5 หลักฐานสำคัญกับการพา ราชบุรี ฟอร์มติดลมบนใน ไทยลีก 2025-26!!

5 หลักฐานสำคัญกับการพา ราชบุรี ฟอร์มติดลมบนใน ไทยลีก 2025-26!!
ไทยลีก 2025-26 ผ่าน 5 เกมแรกของฤดูกาลไปเป็นที่เรียบร้อย มีสิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งเมื่อ ราชบุรี เอฟซี ผงาดรั้ง 'รองจ่าฝูง' โดยมีแต้มตามหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เพียง 2 คะแนน เท่านั้น แถมยังผ่านทีมใหญ่อย่าง การท่าเรือ เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกต่างหาก ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงไปค้นคว้าหา 'หลักฐาน' ว่าเหตุใดราชันมังกรจึงฟอร์มแรงร้อนเยี่ยงนี้!!

1. แดนกลางสมดุลเหมือนเครื่องจักร

ฤดูกาลนี้ ราชบุรี เอฟซี แสดงให้เห็นถึงพลังแดนกลางที่แข็งแกร่งและสมดุลที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สโมสร การผสมผสานระหว่าง กฤษณนน ศรีสุวรรณ, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร รวมไปถึง จักรพันธ์ แก้วพรม กลายเป็นหัวใจสำคัญในการควบคุมจังหวะเกม 

พวกเขาสามารถหมุนเวียนกันได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ แถมยังมี ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร เข้ามาเติมเต็มเป็นตัวเลือกสำคัญที่ช่วยให้ทีมมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ต้องพึ่งพาใครเพียงคนเดียว

สิ่งที่เห็นชัดคือแดนกลางราชบุรีไม่ได้มีแค่การไล่บอลหรือการแย่งบอลเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างสรรค์ได้หลากหลาย - ธนวัฒน์ เป็นคนเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา มันจึงทำให้แผงมิดฟิลด์คึกคัก ยากแก่การหยุดยั้ง

ขณะเดียวกัน จักรพันธ์ ผู้มากประสบการณ์ก็คอยคุมจังหวะ ซึ่งเมื่อบวกกับที่มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล จึงทำให้หลายๆ อย่างลงตัว ส่วน กฤษณนน ที่อาจจะไม่หวือหวา แต่ประโยชน์ของเขามีมหาศาลจริงๆ 

ที่สำคัญคือต้องชื่นชมการหมุนเวียนนักเตะแบบไม่ทำให้คุณภาพตกลงของ วรวุฒิ ศรีมะฆะ ที่ใช้นักเตะเหล่านี้ในตำแหน่งที่เหมาะสม จนทำให้แดนกลาง ราชบุรี มีมิติครบถ้วน ทั้งการครองบอล, การเชื่อมเกมและการขึ้นเกมรุกจากกลางสนาม 

ถือเป็นจุดแข็งที่หลายทีมยังหาทางรับมือได้ยากจริงๆ


2. กองหน้าโหดทั้งฟอร์มสดและตัวใหม่

หนึ่งในเหตุผลที่ ราชบุรี ขึ้นมาอยู่บนหัวตารางแบบมั่นคง นั่นคือการมีตัวจบสกอร์ที่ไว้ใจได้ เริ่มจาก เอ็นจีว่า ราโกโตฮาริมาลาล่า ที่ฤดูกาลนี้ระเบิดฟอร์มเก่ง โดยเฉพาะเรื่องการปั่นป่วนแนวรับคู่ต่อสู้แล้วเปิดทางให้เพื่อนทำประตู

นอกจากนี้ เดนิลซอน สมาชิกใหม่ที่เพิ่งย้ายมาซีซั่น 2025-26 ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับไทยลีก ได้อย่างรวดเร็ว เพียง 3 นัด เขาก็ยิงไปแล้วถึง 3 ประตู ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงสัญชาตญาณกองหน้าที่แท้จริง และบ่งบอกได้ชัดว่าจะกลายเป็นกำลังหลักของทีมได้ในระยะยาว 

การมีทั้ง เอ็นจีว่า และ เดนิลซอน หมุนเวียนกันลงสนามหรือแม้แต่เล่นร่วมกัน ยิ่งเพิ่มความอันตรายให้กับเกมรุก

หากย้อนมองหลายฤดูกาลที่ผ่านมา ราชบุรี เคยมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์ แต่ฤดูกาลนี้สถานการณ์กลับต่างไปโดยสิ้นเชิง พวกเขามีตัวเลือกมากกว่า 1 คนที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ทุกเมื่อ แถมยังมี อิ๊กห์ซาน ฟานดี้, ตาน่า รวมไปถึง เนเกบา คอยหนุนหลัง ช่วยให้แดนหน้าของราชันมังกรเต็มไปด้วยมิติและพลังที่ยากจะต้านทาน


3. ตัวรุกสกิลสูงเพิ่มมิติการเข้าทำ

นอกจากกองหน้าที่เฉียบคมแล้ว ราชบุรี ยังได้เปรียบตรงที่มีผู้เล่นริมเส้นและกองกลางตัวรุกที่มีเทคนิคสูงอย่าง ตาน่า กับ เนเกบา ทั้งคู่สามารถเลี้ยงกินตัว สร้างสรรค์โอกาสและเล่นลูกเซ็ตพีซได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งพาแค่กองหน้าตัวเป้าเพียงอย่างเดียว

ตาน่า เป็นนักเตะที่คล่องแคล่ว, ปราดเปรื่อง, ไหวพริบดีและมีการตัดสินที่เฉียบขาดในการเลือกจังหวะที่จะเล่น บอลจากเท้าหมอนี่เพียงครั้งเดียวสร้างความแตกต่างได้ในชั่วพริบตา 

ขณะที่ เนเกบา ก็เป็นอีกรายที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง เล่นบอลได้ทั้งสองเท้าและหาจังหวะจ่ายคิลเลอร์พาสให้เพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำ 

การมีสองคนนี้อยู่ในทีม เท่ากับว่า ราชบุรี มีนักสร้างสรรค์เกมที่พร้อมเปิดพื้นที่ให้กองหน้าทำประตูอยู่เสมอ

เมื่อรวมเข้ากับฟอร์มแรงของ เอ็นจีว่า และ เดนิลซอน ยิ่งทำให้การเข้าทำของราชันมังกรมีทั้งการเจาะตรงกลาง, การลากเลื้อยด้านข้างและการเล่นสวนกลับเร็ว เรียกได้ว่าครบเครื่องรอบด้าน 

การที่ทีมมีตัวรุกที่พร้อมจู่โจมแบบเหนือความคาดหมาย มันทำให้คู่แข่งต้องระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็คือปัจจัยที่ส่งให้ ราชบุรี เก็บแต้มได้ต่อเนื่องแบบไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนลงเลย


4. เกมรับแข็งแกร่ง-ผู้รักษาประตูเหนียวหนึบ

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ ราชบุรี แตกต่างจากฤดูกาลก่อนคือ 'เกมรับ' ที่แน่นขึ้นแบบชัดเจน 

การจับคู่ระหว่าง โจนาธาร เข็มดี กับ กาเบรียล มูทอมโบ กลายเป็นป้อมปราการเหล็กที่ยากแก่การเจาะเข้าไป ทั้งคู่มีจุดเด่นแตกต่างกัน แต่เข้ากันได้ลงตัว 

โจนาธาร แพสชั่นล้นเหลือ, อ่านเกมดี, ดุดันและเล่นบอลบนพื้นได้ ส่วน มูทอมโบ เป็นกองหลังสายบู๊ที่ตัดบอลได้เด็ดขาด เก็บเกมกลางอากาศได้หมดจรด ทำให้แนวรับราชันมังกรเสียประตูน้อยที่สุดในฤดูกาลปัจจุบันกับการโดนไปเพียง 2 ลูก จาก 5 เกม 

อีกปัจจัยที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบตามมาตรฐาน ตลอด 5 เกมแรก เขาเก็บได้ถึง 3 คลีนชีต และมีจังหวะเซฟสำคัญหลายครั้งที่ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูง่ายๆ 

สิ่งนี้ทำให้แนวรับ ราชบุรี มั่นใจและกล้าเล่นมากขึ้น เพราะรู้ว่าด้านหลังยังมีนายด่านที่ไว้ใจได้คอยป้องกัน

ความแข็งแกร่งของแนวรับไม่ได้หยุดแค่เซนเตอร์หรือผู้รักษาประตู แต่รวมไปถึงฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งด้วย - ด้านขวาสลับใช้ เจสซี่ คูร์แรน กับ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ทางซ้ายมีทั้ง เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม, อภิสิทธิ์ โสรฎา และ ซิดคลี่ย์ ช่วยเติมเกมรุกได้ไม่ขาดตกบกพร่อง 

การมีตัวเลือกหมุนเวียนหลายคนทำให้ทีมสามารถรักษาความสดใหม่ได้ตลอดทั้งฤดูกาล


5. ระบบทีมที่ลงตัวและแรงหนุนจากผู้เล่นคนที่ 12

วรวุฒิ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชที่เคยเป็นดาวยิงทีมชาติไทย สามารถนำประสบการณ์และมุมมองเกมรุกมาปรับใช้กับ ราชบุรี ได้อย่างลงตัว เขาเน้นเกมรุกที่ดุดัน แต่ก็ไม่ละเลยเกมรับ ทำให้ทีมมีสมดุลที่ชัดเจนและแตกต่างจากหลายฤดูกาลก่อน 

การฝึกซ้อมที่เข้มข้นและการวางแท็กติกที่เหมาะสม ช่วยให้ผู้เล่นทุกคนเข้าใจบทบาทและเล่นกันเป็นระบบ

สิ่งที่ต้องยกย่องคือ วรวุฒิ ทำให้ทีมนี้เล่นกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ไม่ได้พึ่งพานักเตะต่างชาติหรือสตาร์เพียงไม่กี่คน แต่ทุกคนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นฮีโร่ได้ในแต่ละนัด ความมั่นใจของทีมจึงถูกสะท้อนออกมาเป็นผลงานในสนาม

นอกจากนี้ ยังมีพลังเสียงเชียร์จากแฟนๆ ที่หนุนหลังทีมอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าจะเล่นในบ้านที่ ราชบุรี สเตเดี้ยม หรือบุกไปเยือนสนามอื่นๆ แฟนๆ ก็พร้อมส่งกำลังใจให้ตลอด 90 นาที 

เสียงเชียร์และบรรยากาศเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้นักเตะฮึกเหิม แต่ยังทำให้คู่แข่งรู้สึกกดดันเสมอ นี่คืออีกหนึ่งอาวุธลับที่ช่วยผลักดันให้ ราชบุรี มีลุ้นยืนระยะยาวบนหัวตารางในซีซั่นนี้



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport