนต์ขลัง และห้ามพลาด เมืองทอง - ชลบุรี เป็นอันขาด!!

5 เหตุผล ‘ไทยแลนด์ กลาซิโก้’ ยังไม่เสื่อมมนต์ขลัง และห้ามพลาด เมืองทอง - ชลบุรี เป็นอันขาด!!
บางเกมฟุตบอลไม่ได้ตัดสินกันที่ตารางคะแนน หากแต่ยังมีเรื่องของ 'ศักดิ์ศรี' ที่อยู่บนสองบ่า และในศึก ไทยแลนด์ กลาซิโก้ ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี เอฟซี ยังคงเป็นบทพิสูจน์ว่า ‘มนต์ขลัง’ บางอย่าง ไม่มีวันตกยุคหรือหมดสมัยเลยแม้แต่น้อย!!

เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี

  • วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2025
  • เวลา 19:00 น. 
  • ณ สนาม ธันเดอร์โดม
  • ถ่ายทอดสดทาง AIS Play (ช่อง Play Sports 1)

--------------

[ 1 ] เพราะนี่คือเกมที่หล่อหลอมฟุตบอลไทย จากเริ่มต้นสู่ยุคใหม่

เมืองทอง - ชลบุรี คือคู่ที่ผลักดันให้ฟุตบอลไทย เข้าสู่ความเป็นมืออาชีพแบบเต็มตัวโดยแท้จริง 

กิเลนผยองนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจลูกหนังด้วย 'การตลาด' และเป็นโมเดลให้สโมสรต่างๆ เจริญรอยตาม อีกทั้งยังสร้างปรากฏการณ์หลายๆ อย่าง กระทั่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

ขณะที่ฉลามแห่งเมืองชลก็ชัดเจนในเรื่องรูปแบบการทำทีมด้วย 'หัวใจ' บวกด้วยพลังจากท้องถิ่นนิยม รวมไปถึงระบบอะคาเดมี่ที่แรกๆ บนแผ่นดินขวานทอง

ตั้งแต่ปี 2009 ที่ทั้ง 2 ทีมเผชิญหน้ากันเป็นหนแรก เกมนี้ไม่ใช่แค่บอลเตะกัน 90 นาที แต่คือชนวนให้เกิดวัฒนธรรมการเชียร์ด้วยเสียงกึกก้องจนจบการแข่งขัน

สมรภูมิที่ทำให้ ไทยลีก เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า เมืองทอง - ชลบุรี มีส่วนผลักดันสูงจริงๆ

--------------

[ 2 ]สถานะเปลี่ยน แต่ศักดิ์ศรีไม่เคยเปลี่ยน

จากคู่ลุ้นแชมป์ กลายมาเป็นคู่ที่ต้องต่อสู้เพื่อแต้มสำคัญในปลายตาราง แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของเกมนี้ เมื่อเรื่องของ 'ศักดิ์ศรี' ไม่ได้ลดลงตามอันดับ 

ทุกจังหวะยังหนักแน่น สิงฝั่งยังสู้แบบไม่กลัวหน้าใคร ไม่ว่าปีไหนก็ตาม  

โดยเฉพาะ ชลบุรี ที่พกความแค้นกับการที่ต้องปราชัยให้ เมืองทอง ไปในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2023-24 จนเป็นเหตุให้หล่นสู่ ไทยลีก 2 เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร 

พวกเขาถูกกิเลนผยองถล่มเละ 6-0 ซึ่งเป็นสกอร์ที่ขาดที่สุดในการพบกัน

ดังนั้นเกมในวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม จึงเป็นเกมที่ ชลบุรี รอคอยที่จะล้างตากับ เมืองทอง โดยแท้จริง

--------------

[ 3 ] เพราะนักเตะที่ลงสนามหลายคนโตมากับเกมนี้

เจษฎา จิตสวัสดิ์ และ พิภพ อ่อนโม้ คือกัปตันทีมของทั้งสองฝั่งเมื่อปี 2009 ซึ่งเป็นนัดแรกที่ทั้ง 2 สโมสรเผชิญหน้ากัน

ภาพตัดฉับมาถึงปัจจุบัน 

คนแรกอยู่ในทีมสตาฟฟ์ เมืองทอง ขณะที่อีกคนก็อยู่ในเส้นทางโค้ชเช่นกัน

16 ปี ผ่าน เป็นเวลาที่ไวเหมือนโกหก

รุ่นพี่ของนักเตะชุดปัจจุบันของทั้งสองทีมเคยเล่าให้พวกเขาฟังว่า เมืองทอง - ชลบุรี สมัยก่อนคือสงครามลูกหนังของจริง วันนี้หลายคนอาจไม่เคยเล่นในยุคสนามแตก แต่ทุกคนรู้ดีว่าตราของสองสโมสรนี้มีความหมายอย่างไร 

