16 ปีผ่านไป เอล กลาซิโก้ เมืองไทย ไม่มีทางที่ไฟจะดับลง!?

16 ปีผ่านไป เอล กลาซิโก้ เมืองไทย ไม่มีทางที่ไฟจะดับลง!?
บางที มนต์ขลังของฟุตบอลไม่ได้อยู่ที่ว่าเรากำลังแย่งแชมป์หรือไล่ล่าความยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่อยู่ที่ 'เรื่องราว' ระหว่างทาง

ความทรงจำ, ความผูกพันและสิ่งที่ทีมสองทีมเคยเขียนไว้ร่วมกันบนแผ่นดินลูกหนังไทย

เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี คู่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทุกอย่างของ ไทยลีก

เกมที่เคยทำให้สนามแตก

เกมที่เคยทำให้บัตรเข้าชมถูกอัพราคาไปแตะหลักหลายพันบาทไทย

เกมที่ครั้งหนึ่งไม่ต้องโปรโมตก็รู้ว่า 'ห้ามพลาด'

และเกมที่ใคร ๆ เรียกมันว่า 'ไทยแลนด์ กลาซิโก้'

เสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2025 พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง ที่สนามเดิม - ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม 

แม้จะเปลี่ยนจากเกมลุ้นแชมป์เมื่อวันวาน แต่เชื่อเถิดงว่าความหมาย เมืองทอง ปะทะ ชลบุรี ไม่ได้ลดลงไปเลยแม้แต่น้อย ความร้อนแรงที่ย้ายรูปแบบนั้นไม่เคยหายไป

16 ปีก่อน เมืองทอง น้องใหม่ที่กำลังพุ่งทะยานแบบติดเทอร์โบ พร้อมขุมกำลังระดับทีมชาติ เผชิญหน้าฉลามชล ทีมจังหวัดทีมแรกที่กล้าปฏิวัติโฉมหน้าฟุตบอลไทย

มันไม่ใช่แค่เกมของ 22 ผู้เล่น แต่เป็นเกมของสองวิธีคิด สองชุดความเชื่อ

และสองทีมที่ต้องการประกาศให้สยามประเทศรู้ว่านี่คือฟุตบอลอาชีพแบบใหม่

การเจอกันในปี 2009 สกอร์จบลงที่ เมืองทอง บุกไปชนะ 5-2 ก่อนจะกลับมาเสมอที่ ธันเดอร์โดม 1-1

นั่นคือจุดเริ่มต้นของกระแสฟุตบอลไทย ในเวลาต่อมา

  • กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังไม่ครบ 20 ปี เลยด้วยซ้ำ
  • ธีรศิลป์ แดงดา เพิ่งจะ 21
  • เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แขวนสตั๊ดได้ไม่นาน ก่อนจะรับงานคุมทีม ชลบุรี กระทั่งปลุกศรัทธาทีมชาติในอีกไม่กี่ปีต่อจากนั้น

ตอนนั้นทุกเสียงเชียร์คือพลัง ทุกเกมคือความหมาย ทุกอย่างมันร้อนแรงพอที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์

ภาพตัดฉับกลับมา ณ ปี 2025 

บางคนอาจมองว่า ความเดือดลดล ไม่ใช่ ไทยแลนด์ กลาซิโก้ แบบเมื่อก่อนแล้ว เช่นเดียวที่อีกจำนวนไม่น้อยบอกว่ายุคของคู่นี้ได้จบไปแล้ว

แต่ฟุตบอลไม่เคยเดินย้อนกลับไปข้างหลัง หากแต่เดินไปข้างหน้าอยู่เสมอ พร้อมกับเรื่องราวใหม่ๆ ที่กำลังจะถูกเขียนเพิ่มทุกสัปดาห์

เกมวันเสาร์นี้ที่ ธันเดอร์โดม - เมืองทอง อันดับ 12 ขณะที่ ชลบุรี อันดับ 13 หากเป็นเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว คงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาจะเจอกันในสถานะแบบนี้

ทว่ามนต์เสน่ห์ของฟุตบอลมันอยู่ที่เรื่องในสนามแข่งขัน ความเดือด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอันดับบนตาราง แต่ขึ้นอยู่กับศักดิ์ศรีที่อยู่ลึกลงไปในดีเอ็นเอของทั้งสองสโมสร

แม้ไม่ใช่เกมลุ้นแชมป์ แต่คือเกมที่ไม่สามารถแพ้ได้

เมืองทองต้องการแต้มเพื่อตั้งหลัก

ชลบุรี เองก็ต้องการแต้มเพื่อไปต่อ

แฟนฟุตบอลของทั้งสองฝั่งต้องการชัยชนะแบบที่เคยเป็นมาตลอดหลายปี

เกมนี้อาจไม่มีดาราเต็มสนามเหมือนวันวาน แต่สิ่งที่ยังอยู่ครบคือ ประวัติศาสตร์, ความทรงจำ, ความดุเดือดบนฟลอร์หญ้าและศักดิ์ศรีที่ไม่มีวันเจือจาง

ทั้งคู่ยังสู้เพื่อทีมของตัวเองเหมือนเดิมและนั่นทำให้เกมนี้ยังเป็นไปด้วยความหมายอยู่เสมอ

เพราะบางครั้ง ฟุตบอลไม่ได้วัดกันด้วยถ้วยรางวัล แต่ด้วยหัวใจของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังทีมของตัวเอง

วันเสาร์นี้ ธันเดอร์โดม อาจไม่แตกเหมือนเมื่อก่อน แต่ความรู้สึกตอนที่นักเตะเดินออกจากอุโมงค์ เสียงแรกที่กองเชียร์ส่งมา ความเงียบก่อนเขี่ยลูกคิ๊ก-ออฟ และแรงกระเพื่อมจากศักดิ์ศรีที่ฝังอยู่ในสีเสื้อสองสี

ทั้งหมดนั้นจะทำให้คุณรู้ว่า...

แม้จะผ่านมากี่ปี

แม้จะเปลี่ยนกุนซือกี่ครั้ง

แม้จะเปลี่ยนผู้เล่นกี่ชุด

แม้สถานะจะไม่ใช่ทีมลุ้นแชมป์เหมือนเดิม

แต่เกมนี้ยังคงเป็นหนึ่งในเรื่องราวสำคัญของฟุตบอลไทย และมันยังคงบอกแฟนๆ อยู่เสมอว่า 16 ปีผ่านไป เอล กลาซิโก้ เมืองไทย ไม่มีทางที่ไฟจะดับลง



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport