ไทยลีก 2025-26 เตรียมเปิดฉากในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นอกเหนือไปจากผู้เล่นที่โยกย้าย ยังมีเรื่องของ 'เฮดโค้ช' ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากนี่คือตำแหน่งที่จะชี้ผลแพ้-ชนะในเกมการแข่งขัน
ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสาพาคุณไปพบกับ 6 กุนซือคนใหม่ของทีมที่มีการเปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์ในซีซั่นที่กำลังจะถึงนี้!!
[ 1 ] รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค
สโมสร: เมืองทอง ยูไนเต็ด
สัญชาติ: ไทย
อายุ: 46
ระบบการเล่น: 4-3-3
รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ผู้ประสบความสำเร็จมากมายในฐานะผู้เล่น ทำให้เขามีบารมีเหลือล้นและสามารถคุมนักเตะได้อย่างอยู่หมัด
'โค้ชอ้น' เป็นหนึ่งในกุนซืออายุน้อยที่เก่งที่สุดของประเทศ เพราะนอกจากจะปั้นดาวรุ่งได้เก่งกาจ พร้อมทั้งขัดเกลาแข้งมากประสบการณ์จนกลับมาโชว์ฟอร์มเก่งได้มากมาย สไตล์การทำทีมของเขาก็ให้ความสำคัญกับการเล่นกับพื้น ไม่มีเตะทิ้งโฉ่งฉ่าง หากนักเตะเรียนรู้ระบบได้ไว รับประกันเลยว่าประสิทธิภาพสูงแน่นอน
เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมที่เปลี่ยนแปลงเทรนเนอร์บ่อย ดังนั้นเขาจึงอยู่ในตำแหน่งได้อย่างสบายๆ แบบไร้กังวล แต่ถ้าฟอร์มหลุดหลายเกมติดต่อกัน ก็มีโอกาสที่เก้าอี้จะร้อนได้เช่นกัน
สิ่งที่น่าจับตาคือ รังสรรค์ จะสามารถพากิเลนผยองกลับมาท้าทายแชมป์ได้อย่างเต็มตัวหรือไม่
[ 2 ] วันแดร์เลย์
สโมสร: ลำพูน วอร์ริเออร์ส
สัญชาติ: บราซิล
อายุ: 60
ระบบการเล่น: 4-1-4-1
การกลับมาของ วันแดร์เลย์ คือการผนึกกำลังครั้งสำคัญของ ลำพูน วอร์ริเออร์ส หลังจากที่เขาเคยพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร พร้อมคว้าแชมป์ ไทยลีก 2 ซีซัน 2021-22
นอกเหนือไปจากนี้ ราชันโคขาวยังได้ จงสฤษดิ์ วุฒิช่วย คัมแบ็กมาช่วยงานอีกครั้ง ซึ่งน่าจะทำให้พวกเขาสามารถรักษาความต่อเนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นโค้ชชาวบราซิล แต่สไตล์การทำทีมของ วันแดร์เลย์ คือเน้นผลการแข่งขัน ซึ่งไม่แตกต่างจาก อเล็กซานเดร กามา สิ่งที่ต้องมาดูกันคือผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นไร และเขาจะสามารถพาทีมไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาล 2025-26
[ 3 ] อิสระ ศรีทะโร
สโมสร: นครราชสีมา เอฟซี
สัญชาติ: ไทย
อายุ: 45
ระบบการเล่น: 4-2-3-1
นครราชสีมา เอฟซี มีการเปลี่ยนแปลงทีมมากมาย ทั้งในส่วนของนักเตะและเฮดโค้ช ทำให้เป็นเรื่องน่าสนใจอย่างยิ่งว่าแมวพิฆาตจะเดินไปในทิศทางใดต่อจากนี้ เพราะแทบทุกอย่างคือ 'ใหม่หมด'
อิสระ ศรีทะโร มีโปรไฟล์ที่น่าสนใจจากการเคยทำทีมเยาวชนไทย มานาน ในขณะที่สโมสรก็เคยคุมมาแล้วทั้ง ชัยนาท ฮอร์นบิลล์, อาร์มี่ ยูไนเต็ด, ประจวบ เอฟซี และ สุพรรณบุรี เอฟซี
อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2024-25 เขาไม่สามารถพา สุพรรณบุรี รอดพ้นการตกชั้นได้ ทำให้เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่ากุนซือรายนี้จะได้คุม นครราชสีมา จนครบซีซันหรือไม่ และเขาจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมได้มากแค่ไหน
[ 4 ] อเล็กซานเดร กามา
สโมสร: การท่าเรือ เอฟซี
สัญชาติ: บราซิล
อายุ: 57
ระบบการเล่น: 4-3-3
อเล็กซานเดร กามา คือกุนซือต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเมืองไทย จากการพา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด คว้าแชมป์มากมาย
พอไปคุม ลำพูน วอร์ริเออร์ส เขาก็สามารถฉุดทีมที่อยู่ในโซนตกชั้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางได้อย่างสบายๆ และวางรากฐานจนราชันโคขาวไม่เป็นสองรองใครอีกต่อไป
เขาเป็นโค้ชที่มากด้วยแท็กติกและที่สำคัญคือมีความยืดหยุ่นสูง ดังนั้นถ้าได้กำกับ การท่าเรือ เอฟซี ไปนานๆ รับประกันเลยว่าถ้วยรางวัลจะหวนคืนสู่ แพท สเตเดี้ยม ในไม่ช้าอย่างแน่นอน
[ 5 ] ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น
สโมสร: ชลบุรี เอฟซี
สัญชาติ: ไทย
อายุ: 47
ระบบการเล่น: 4-2-3-1
"ปลุกฉลาม ต้องใช้เลือดฉลาม" ชลบุรี เอฟซี เลือกใช้บริการ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือที่เป็นทั้งชาวชลบุรี โดยกำเนิด และยังเคยเล่นที่นี่เมื่อครั้งเป็นนักเตะ
'โค้ชโจ' โดดเด่นในเรื่องของจิตวิทยา เพราะมักจะดึงศักยภาพของผู้เล่นออกมาใช้ได้ในขีดสูงสุด ดังนั้นการมาคุมฉลามหนุ่มจึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะสามารถพาทีมไปได้ไกลเพียงใด
ชลบุรี มีการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยม ทุกตำแหน่งมีตัวเลือกให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ หากเขาสามารถรวมใจนักเตะและปรับจูนทีมได้อย่างลงตัว อดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 จะเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าจับตาในฤดูกาลนี้
[ 6 ] จิโน่ เล็ตติเอรี่
สโมสร: อุทัยธานี เอฟซี
สัญชาติ: สวิตเซอร์แลนด์
อายุ: 58
ระบบการเล่น: 4-3-3
ฤดูกาล 2024-25 ผลงานของ จิโน่ เล็ตติเอรี่ กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แม้จะจบอันดับ 6 ใน ไทยลีก แต่โดยรวม เขาทำให้กิเลนผยองเป็นทีมที่ไม่มีใครกล้าประมาทเลยสักวินาที
การย้ายมาคุม อุทัยธานี เอฟซี - เทรนเนอร์เชื้อสายสวิส-อิตาลี จะทำงานได้ง่ายขึ้นเยอะ เพราะช้างป่าห้วยขาแข้งอุดมไปด้วยผู้เล่นลูกครึ่งเต็มไปหมด ดังนั้นเรื่องการสื่อสารจึงคล่องปร๋อ ซึ่งมันย่อมส่งผลไปในทิศทางบวกแน่นอน
สิ่งที่น่าสนใจคือแท็กติกการเล่นที่หลากหลายและเข้าใจง่ายของ เล็ตติเอรี่ แต่ด้วยความที่เป็นกุนซือจอมโวยวาย ก็อาจจะทำให้นักเตะรู้สึกเกร็งในสนามได้ เช่นกัน ต้องรอดูกันว่าสไตล์ของเขาจะเข้ากับ อุทัยธานี ได้ดีเพียงใด