การสู้ของดาวรุ่ง การลุกขึ้นพิสูจน์ตัวของตัวหลัก และนักเตะต่างชาติที่อยากสัมผัสบรรยากาศ ไทยแลนด์ กลาซิโก้ จึงเป็นอีกชั้นของความเข้มข้นที่รอคุณอยู่ในวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม

เจมส์ ปกรณ์ ฟอลคอเนอร์, ธีร์กวิน จันทร์ศรี, กฤตภัค แสงสวัสดิ, อาทิตย์ บัวงาม, สิรดนัย โพธิ์ศรี, ธีรภัทร์ นันทโกวัฒน์ และ ศรายุทธ อยู่สืบเชื้อ คือกลุ่มนักเตะกิเลนผยองที่เพิ่งได้สัมผัสศึกแห่งศักดิ์ศรีเป็นหนแรก

เช่นเดียวกับ สิรภพ วันดี, ธนวัตน์ เเป้นทอง, ธฤษณุ คุปตนาวิน, ต้นตะวัน ปุนทะมุ, เริงชัย เกษฎา และ ณภัทร ชุมปัญญา ซึ่งเป็นฉลามหนุ่มที่จะได้ประเดิม ไทยแลนด์ กลาซิโก้ 

--------------

[ 4 ] เพราะรูปเกมคู่นี้ไม่เคยเดาได้

ประวัติศาสตร์มันเล่าเอง อย่างนัดแรกในประวัติศาสตร์ที่พบกันเมื่อปี 2009 คือหนึ่งในแมตช์ที่ดุเดือดที่สุดของ ไทยลีก ซึ่งหนนั้น ชลบุรี นำก่อน 2-0 แต่ถูก เมืองทอง ยิงแซงชนะไป 5-2

การเจอกันทีไร มีดรามาให้ชมกันบ่อยครั้ง ทั้งเรื่องของใบแดง, เกมพลิกไป-พลิกมา, ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ, ประตูนาทีท้าย หรือจังหวะปาฏิหาริย์ 

กิเลนผยองถล่มเละก็มีมาแล้ว หรือฝั่งฉลามชลที่ซัลโวประตูกระจุยก็เกิดขึ้นเช่นกัน

บางคู่ผลการแข่งขันเดาได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็น เมืองทอง - ชลบุรี คู่นี้อย่าเพิ่งวางใจจนกว่าจะเป่านกหวีดยาว

--------------

[ 5 ] เพราะนี่อาจเป็นฤดูกาลที่กำหนดอนาคตของทั้งสองสโมสร

ด้วยความที่ฤดูกาล 2025-26 ทั้ง เมืองทอง และ ชลบุรี มีผลงานไม่ค่อยจะสู้ดีนัก อันดับอยู่ปลายตารางทั้งคู่ ดังนั้นถ้าผิดพลาดในเกมแบบนี้ อาจส่งผลระยะยาวถึงอนาคตของทีม, ผู้เล่นและแผนงานทั้งสโมสร 

กิเลนผยองต้องการกอบกู้ศรัทธา หลังจากไม่ชนะใคร 9 นัดติดต่อกันในลีก ก่อนจะปลดล็อกบุกเชือด เชียงราย ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ฉลามลก็ต้องการพิสูจน์ว่าหล่นไป ไทยลีก 2 เมื่อซีซั่นที่แล้วไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต้มเดียวอาจเปลี่ยนชะตาได้เลย 

เกมนี้จึงไม่ได้เป็นแค่เกมใหญ่ในอดีต แต่คือเกมสำคัญที่สุดของปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการกลับมาเจอกันของ 'ศิษย์เก่า' กิเลนผยองมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น กิตติพงษ์ แสนสนิท, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ที่เคยอยู่ในอะคาเดมี่ เมืองทอง ไปจนถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ศูนย์หน้าชุดแชมป์ ไทยลีก 2016 ที่แฟนๆ ไม่มีวันลืม

รวมไปถึง  'โค้ชอ้น' รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค อดีตกุนซือในช่วงต้นฤดูกาล ที่ปัจจุบันหันไปกุมบังเหียน ชลบุรี

นี่คือเกมใหญ่ที่แฟนฟุตบอลชาวไทย ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport