การกลับมาของ มาซาทาดะ อิชิอิ สู่เวที ไทยลีก อีกครั้งหลีกแยกทางกับทีมชาติแบบฟ้าผ่า คราวนี้ในฐานะกุนซือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด คือหนึ่งในประเด็นที่แฟนๆ จับตาอย่างมาก เพราะนี่คือเทรนเนอร์ที่เคยพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์คว้า ทุกแชมป์ในสยามประเทศ และวันนี้ เขากำลังจะมาปลุกยักษ์หลับแห่งย่านรังสิต ให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
นี่คือ 5 สิ่งที่ได้เห็นเมื่อ อิชิอิ เข้ามาคุมกระต่ายแก้ว!!
[ 1 ] ลุ้นแชมป์ฟุตบอลถ้วยเต็มตัว
ต้องยอมรับว่าโอกาสลุ้นแชมป์ ไทยลีก 2025-26 ของ บีจี ปทุม นั้นห่างไกลมากๆ เนื่องจากตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นจ่าฝูงถึง 8 คะแนน แถมแข่งมากกว่า 1 เกม อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม เส้นทางฟุตบอลถ้วยยังเปิดกว้างสุดๆ
เดอะ แรบบิต ยังคงอยู่ครบทั้ง 4 ทัวร์นาเมนต์สำคัญ ไล่ตั้งแต่ ช้าง เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ช็อปปี้ คัพ และ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 และนั่นคือพื้นที่ถนัดของกุนซือซามูไรผู้นี้
อิชิอิ รู้ดีว่าการสร้าง 'ความมั่นใจ' ต้องเริ่มจาก 'การชนะในเกมสำคัญ' ด้วยมันสมองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในเมืองไทย มาหลายปี เชื่อได้เลยว่า บีจี ปทุม จะผ่านเข้ารอบลึกๆ ได้แน่นอน
ส่วนจะไปถึงแชมป์หรือไม่ เท่านั้นแหละที่ต้องลุ้นกันต่อ
[ 2 ] ระบบกองหลัง 3 คนที่จะหายไป
หนึ่งในสิ่งที่แฟนฟุตบอลจะเห็นเร็วที่สุดเมื่อ อิชิอิ เข้ามาคุมคือ 'การเปลี่ยนระบบการแล่น' เพราะกุนซือเลือดซามูไรรายนี้ ยึดมั่นกับแผน 4-3-3 มาตั้งแต่สมัยอยู่กับ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส
ระบบ 3-4-3 ที่ บีจี ปทุม ใช้ก่อนหน้านี้อาจต้องถูกพับเก็บไว้ชั่วคราว เพื่อคืนสู่รูปแบบที่นักเตะส่วนใหญ่คุ้นเคยมากกว่า
เมื่อทีมได้กลับมาเล่นในสิ่งที่เข้าใจและมีความถนัด ผลงานก็จะเริ่มกลับมาอย่างเป็นธรรมชาติ
และเมื่อถึงวันนั้น กระต่ายแก้วจะกลับมามีเขี้ยวเล็บเฉียบคมอีกครั้ง
[ 3 ] เจริญศักดิ์ กลับมาท็อปฟอร์ม
นี่อาจเป็นข่าวดีของแฟนๆ ที่รอคอย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ในเวอร์ชั่นเก่งกาจอีกครั้ง
ย้อนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เขาคือหนึ่งในปีกขวาที่โดดเด่นที่สุดของเมืองไทย แต่การกลับมาร่วมทีม บีจี ปทุม รอบสอง กลับไม่เปรี้ยงอย่างที่หวัง ด้วยปัจจัยหลายหลาก ทั้งจากแท็กติกที่ไม่เข้ากับสไตล์และความมั่นใจที่หายไป
การมาของ อิชิอิ จะเปลี่ยนทุกอย่าง เพราะนี่คือโค้ชที่รู้จักวิธีปลุกไฟในตัวผู้เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนักเตะสายสปีดอย่าง เจริญศักดิ์ ที่คุ้นเคยกันมาตั้งแต่อยู่ที่ สมุทรปราการ ซิตี้ ต่อด้วยทีมชาติไทย
เตรียมรอชมปีกจรวดจากกาญจนบุรี รายนี้ กลับมาซัดประตูพร้อมรอยยิ้มอีกครั้งได้เลย
[ 4 ] แผงมิดฟิลด์สมดุล
แม้ บีจี ปทุม จะอุดมไปด้วยมิดฟิลด์ชั้นนำของไทย แต่ที่ผ่านมา หลายคนยังดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
อิชิอิ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับ 'บาลานซ์แดนกลาง' มากเป็นพิเศษ
ภายใต้การจัดระบบของเขา แข้งไทยอย่าง สารัช อยู่เย็น, กฤษดา กาแมน, ศิวกรณ์ เตียตระกูล และ ฉัตรมงคล ทองคีรี จะได้เล่นในตำแหน่งที่เหมาะกับจังหวะการเคลื่อนที่ของแต่ละคน
ที่สำคัญคือ กาคูโตะ โนสึดะ มิดฟิลด์จากแดนอาทิตย์อุทัยที่ผ่าน เจลีก มาเกินกว่า 200 เกม จะได้แสดงคลาสบอลของตัวเองอย่างเต็มที่
เมื่อทุกชิ้นส่วนเริ่มเข้าร่องเข้ารอย - เกมของ บีจี ปทุม จะลื่นไหลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
[ 5 ] ชนาธิป เปล่งประกาย
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังคงเป็นชื่อที่ทำให้แฟนฟุตบอลมีความหวังเสมอ เพียงแต่ในช่วงที่ผ่านมา เขาไม่ได้ถูกใช้งานในตำแหน่งที่ถนัดนัก - โดยเฉพาะการถูกขยับไปยืนด้านข้าง ซึ่งลดประสิทธิภาพลงอย่างชัดเจน
อิชิอิ รู้ดีว่าแนวรุกชาวนครปฐม ต้องการอิสระในเกมรุกเพื่อสร้างสรรค์และจ่ายบอลทะลุช่อง
ดังนั้นเขาจะคืนบทบาทเพลย์เมกเกอร์ตัวกลางให้ ชนาธิป กลับมาสร้างสรรค์เกมตามธรรมชาติ
ด้วยเหตุนี้เอง เดอะ แรบบิต จะกลับมามีจอมทัพที่แฟนๆ รอคอย โดยเฉพาะหมายเลข 18 ที่พร้อมเปล่งประกายอีกครั้งในสีเสื้อน้ำเงิน-ขาวแห่งถิ่น บีจี สเตเดี้ยม