เบื้องหลังผลงานร้อนฉ่า - ผ่า 5 ปัจจัยพา ระยอง ทะยานสูง!?

เบื้องหลังผลงานร้อนฉ่า - ผ่า 5 ปัจจัยพา ระยอง ทะยานสูง!?
ผ่าน 7 เกม ไทยลีก 2025-26 ปรากฏว่า ระยอง เอฟซี สร้างเซอร์ไพรส์ทะยานรั้งอันดับ 4 ของตารางคะแนน โดยมีแต้มเหนือหลายทีมใหญ่ ซึ่งด้วยผลงานเช่นนี้ 'SIAMSPORT' จึงขันอาสาผ่าเบื้องหลังฟอร์มอันร้อนแรงของม้านิลมังกรให้คุณได้อ่านกัน!!

[ 1 ] ระบบทีมลงตัว เล่นเป็น 'หนึ่งเดียวกัน'

จุดแข็งที่สุดของ ระยอง ชุดปัจจุบันคือ 'ความเป็นทีม'

กุนซือย่าง จักรพันธ์ ปั่นปี ไม่ได้สร้างทีมโดยอิงกับซูเปอร์สตาร์ แต่เน้นการทำงานร่วมกันอย่างมีวินัยในทุกตำแหน่ง

คู่ผู้รักษาประตูอย่าง วรวุฒิ ศรีสุภา และ วิชญะ แก่นทอง สลับกันลงสนาม แต่ต่างก็ทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ

แนวรับมี สเตฟาน เชบาร่า ยืนคุมหลังร่วมกับ กฤษฎา นนทรัตน์ ซึ่งเข้าใจกันดีและเล่นได้เข้าขา

ฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งอย่าง วสุศิวกิจ ภูสีฤทธิ์ และ กิตติพัฒน์ กุลภา ก็เล่นตามแท็กติกได้อย่างรัดกุม

แดนกลางคือหัวใจของทีม เมื่อมี มานูเอล อ็อตต์ จับคู่กับ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ คอยคุมจังหวะและตัดเกม ส่วนแนวรุกใช้ความคล่องของ เคเว่น อาเลมาน, เสกสรรค์ ราตรี, เรียวมะ อิโตะ, ศุภวิชญ์ ร่มโพธิ์ภักดิ์ และ เมธี สาระคำ มาช่วยปั่นป่วนแนวรับคู่แข่ง

ข้างหน้าเป็น จูเนียร์ บาติสต้า ที่ค้ำหอกไว้ให้ สเตนิโอ จูเนียร์ ได้เล่นอย่างอิสระในบทบาทตัวฟรีตัวรุก ซึ่งทั้งหมดทำงานเชื่อมโยงกันเป็นระบบ ไม่ใช่ทีมที่ฝากความหวังไว้กับใครคนใดคนหนึ่ง

ระยอง ปีนี้จึงเป็นทีมที่วิ่งสู้ฟัดไปพร้อมกันอย่างแท้จริง


[ 2 ] สเตนิโอ ฟอร์มร้อน - 34 ยังแจ๋ว

หากพูดถึงผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ ระยอง ในซีซั่นนี้ คงหนีไม่พ้น สเตนิโอ จูเนียร์

ดาวยิงวัย 34 ปีระเบิดฟอร์มสุดฮอต ซัดไปแล้ว 5 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ จาก 7 นัด เป็นรองเพียง กีเญร์เม่ บิสโซลี่ ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เท่านั้น

สิ่งที่น่าชื่นชมคือความฟิตของเจ้าตัว ลงเล่นเต็ม 90 นาทีถึง 5 จาก 7 เกม ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพแบบสุดลิ่ม

ทุกครั้งที่บอลถึงเท้า สเตนิโอ สามารถสร้างแรงกดดันให้แนวรับคู่แข่งได้ทันที เขาแข็งแกร่ง เบียดแย่งไม่กลัวใคร แถมอ่านเกมขาด รู้จังหวะว่าเมื่อไหร่ควรยิงหรือเมื่อไหร่ควรส่ง และที่สำคัญคือมักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอในกรอบเขตโทษ

เกมรุกของม้านิลมังกรไฉไลไปไกลเช่นนี้ ก็เพราะมีหมอนี่เป็นศูนย์กลางนั่นเอง


[ 3 ] คู่กลาง อ็อตต์ - สหรัฐ 'เก็บเรียบ' แท็กติกโค้ชสั่งต้องทำ

การประสานงานของคู่มิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง มานูเอล อ็อตต์ และ สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ ถือว่าลงตัวเกินบรรยาย 

อ็อตต์ การันตีคุณภาพด้วยการรับใช้ชาติฟิลิปปินส์ มากกว่า 60 เกม แม้จะเคยไม่ประสบความสำเร็จกับ ราชบุรี เอฟซี เมื่อปี 2019 แต่ที่ ระยอง นี่คือคนละเรื่อง

ส่วนคู่ขาอย่าง สหรัฐ อดีตเด็กปั้น ชลบุรี เอฟซี ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง 'น้ำหนัก' และ 'รูปร่าง' ก็ได้ใช้ผลงานในสนามตอบกลับทุกเสียงวิจารณ์ ด้วยการเป็นนักเตะที่อยู่ในสนามนานที่สุดเป็นอันดับ 4 ของทีม (508 นาที) และไม่ถูกเปลี่ยนตัวออกเลยใน 5 เกมหลังสุดที่ออกสตาร์ตตัวจริง

สหรัฐ อาจไม่ใช่ผู้เล่นที่ว่องไวหวือหวา ออกจะดูอืดอาดเสียด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เก่งกาจคือการเล่นได้ตาม 'แท็กติก' ที่โค้ชสั่งอย่างเคร่งครัด เขาไม่นอกเหนือหน้าที่ แค่เก็บกวาดแนวรุกคู่แข่ง, ป้องกันไม่ให้บอลทะลุถึงพื้นที่สุดท้าย จากนั้นก็จ่ายต่อง่ายๆ ไม่ซับซ้อน 

การเล่นลักษณะนี้มันทรงประสิทธิภาพล้นเหลือ พอทั้งคู่จับคู่กันกับ อ็อตต์ มันเลยลงตัวและส่งผลบวกให้เพื่อนร่วมทีมไปด้วยโดยปริยาย


[ 4 ] เกมรับวินัยแน่น

แม้จะโดนเจาะตาข่ายไป 9 ประตู แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเกมรับของ ระยอง จะปวกเปียก ในทางตรงกันข้าม การที่พวกเขาช่วยกันเล่น ช่วยกันไล่ นั่นแหละ ที่ทำให้ทะยานมา ณ ปัจจุบันได้สำเร็จ

นอกจากเกมรุกที่มีประสิทธิภาพแล้ว แดนหลังของม้านิลมังกรยังจัดว่าเหนียวแน่นเกินคาด

ตลอด 7 นัดแรก พวกเขาเสียประตูน้อยกว่าหลายทีมใหญ่ ซึ่งมาจากการเล่นที่มีระเบียบและช่วยกันไล่ตั้งแต่แดนบน

การยืนตำแหน่งของแนวรับ 4 คนมีความเข้าใจสูง ไม่หลุดตำแหน่งง่าย โดยเฉพาะการซ้อนกันและการอ่านจังหวะบอลยาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมเล็กหลายทีมมักพลาด แต่ระยอง กลับทำได้อย่างมั่นคง

จักรพันธ์ ปั่นปี วางระบบให้ทุกคนเริ่มป้องกันตั้งแต่แดนหน้า ทำให้เกมรับทั้งทีมแน่นหนาขึ้นโดยอัตโนมัติ ก่อนจะนำมาซึ่ง 2 คลีนชีต ในซีซั่น  2025-26 และถ้ายังรักษามาตรฐานไปได้ยาวๆ - ปลายทางพวกเขาอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์แบบที่ไม่มีใครคาดคิดก็เป็นได้


[ 5 ] ใจกล้า ท้าชนทีมใหญ่   

ระยอง คือสโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 11 ของ ไทยลีก 2025-26 ทั้งยังมีผู้เล่นต่างชาติในทีมไม่ถึง 10 คนเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับกล้าท้าทายบรรดาทีมใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว

- เกมที่บุกไปแพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-3 ก็สู้ได้สูสี

- เสมอ การท่าเรือ เอฟซี 1-1 ที่ แพท สเตเดี้ยม ก็ไม่ได้เป็นรองมากนัก

- เปิดบ้านอัด เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-0 ชนิดที่กิเลนผยองไปไม่เป็น

3 แมตช์นี้คือหลักฐานชัดเจนว่าพวกเขา 'ไม่กลัวใคร' และไม่เลือกจะตั้งรับตลอดเวลา แต่กล้าเปิดหน้าแลกกับทีมใหญ่ด้วยความเชื่อมั่นในระบบของตัวเอง

ล่าสุดกับชัยชนะเหนือ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-0 ในบ้านคู่แข่ง ก็ยิ่งตอกย้ำว่าม้านิลมังกรทีมนี้ ไม่ใช่แค่ทีมฟอร์มดีชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็นทีมที่เล่นด้วยยากจริงๆ



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport